ผมไม่ต้องบรรยายอะไรมากเลยครับ ว่า รู้สึกเวทนา คมช. และ รัฐบาลสุรยุทธ์ อย่างไร ต่อกระแสต่าง ๆ ที่กำลังไหลกลับหันมาถาโถมเข้าใส่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ฉะนั้นกระทู้นี้ จึงขอแสดงความรู้สึกมากกว่าการตั้งข้อสังเกตนะครับ
ทุก ๆ วัน ผมจะดูหัวข่าวพาดหัวของหนังสือพิมพ์ไทย อ่านคอลัมน์ต่าง ๆ จากเว็บไซท์ (เพราะไม่เคยซื้อเลย) เพื่อจะดูว่า นักข่าวประเทศไทย เขาคิดอย่างไรและมีการใส่ข่าวอะไรบ้าง ก็เป็นที่น่าเห็นใจ เหมือนที่สำนักข่าว AFP
รายงานล่าสุดเมื่อวันนี้ (19 ม.ค.) ว่า ทาง UBC จะระงับการแพร่ภาพการให้สัมภาษณ์ของนายก ฯ ทักษิณในวันเสาร์นี้ โดยสำนักข่าว เขารายงานว่า รัฐบาลทหารของไทย ได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักข่าวต่าง ๆ ไม่ให้แพร่ข่าวของคุณทักษิณ ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพของรัฐบาลเผด็จการ จนกระทั่ง สมาคมนักข่าวต่างชาติในไทย อดไม่ไหว บอกว่า เขาจะยื่นจดหมายถึง พล.อ.สุรยุทธ์ว่า พวกเขา "ผิดหวังอย่างยิ่ง" ต่อการระงับการแพร่ภาพการให้สัมภาษณ์ของนายก ฯ ทักษิณ เขาใช้คำว่า
"casts the Thai authorities in a poor light" และเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์เลยที่จะระงับการแพร่ภาพ เพราะว่า คำให้สัมภาษณ์ ต่างถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ไทยและในเว็บไซท์แล้ว (ผมไม่เห็นคำให้สัมภาษณ์เต็ม ๆ จากหนังสือพิมพ์ไทย อาจจะเป็นเพราะผมอ่านไม่หมดทุกฉบับ)
ยิ่งการออกมาตอบโต้รัฐบาลสิงคโปร์แบบ ต้องขอโทษด้วยนะครับว่า ปัญญานิ่มมาก ๆ (ปรกติผมจะไม่ตำหนิคนมากขนาดนี้)
มันทำให้ท่านนายก ฯ ทักษิณกลายเป็นจุดสนใจของสื่อมวลชนทั่วโลก รวมถึงประชาชนในประเทศต่าง ๆ ที่คุณทักษิณไป มีนักการเมืองจากสุพรรณบุรีท่านหนึ่งออกมาพูดว่า ทำไมคุณทักษิณต้องไปโน่นไปนี่ทำไม ผมอยากจะเรียนให้ท่านนักการเมืองท่านนั้นได้ทราบว่า ปรกติหากคุณใช้วีซ่าธรรมดา เขาจะออกให้ได้ไม่นาน แต่ในกรณีของคุณทักษิณ เขามีขา และมีเพื่อน จะให้นอนอยู่เฉย ๆ อยู่กับที่ ย่อมเป็นไปไม่ได้หรอกครับ
ฉะนั้นการที่คุณจักรภพ อดีตเจ้าหน้าที่ด้านการทูต และอดีตโฆษกรัฐบาลออกมาพูดถึงการตอบโต้ของรัฐบาลไทย (ที่ต่างชาติเขาใช้คำว่า "angrily" อย่างโกรธเกรี้ยว) ว่า "สิ้นคิด" จึงเป็นคำที่ค่อนข้างตรง และหากรัฐบาลชุดนี้ ยังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง ก็ควรจะรับฟังไว้ ว่า แท้จริงแล้ว พวกท่านเป็นดังที่เขาว่าหรือไม่
อยากจะฝากถึง "การข่าว" ของรัฐบาลและ คมช. ชุดนี้ ซึ่งมีอดีต CIA เมืองไทย หรือ ประดานายทหารทั้งหลายว่า ท่านไม่รู้เลยหรือว่า ประเทศเพื่อนบ้านเรานั้น ต่างไม่ยินดีกับพวกท่านเลย ตรงกันข้าม ประเทศมาเลเซีย "แอบยินดี" เงียบ ๆ ต่อการเดินทางของนายก ฯ ทักษิณ ส่วนรัฐบาลทหารพม่านั้น เขาคิดอย่างไรกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ฉะนั้นการเรียกทูต 4 ประเทศมาวันนี้ จึงไม่มีประโยชน์หรอกครับ ท่านบิ๊กแอ้ด
