บทความนี้แด่ลูก "แม่โดม"
ฤา จิตวิญญาณ ของชาวเหลืองเเดง-ธรรมศาสตร์สิ้นแล้ว
เย็นวันเสาร์วันหนึ่งผมนั่งรถเมล์ผ่านไปที่สนามหลวง ภาพชีวิตที่พบเห็นยังคงเคลื่อนไหวเหมือนดั่งที่เคยได้ยล ฝูงนกพิราปยังคงโบยบินโฉบลงมาจิกกินเมล็ดถั่วเมล็ดข้าวที่ผู้คนโปรยให้ ต้นมะขามยังคงยืนต้นตะหง่านเป็นทิวแถวให้ผู้คนที่ผ่านทางมาอาศัยร่มเงาพักคลายร้อน พลัน
ตัดภาพไปยังฝูงชนไม่กี่ร้อยคนชุมนุมกันอย่างอนาถาที่ขอบสนามหลวงด้านหนึ่ง เปิดไฮปาร์คต่อต้านคมช.และรัฐบาล แต่ผมไม่เห็นวี่แววของชาวธรรมศาสตร์เลยแม้เเต่เงา
พลันผมเงยหน้าขึ้นมองข้ามสนามหลวงไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพ่งสายตาอยู่ที่ภาพนิ่งนั้นราว 1 นาทีเต็ม เฝ้าถามตัวเองว่าทำไมพวกเขาจึงไม่มา
ทำไมจึงเป็นม็อบอนาถากลุ่มนี้ ทำไมจึงไม่เป็นชาวเหลืองแดงธรรมศาสตร์ มันต้องมีอะไรสักอย่างหรือหลายอย่างผิดพลาดอย่างแน่นอน ผิดฝา ผิดตัว ผิดเวลา ผิดสถานที่ ผิดอะไรกันแน่ ? ผมหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้
พลันผมหลับตาหันหลังกลับ พอดีรถเมล์ผ่านมา จีงก้าวขึ้นรถ โชคดีมีที่นั่งว่างจึงนั่งลงหลับตามาตลอดทาง พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง รถเมล์เเล่นมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผมทบทวนเหตุการณ์ที่ได้พบเห็นมาอีกครั้ง มันมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันบ้างมั้ยระหว่าง ประชาธิปไตย สนามหลวง ต้นมะขาม นกพิราป ม็อบ ธรรมศาสตร์ มันอาจจะเคยมี แต่นานมากแล้ว นาทีนี้ผมชักไม่เเน่ใจว่ามี ธรรมศาสตร์ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
จิตวิญญาณ ผมเคยดูแคลนคนที่นำคำนี้มาใช้เป็นอย่างมากว่า กระเเดะ!! คงหวังเพื่อยกระดับกลุ่มก้อนของตัวเองให้เเตกต่างจากชนส่วนใหญ่ของสังคม ผมเคยดูหมิ่นฮิปปี้ ลากรองเท้ายาง ผมยาวกระเซอะกระเซิง ที่ตีตราตัวเองว่าเป็นปัญญาชน ผมเคยลงความเห็นแบบเหมาเข่งว่า ชาวธรรมศาสตร์ชอบใช้คำว่า จิตวิญญาณ กันอย่างพร่ำเพรื่อแบบไร้สติ ครั้นเมื่อผมเติบใหญ่ขึ้น รับรู้ข้อมูลข่าวสารเข้าสู่ร่องสมองมากขึ้นและสามารถคิดได้ด้วยตัวเอง ผมตระหนักดีว่ามิอาจดูแคลนผู้หนึ่งผู้ใดที่เห็นแต่เพียงภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น กาลต่อมาผมได้ประจักษ์แจ้งว่า ด้วย จิตวิญญาณ นี่เอง ที่ได้หล่อหลอมชาวธรรมศาสตร์ให้เรืองภูมิปัญญาและมีจิตใจที่หาญกล้า วีรกรรมที่ชาวธรรมศาสตร์เป็นแกนนำต่อสู้กับปากกระบอกปืนและรถถังของเผด็จการทหาร อีกทั้งยืนเคียงข้างอยู่กับประชาชนอย่างไม่ท้อถอย คนไทยมิมีวันลืมเลือนวีระชน ตุลาคม 2516 และ 2519 สมทบด้วย พฤษภาคม 2535 วีรกรรมเหล่านี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างที่ไม่มีใครมาบิดเบือนได้ เรารักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน ผมชอบคำขวัญนี้จัง!!!
