ผมเป็นคนสุพรรณบุรีโดยกำเนิด ปัจจุบันถึงจะมาตั้งหลักปักฐานอยู่กรุงเทพฯ จนเป็นฝั่งแถมยังมีฝาและยังเป็นฝ้าอีกด้วย แต่ก็ยังไม่ได้โอนย้ายชื่อเข้ามาในกรุงเทพฯเป็นพลเมืองของคุณอภิรักษ์รูปหล่อขวัญใจชาวโบ๊เบ๊แต่อย่างใด
เมื่อมีรัฐธรรมนูญปี 40 ใหม่ๆ ผมไปเลือกตั้งครั้งเดียว คือครั้งแรกที่เริ่มใช้รัฐธรรมนูญเท่านั้น ไปเลือก สส.เพราะคุณแม่ขอร้อง(จริงๆ เพราะแม่เป็นคนบ้านนอก กลัวว่าจะมีความผิดถึงขั้นติดคุก) แต่หลังจากนั้น ผมยอมรับสารภาพว่า ผมไม่เคยไปเลือกตั้งอีกเลย ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม
เพราะใจคิดว่าไม่เห็นประโยชน์ใดๆ กับการเลือกตัวแทนเหล่านี้ เพราะยังไงจังหวัดผมก็มี สส.ผูกขาดจำเจซ้ำซากอยู่เท่านั้น ก็คือนายบรรหาร - ลูกสาว - ลูกชาย เพื่อนๆของเขาก็คือนายจองชัย นายประภัตร์ แล้วก็หมอเอื้อ (บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ)
เป็นการคิดแบบผิดๆของผม เยาวชนไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง...เด็กและสตรีมีครรภ์ควรพิจารณา !
แต่เมื่อคราวเลือกตั้งปี 2548 ผมกลับสุพรรณฯไปเลือกตั้งด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมไปเลือกพรรคไทยรักไทย..
พูดถึงนายบรรหาร ศิลปะอาชา อดีตนายกรัฐมตรี และ สส.ผูกขาดของจังหวัดสุพรรณฯไม่มีใครไม่รู้จักเขา เพราะฉายาของเขาคือ ไอ้ 5 สั้น ...แต่ผู้รู้บางคนบอกว่า อาจมีถึง 7 หรือ 8 สั้นทีเดียว
ลักษณะนิสัยของนายบรรหารถึงไม่บรรยายก็คงจะทราบๆกัน เขาเป็นพ่อค้าเต็มตัว คร่ำหวอดอยู่ในวงการค้าพอๆกับวงการเมือง และเขาเป็นเจ้าของวาทะอันลือลั่น เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง นับตั้งแต่เขากล่าววาทะนี้ เขาก็ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านอีกเลย และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นร่วมรัฐบาลให้ได้ จนเมื่อเลือกตั้งปี 2548 สมัยรัฐบาลทักษิณ ที่พรรคไทยรักไทยได้ สส.พรรคเดียวเกินครึ่งสภา ทำให้นายบรรหารต้องระเห็จมาอยู่กับพวกฝ่ายค้านอย่างไม่เต็มใจนัก แม้ปากจะบอกว่าเราขอเป็นฝ่ายค้าน(ที่ค้านไม่เป็น) แต่สายตาของเขาดูละห้อยอย่างไรพิกล
ถ้าพูดกันตรงๆ ฟันธงแบบหมอลักษณ์แล้ว สำหรับผม...นายบรรหารเป็นคนที่ คบไม่ได้ เพราะไม่เคยเป็นมิตรแท้ และศัตรูถาวรกับใคร ดูตัวอย่างกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ก่นโคตรเหง้านายบรรหารมาประจาน นายบรรหารก็ยังกลับมาคบอีกได้
นายบรรหาร มองประโยชน์เป็นที่ตั้งอย่างเดียว ประโยชน์ใครหรือ...ไม่ต้องตอบคำถามผมหรอก !
พี่เขยของผม เคยเล่าประวัติวิธีการหาเสียงของนายบรรหารกับคู่แข่งให้ผมฟัง โดยการทำให้ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งถูกชาวบ้านเบื่อหน่าย และต้องหันมาเลือกนายบรรหาร...
