Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ### เพิ่งได้อ่านเหตุการณในห้องไต่สวนคดียุบพรรค ทรท เลยเอามาแบ่งคนที่อาจจะยังไม่ได้อ่าน ###

    ขณะที่การไต่สวนคดียุบพรรคนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10.00 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาไต่สวนคดียุบพรรคนัดแรก โดยเป็นการไต่สวนพยานของอัยการสูงสุดที่ร้องขอให้ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคแผ่นดินไทย และพรรคพัฒนาชาติไทย โดยในช่วงเช้าเป็นการเบิกความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพยานของฝ่ายผู้ร้องคืออัยการสูงสุด ในขณะที่ฝ่ายผู้ถูกร้องเดินทางมาศาลกันพร้อมหน้า นำโดย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา หัวหน้าคณะทีมต่อสู้คดียุบพรรคไทยรักไทย และนายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ท่ามกลางความให้สนใจของสื่อมวลชนทุกสาขาทั้งไทยและต่างประเทศ

    ทั้งนี้ ก่อนการไต่สวน นายจรัญ หัตถกรรม ตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้ชี้แจงให้คู่ความได้รับทราบแนวทางการพิจารณาคดีของตุลาการรัฐธรรมนูญ ว่าจะใช้ระบบไต่ สวนที่คณะตุลาการมีหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ระบบกล่าวหา คณะตุลาการมีสิทธิที่จะสอบถามพยานได้หากมีข้อสงสัย ในขณะที่คู่ความหากจะสอบถามพยานจะต้องได้รับการอนุญาตจากคณะตุลาการก่อน


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ได้ขออนุญาตสอบถามนายสุเทพหลายข้อ เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่านายสุเทพมีความผูกพันกับนายชวการมาก่อน และนายไทกร และนายสุขสันต์ก็มีความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนเช่นกัน ในขณะที่คำให้การของนางฐัติมา ที่เขียนขึ้นที่สำนักงานกฎหมายคนึง ฦๅไชย ไม่ปรากฏลายเซ็นของนางฐัติมา เท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์ยกร่างคำให้การขึ้นมาเอง และเหมือนกับเป็นการว่าจ้างนางฐัติมามาให้การใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยใช่หรือไม่

    อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายสมศักดิ์กำลังซักถามนายสุเทพอยู่นั้น นายจรัญไม่อนุญาตให้นายสมศักดิ์ สอบถามในประเด็นดังกล่าวที่ตั้งข้อสงสัย จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน เนื่องจากนายจรัญพูดเสียงดัง ทำให้นายพงศ์เทพต้องขอชี้แจงต่อคณะตุลาการ โดยระบุว่า นายสุเทพเป็นพยานปากสำคัญ และได้ให้ถ้อยคำบันทึกเป็นเอกสารถึง 40 หน้า และการให้ถ้อยคำหลายเรื่องเป็นพยานบอกเล่า และขัดกับความเป็นจริงกับที่ทีมกฎหมายได้รับทราบมา ดังนั้น พรรคจึงอยากที่จะมีโอกาสพิสูจน์ความจริงเหล่านี้

    "ตุลาการรัฐธรรมนูญแม้จะไม่ใช่ศาล แต่ก็เชื่อในเกียรติ เพราะตุลาการแต่ละท่านก็เป็นผู้พิพากษากันมาทั้งชีวิต เมื่อผู้ถูกกล่าวหาใช้โอกาสซักค้านในการพิสูจน์ตัวเอง ท่านจะพบว่ามีข้อเท็จจริงหลายอย่างที่แตกต่างไปจากข้อกล่าวหา พวกผมมากันตั้งแต่เช้า การซักค้านพยานปากนี้ใช้เวลาไม่มาก ชั่วโมงเดียวก็เสร็จทำไมจึงไม่ให้โอกาส แม้ยุคนี้จะไม่ใช่ยุคประชาธิปไตยเต็มใบ แต่ก็หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม ถ้าไม่ใช่ท่านประธานหรือท่านผู้พิพากษาที่อยู่ในศาลฎีกามาทำหน้าที่ตุลาการรัฐธรรมนูญ พวกผมก็ไม่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่การไม่ให้โอกาสผู้ร้องซักค้าน ผมไม่เคยเห็นระบบการไต่สวนในประเทศไหนที่ไม่ให้โอกาสผู้ถูกร้องได้ซักค้านเลย" นายพงศ์เทพกล่าว