ผมคงไม่ต้องพูดถึงลาว เพราะ รัฐมนตรีท่านหนึ่งในคณะรัฐบาลของท่าน สมัยที่เป็นอดีตปลัดกระทรวงใหม่ ๆ ไปพูดในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง ที่เชียงใหม่ ดูถูกชาวลาวว่าไม่มีวัฒนธรรมและด้อยพัฒนา จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายลาวต้องลุกออกมาประท้วงคำพูดดังกล่าว เขาจำได้นะครับว่าใครเคยทำอะไรและพูดอะไรไว้บ้าง ต่อหน้าน่ะ เขาจับมือยิ้มให้อยู่แล้ว แต่พอท่านหันหลังไป เขาจะทำอย่างไร ท่านก็พอจะรู้
นักข่าวของไทย บางที ไม่เจาะข่าวว่า ทำไมหลังจากที่ คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ที่สิงคโปร์ พล.อ.สุรยุทธ์เพิ่งกลับมาจากประชุมที่ฟิลิปปินส์ บิ๊กแอ้ดถึงกับสั่งให้กระทรวงต่างประเทศประท้วงสิงคโปร์อย่างรุนแรง
ก็เพราะรองนายก ฯ สิงคโปร์ คนที่ทักษิณไปคุยด้วยคนนี้แหละ (นายจาร์ยากุมาร์) ได้พูดในที่ประชุมอาเชียนซัมมิทว่า "that Southeast Asian nations should reject military coups in a proposed regional charter. Unconstitutional political changes would be forbidden "because we see that as an important principle," the minister said.
ผมไม่ขอแปลนะครับ ขี้เกียจ ให้อ่านกันตรง ๆ ไปเลย
แต่หลังจากกลับไปนอนคิดอยู่ไม่นาน การรุกของต่างชาติที่รุมบี้รัฐบาลทหารของไทย ก็เริ่มมีมากขึ้น หลังจากที่ทูตสหรัฐ ได้เข้าพบและขอให้มีการคืนอำนาจให้ประชาชนภายใน 4 เดือน และรวมถึงการเรียกพบกับทางการญี่ปุ่นเพื่อขอไม่ให้ต้อนรับนายก ฯ ทักษิณเหมือนสิงคโปร์ ทำให้ พล.อ.สุรยุทธ์จำเป็นต้องบอกกับทั้งสองประเทศว่า อาจจะมีการเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนด (สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตรงกัน) เพื่อลดสภาพความกดดันจากนานาชาติ
ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ ได้กล่าวอย่างน่าฟังโดยเรียกคุณทักษิณว่า ดร.ทักษิณ ความว่า "รัฐบาลไทยไม่ได้แจ้งให้เราทราบว่า ดร.ทักษิณได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีใด ฉะนั้นจึงไม่มีข้อจำกัดที่จะห้ามไม่ให้ท่านเดินทางไปไหน และไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่เรา (สิงคโปร์) จะไม่ให้ท่านเข้าประเทศ และก่อนหน้านี้ ท่านก็ได้เดินทางไปหลายประเทศ ไม่เห็นรัฐบาลไทยประท้วงเลยนี่ครับ"
อยากจะเตือนความจำ ท่านพล.อ.สุรยุทธ์ เมื่อตอนที่ท่านเชิญนักข่าวต่างประเทศมาฟัง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ท่านบอกว่า ห้าปีก่อน สื่อมวลชนถูกปิดกั้นจาการรับรู้
ข่าวสาร ท่านบอกว่า "I believe that is called propaganda
. Report positively and you will be rewarded, report negatively and suffer the consequences."