สมัยนั้น นายบรรหารสมัคร สส.แข่งกับ นายทองหยด จิตตะวีระ โดยชื่อชั้นแล้วนายบรรหารห่างกับนายทองหยดมากมายนัก รวมทั้งความสูงที่นายทองหยดสูงกว่า และยาวกว่าในทุกๆอย่าง
แต่ด้วยกลโกง เล่ห์เหลี่ยม นายบรรหารสร้างความเบื่อหน่ายนายทองหยดให้กับชาวบ้าน โดยที่นายทองหยดเองกว่าจะรู้ก็เมื่อสายเสียแล้ว
นายบรรหารได้ให้หัวคะแนนของตนเกณฑ์สมุน(ว่าจ้าง)ประมาณเกือบร้อยคน ออกตีเกราะเคาะประตูปลุกชาวบ้านตอนตีสี่ตีห้า เคาะประตูบ้านทุกๆบ้าน และบอกชาวบ้านทุกคนว่า โปรดเลือกนายทองหยดนะครับ ๆ ๆ"
ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 1 เดือนก่อนการเลือกตั้ง จนชาวบ้านคิดว่าเป็นทีมหาเสียงของนายทองหยดจริงๆ สร้างความโกรธเกรี้ยว หงุดหงิดให้กับชาวบ้าน ด่าว่านายทองหยดว่าไม่เกรงใจชาวบ้านชาวเมืองเลย คนจะหลับจะนอน บางคนงัวเงียๆเปิดประตูมาด่า สุดท้าย...จึงหันไปเลือกนายบรรหาร...
นี่เป็นวิธีหนึ่ง ในหลายร้อยหลากวิธีการของนายบรรหาร ....
การที่นายบรรหารได้สร้างความเจริญให้จังหวัดสุพรรณฯนั้น ก็ถือว่าเป็นการหาเสียงอย่างหนึ่งของนายบรรหาร ไม่ต่างอะไรกับนโยบายประชานิยมของนายกทักษิณ แต่ต่างกันที่นายกทักษิณ มองในมุมที่กว้างกว่านายบรรหารมากมายนัก
แม่ผมเริ่มเกลียดนายบรรหารตามประสาคนบ้านนอกที่รักจริงเกลียดจริงและไม่รู้สันดานนายบรรหาร ก็ตอนเมื่อเห็นนายบรรหารไปร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ถล่มนายกทักษิณ
แม่ผมฉุนขาด หันไปตวาดกับจอทีวีจนพ่อผมตกใจทำท่าจะผละหนี "ไอ้สันขวานเอ๊ย...เขาขุดโคตรเหง้ามรึงมาก่นมาด่าขนาดนี้ จนลูกสาวมรึงร้องไห้โฮๆมาฟ้องกับคนสุพรรณฯว่าพ่อถูกด่า มรึงยังไม่สำนึก ไม่เจ็บ ไม่จำอีก ไอ้หอกหัก ต่อไปมรึงอย่าหวังเลย ว่ากรูจะเลือกมรึง" สำเนียงสุพรรณเป๊ะๆ
แม่ผมพูดอย่างนี้จริงๆ พ่อผมเป็นพยานได้ !
บทบาทของนายบรรหารทุกวันนี้ ที่ออกข่าวมาทีไร ก็พยายามจะดิสเครดิตคุณทักษิณอยู่ตลอด ทำตัวเสมือนว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านของเมือง แสร้งทำเป็นพูดแกมน้อยใจคุณทักษิณว่าเตือนแล้วไม่เชื่อ โธ่...
นายบรรหารคงหวังจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง เพราะคงเดาว่าพรรคไทยรักไทย กับประชาธิปัตย์น่าจะถูกยุบไปด้วยกัน จึงไม่มีตัวที่จะมาเป็นนายกฯนอกจากตนเองเท่านั้น
จะได้เป็นหรือไม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญของพลเอกสนธิ(ถ้ายังคงมีสภาพให้เรียกว่ารัฐธรรมนูญอยู่) ผมไม่ทราบ แต่ถ้าให้ผมเดา...ฝันไปเถอะ..
ไม่เชื่อ...ไปถามแม่ผมดูก็ได้ !!!
แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 50 16:31:11
จากคุณ :
ปลายอ้อกอแขม
- [
19 ม.ค. 50 16:25:55
A:58.64.127.44 X:
]