    จากนั้นนายสมศักดิ์ได้พยายามที่จะสอบถามนายสุเทพในประเด็นที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าถูกอัยการสูงสุดร้องให้ยุบพรรค เนื่องจากนายทักษนัย กี่สุ้น ได้พาคนที่ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปสมัครรับเลือกตั้ง โดยนายทักษนัยเป็นผู้ช่วย ส.ส.ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนั่นเท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์จ่ายเงินให้นายทักษนัยใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยหรือไม่ และมีหลักฐานยืนยันว่านายสุเทพ รู้จักกับนางฐัติมา ก่อนวันที่ 19 มีนาคม ต่างจากที่นายสุเทพให้การว่าได้พบนางฐัติมาเป็นครั้งแรกในวันดังกล่าวใช่หรือไม่ ทั้งนี้ นายจรัญก็ไม่อนุญาตให้ถามอีก และสิ่งที่จะถามต้องทำคำคัดค้านมาก่อน จึงทำให้บรรยากาศการพิจารณาคดีระอุขึ้นมาอีกครั้ง โดยเป็นการโต้แย้งกันระหว่างนายสมศักดิ์และนายจรัญ ซึ่งนายสมศักดิ์ถึงกับหลุดปากบอกว่า ตนเองก็มีเกียรติศักดิ์และเกียรติภูมิ กำลังทำหน้าที่ทนายแก้ต่าง ขอให้รักษามารยาทด้วย ในที่สุดนายปัญญาได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งลง และเมื่อเปิดการไต่สวนใหม่ นายปัญญาได้ขึ้นทำหน้าที่ประธานในการพิจารณาคดี

    นายกมล บันไดเพชร ผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในการต่อสู้คดียุบพรรค ซักค้านนายชินวรณ์ ในประเด็นการทำหนังสือคัดค้านการลงสมัครว่าทำขึ้นที่ไหน เพราะในวันที่ 15 มีนาคมที่ไปยื่นคัดค้านการสมัครนั้น นายชินวรณ์อยู่ที่ กทม.

    นายกมลให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณาว่า พยายามที่จะชี้ให้กระบวนการของพรรคประชาธิปัตย์ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ศึกษาเอกสารหลักฐานในคดียุบพรรคทุกหน้า ดูตำหนิทุกแห่งที่มีอยู่ในสำนวนตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ในเรื่อง พท.6 นั้นแน่นอนว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องมีอยู่ในมือก่อนที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนข้อมูลพรรคการเมืองจะแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะคนธรรมดาทั่วไปหากไปตรวจสอบหลักฐานทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีการแก้ไขไปแล้ว ไม่มีทางที่จะรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง และยังตั้งข้อสงสัยว่า เอกสารคำร้องคัดค้านการลงสมัคร ส.ส.ของสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทย ที่ส่งไปมีลายเซ็นของนายชินวรณ์ได้อย่างไร เพราะส่งไป จ.นครศรีธรรมราช ทางโทรสาร โดยในการพิจารณานัดต่อๆ ไปจะนำสืบให้เห็นว่านายสุเทพเดินทางไปหานายบุญทวีศักดิ์ เวลา 02.00 น. นั้นต้องมีเจตนาอื่นแอบแฝงมากกว่าจะไปเอาเอกสาร ทพ.6 ฉบับเดิม ที่พรรคประชาธิปัตย์มาอยู่ในมืออยู่แล้ว

    นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์หลังการไต่สวนนัดแรกว่า พรรคไม่เห็นหนักใจอะไร เพราะสามารถซักค้านและพิสูจน์ความจริงได้ในหลายประเด็น อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาไต่สวนกลุ่มคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 18 มกราคมนี้ เป็นหน้าที่ของนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ที่จะเป็นผู้ชี้แจง โดยทราบว่าได้มีการเตรียมข้อมูล หลักฐานต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว

    --------------------------------------------------------------------
    "เป็นกลาง" มากๆ เลยนะ ว่าไหมครับ

    จากคุณ : มือใหม่DSM - [ 19 ม.ค. 50 19:46:06 A:203.149.29.66 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom