ความคิดเห็นที่ 29
ดาวเทียมไอพีสตาร์(iPstar) (ไทยคำสี่)ซึ่งเป็นดาวเทียมสื่อสารเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่สุดในโลกขณะนี้ของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) จะขึ้นไปโคจรรอบโลก โดยไอพีสตาร์จะถูกส่งจากฐานปล่อยจรวดที่เมืองคูรู จังหวัดโพ้นทะเลเฟรนซ์กิยานา ประเทศฝรั่งเศส เวลา 13.39 น.วันนี้ (11 ส.ค.) ตามเวลาประเทศไทย "ไทยคม 4 - ไอพีสตาร์" ดาวเทียมบรอดแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก ไอพีสตาร์ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทสเปซ ซิสเต็มส์ ลอเรล (Space System / Loral - SS/L) จะถูกขึ้นสู่วงโคจรด้วยจรวดแอเรียน 5 (Ariane 5) ของบริษัทแอเรียนสเปซ (Arianespace) ซึ่งการทำหน้าที่ในการส่งดาวเทียมน้ำหนัก 14,300 ปอนด์หรือ 6,486.48 กิโลกรัมขึ้นสู่วงโคจรนั้นนับเป็นการขนส่งดาวเทียมเชิงพาณิชย์ที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมี และเมื่อไอพีสตาร์ถูกส่งขึ้นไปแล้วจะโคจรที่ความสูง 22,300 ไมล์หรือ 35,880.7 กิโลเมตรเหนือเส้นสูตรศูนย์ และอยู่ในวงโคจรที่ 120 องศาตะวันออก นายชาญชัย เพียรวิจารณ์พงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งดาวเทียมว่าในการจะส่งดาวเทียมแต่ละครั้งจะต้องขอจองวงโคจรและขอใช้ความถี่จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union: ITU) ซึ่งประเทศไทยมีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เป็นผู้ดูแลในการขอใช้วงโคจรและความถี่ดังกล่าว นายชาญชัยซึ่งเป็นผู้อำนวยการโครงการดาวเทียมธีออสดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติดวงแรกของไทยให้ความเห็นเกี่ยวกับไอพีสตาร์หรือไทยคม 4 ว่าดาวเทียมดวงนี้มีความแตกต่างจากไทยคม 1-3 ดาวเทียม 3 ดวงแรกของชินแซทว่าไอพีสตาร์สามารถส่งข้อมูลได้มากกว่าเนื่องจากมีหลายความถี่โดยจะใช้เพื่อการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูล ส่งสัญญาณโทรศัพท์ ถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณเสียง เป็นต้น ซึ่งไทยคมรุ่นก่อนๆ ไม่สามารถทำได้ ส่วนลักษณะการส่งสัญญาณนั้น นายชาญชัยอธิบายว่าการส่งสัญญาณลักษณะ สปอต บีม (Spot beam) หรือการส่งสัญญาณคล้ายๆ การส่องไฟฉาย ซึ่งจะทำให้ส่งสัญญาณได้ตรงจุดมากขึ้นและใช้จานรับสัญญาณที่เล็กลง และขนาดของดาวเทียมที่ใหญ่จะทำให้ส่งสัญญาณได้กว้างเปรียบเหมือนกับการมีเส้นทางจราจรที่กว้างทำให้มีการสัญจรได้มาก และสำหรับดาวเทียมบรอดแบนด์อย่างไอพีสตาร์นี้หลายประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่นหรืออินเดียก็มีใช้แล้ว แต่ดาวเทียมดวงล่าสุดของ ชินแซต เป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุด นายชาญชัยให้ข้อมูลต่อว่า ชินแซต เป็นเอกชนรายเดียวที่ได้รับสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารจากกระทรวงคมนาคมเป็นเวลา 30 ปี (ระหว่างปี 2534-2564) โดยมีระยะเวลาคุ้มครองสิทธิ์ 8 ปีแรกที่เอกชนรายอื่นไม่สามารถแข่งขัน ซึ่งได้ครบกำหนดการคุ้มครองสิทธิ์แล้ว ดังนั้นเอกชนรายอื่นก็สามารถทำการส่งดาวเทียมได้แต่น่าจะเป็นลักษณะร่วมทุนมากกว่าเนื่องจากเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดีทาง ชินแซต ยังเดินหน้าที่จะสร้างดาวเทียมสื่อสารดวงที่ 5 หรือดาวเทียมไทยคม 5 ต่อไป โดยได้เลือกบริษัทอัลคาเทล (Alcatel) ของฝรั่งเศสสร้างดาวเทียมราคา 100 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 4,120 ล้านบาทเพื่อส่งขึ้นไปโคจรในเดือน เม.ย.2549 ซึ่งไทยคม 5 จะให้บริการส่งสัญญาณโทรทัศน์ตรงจากดาวเทียมถึงบ้านให้กับลูกค้าในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และยังจะทำหน้าที่ทดแทนส่วนที่บกพร่องของไทย 3 ด้วย ทั้งนี้ดาวเทียมดวงต่อไปสามารถแจกจ่ายความถี่ได้ 38 ช่องสัญญาณ (transponder) และมีอายุการใช้งานนาน 12 ปีเช่นเดียวกับไอพีสตาร์ ผู้จัดการออนไลน์
จากคุณ :
qgee
- [
18 ม.ค. 50 20:46:28
A:58.136.224.248 X:
]
|
|
|