ทุกคราที่มีโอกาสได้ไปเยือนย่านท่าพระจันทร์ ไม่มีครั้งใดเลยที่ผมมิได้หันหน้าไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่มีครั้งใดเลยที่ผมมิได้เพ่งพิศตึกโดมด้วยความชื่นชม ผมเคยได้ยินได้ฟังคำกล่าวขานถึงท่านปรีดี พนมยงค์ และอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มามิใช่น้อย มิได้มีข้อกังขาในใจแม้เพียงน้อยนิดต่อความเป็น ครู ของท่านทั้งสอง ครั้นถึงคราที่หมดวาระของท่าน เหล่าคณาจารย์รุ่นต่อมายังคงสืบสานปณิธานของท่านมาอย่างมิขาดสาย ดุจสายน้ำเจ้าพระยาที่ไหลมาหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวไทย ครูดีย่อมเป็นเบ้าหลอมบ่มเพาะศิษย์ให้เจริญรอยตามจริยาวัตรของครู จึงมิน่าแปลกใจแต่อย่างใดเลยที่ ธรรมศาสตร์ เป็นสถาบันหลักของชาติที่เจียรนัย เม็ดกรวด เม็ดทราย ให้เป็นเพชรที่ทอเเสงอย่างมีคุณค่า ลูกแม่โดมจำนวนมาก รุ่นแล้วรุ่นเล่าต่างทะยอยออกมาเป็นแกนหลักของสังคมไทยทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา
ลุมาถึงเหตุการณ์ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 เดือน 9 ปี 2549 มีชาวโดมเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่ออกมาต่อต้านเผด็จการทหารที่ยึดอำนาจไปจากประชาชน จิตวิญญาณ ของชาวโดมหายไปไหนกันหมด แทนที่จะไม่ร่วมมือกันต่อต้านคณะผู้ยึดอำนาจ การณ์กลับซ้ำร้ายไปยิ่งกว่านั้น ชนชั้นผู้นำของชาวโดมกลับไปเป็นมือเป็นไม้ให้กับคมช.เสียอีก ตัวอย่างมีให้เห็นกันชัดๆ อธิการบดีมธ.และอาจารย์ตัวเป้งๆได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ท่านอธิการบดีได้ให้เหตุผลว่า ท่านได้รับการแต่งตั้งโดยตำแหน่ง อีกทั้งในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของคมช.ย่อมไม่สามารถปฎิเสธได้ โดมตัวใหญ่ไร้จุดยืนที่มั่นคง ลูกแม่โดมเลยเดินไม่เป็นกันกระนั้นฤา
ทำไมท่านไม่ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี ถึงจะมีการสรรหาอธิการบดีคนใหม่ได้ก็ลาออกอีก เพื่อแสดงจุดยืนให้ประชาคมได้เห็นว่าชาวธรรมศาสตร์ต่อต้านเผด็จการทหารที่มาปล้นอำนาจไปจากประชาชน ชาวธรรมศาสตร์พร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างกับประชาชน
นี่ยังไม่นับรวมศิษย์เก่ามธ.หรือโดมชราหลายท่านที่ได้รับการเเต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี เป็นคณะกรรมการต่างๆ ที่เป็นกลไกขับเคลื่อนให้กับคมช. ถามสักคำเถิดท่าน พวกท่านรับตำแหน่งไปได้อย่างไร ลืมอาจารย์ปรีดี ลืมอาจารย์ป๋วย ลืมวีรกรรมเก่าๆที่เคยต้านเผด็จการ ลืมบทบาทที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนเสียสิ้นแล้ว
ฤาว่า จิตวิญญาณ ของชาวโดมเปลี่ยนไป
ฤาว่า ชาวโดมลืมคำขวัญมธ. เรารักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน
ฤาว่า ชาวโดมตีความหมายของคำว่า ประชาชน เพี้ยนไปจากเดิม ประชาชนอาจหมายถึงตัวท่านเอง