จำได้มั้ยครับ แถมเขายังย้ำว่า
"Under Surayud's leadership, opposition voices have been quashed in the name of national unity, and the broadcast media is more "muzzled" and "state-directed" than it was under Thaksin.
คือแย่กว่าตอนที่คุณทักษิณเป็นนายก ฯ เสียอีก ผมเองก็ไม่ทราบว่า สื่อมวลชนไทยที่เรียกร้องว่า ถูกรัฐบาลทักษิณแทรกแซงนั้น หายไปไหนกันหมด
ดังนั้น นโยบายแบบ "สิ้นคิด" ตามที่คุณจักรภพว่าไว้ จึงบังเกิดผลตามมาอย่างที่เห็น นั่นก็คือ สำนักข่าวชั้นนำอย่าง NHK ได้ไปเกาะติดท่านนายก ฯ ทักษิณถึงสนามบินและขอสัมภาษณ์แพร่ภาพไปทั่วโลก
นอกเหนือจากนั้น หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun ของญี่ปุ่น ยังได้รายงานว่า ท่านนายก ฯ ทักษิณ อาจจะได้เข้าบรรยายให้กับนักศึกษาและพบปะกับนักธุรกิจของญีปุ่นด้วย
นี่ถือว่าเป็นการตบหน้า รัฐบาลสุรยุทธ์และ คมช. ถึงความ "ละอ่อน" ทางความคิด และการไม่ยอมรับความจริง
พระพยอมท่านเคยเทศน์ไว้นานแล้วครั้งหนึ่ง ว่า คนแก่บางคนก็ทำตัวกลายเป็นเด็ก น้ำก็อาบไม่เป็น ต้องให้เด็กสาว ๆ อาบให้ ผมนึกไปนึกมา ก็นึกถึงพระราชดำรัสในหลวงเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา กรณี คนแก่บางคนก็ไม่ยอมแก่ (แต่จะไม่ขอนำมาลงเพราะทางพันทิปเขาตั้งกฎไว้)
บทสรุปของผมก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของท่านนายก ฯ ทักษิณที่ว่า "ไม่ว่าเราจะชอบระบบทุนนิยมหรือไม่ก็ตาม เราจำเป็นต้องอยู่กับมัน" จึงเป็น "ความจริง" ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ เหมือนดังที่รัฐบาลคนแก่ และ คมช. พยายามจะหลอกตัวเองและคนไทยไปวัน ๆ ซึ่งนาย แวน ฮาเรน หอการค้าต่างประเทศในไทยก็พูดตรงกันว่า
"There's no way to escape global economics." และ
ผลกระทบนี้ จะส่งผลต่อคนไทยทั้งมวล
กระทบอย่างไร ให้ไปดูค่าเงินบาทสิครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่แจ้งให้ทางแบ็งค์ชาติรู้ตัวก่อน แล้วจะมาโทษกันทีหลังไม่ได้นะ
อย่าหลอกตัวเองเลยครับว่า ประชาชนไทย มีความสุขและสนับสนุนพวกท่าน แท้จริงแล้ว คนไทยยังรักนายก ฯ ทักษิณอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และเกลียดชังพวกท่านมากแค่ไหน
จากคุณ :
ขนมต้ม 
- [
19 ม.ค. 50 17:50:50
A:61.91.95.192 X:
]
***คมช. กับ รัฐบาลสุรยุทธ์ พวกคุณจะหนีความจริงไปได้ยังไง***