ฤาว่า ชาวโดมเลิกสอนให้ลูกโดมต่อต้านเผด็จการ เลิกสอนให้ลูกโดมรักประชาชน
การที่มธ.ไม่ได้รับการจัดอันดับโดยสกอ.ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศนั้น ดูจะเป็นข้อกังวลของท่านอธิการบดีไม่น้อย จึงได้ออกมาแถลงข่าวโต้ตอบว่าสกอ.ใช้เกณฑ์การจัดอันดับที่ไม่ได้มาตรฐาน จะกังวลไปใยท่านอธิการบดี ประเด็นที่ท่านควรกังวลมากที่สุดคือ ทำอย่างไรธรรมศาสตร์จึงจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ในใจของประชาชน ท่านทำได้ครับ!! ด้วยการแสดงจุดยืนว่าอยู่เคียงข้างกับประชาชน แต่นี่กลับไปสวามิภักดิ์เผด็จการ มันเป็นไปได้อย่างไรกันนี่ แผนที่ประวัติศาสตร์การยึดอำนาจในประเทศไทย เคยมีครั้งไหนบ้างที่รัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหารเคยฝากผลงานที่ดีเอาไว้ให้กับประเทศชาติบ้าง ประชาคมมธ.ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้
มธ.ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนต่อสังคมว่า เพราะเหตุใดชาวธรรมศาสตร์จึงไม่กล้าออกมาต่อต้านเผด็จการอย่างเป็นรูปธรรมอย่างที่เคยเป็นมา
มธ.ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนต่อสังคมว่า เพราะเหตุใดผู้บริหารและคณาจารย์จึงไปรับตำแหน่งในสนช.
มธ.ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนต่อสังคมว่า เพราะเหตุใดชาวมธจึงไม่ออกมายืนเคียงข้างประชาชน
มธ.ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนต่อสังคมว่า เพราะเหตุใดชาวมธ.จึงไม่ออกมาจุดเทียนส่องทางให้กับผู้คนในแผ่นดินนี้ ชาวบ้านยังรู้เลยว่ามีข้อเคลือบเเคลงสงสัยต่อกระบวนการยุติธรรมในขั้นอัยการและศาล (ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ) ประชาชนที่ไหนจะกล้าออกมาวิจารณ์อัยการและศาล ประชาคมชาวมธ.ไม่ทราบเลยจริงๆหรือ หากพวกท่านไม่กล้าจุดเทียนส่องทางแล้ว ผู้ใดในแผ่นดินนี้หรือจะกล้า จะปล่อยให้ฟ้ามืดมิดปิดสนิทต่อไปหรือท่าน
รัฐประหารคราวหน้า (ถ้าหากมี) แกนนำที่ออกมาต่อต้านคณะผู้ยึดอำนาจ อาจเป็นคณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชน คนขับรถแท็กซี่ แม่ค้าขายส้มตำ ฯลฯ คงหมดวาระจากประชาคมของลูกแม่โดมเสียแล้ว ขอส่งท้ายว่า หากประชาคมชาวธรรมศาสตร์ไม่สามารถตอบคำถามข้างบนได้เเล้วไซร้ ผมขอเสนอให้ถอนคำขวัญของมธ. เรารักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน เพราะว่ามันไม่ใช่ของจริง หลอกทั้งตัวเอง หลอกประชาชนทั้งประเทศ!!!
ป.ล. ขอเก็บค่าอ่านบทความนี้หน่อยนะท่าน ช่วยส่งบทความนี้ให้กับลูกแม่โดมสักคนที่ท่านรู้จัก
(ไม่สงวนลิขสิทธิ์บทความนี้แต่อย่างใด อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ได้)
ขอขอบพระคุณมาก
เปลว คนรากหญ้า
จากคุณ :
parivatana
- [
13 ม.ค. 50 10:25:21
A:61.47.25.252 X:61.47.25.250
]