ความคิดเห็นที่ 4
81. รัฐบาลเตรียมเก็บภาษีสรรพสามิตบริษัทมือถือทุกราย อ้างว่าทำรัฐสูญเสียรายได้ ทั้งๆที่รัฐบาลที่แล้วเอาภาษีสรรพสามิตไปรวมไว้ที่อื่นเป็นการช่วยประชาชนประหยัด แต่เมื่อเก็บภาษีสรรพสามิตจากบริษัทเมื่อถือแล้ว บริษัทมือถือทุกรายก็ต้องผลักภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไปให้ประชาชนผ่านทางค่าโทรและบริการอื่นๆนั่นเอง ทั้งยังให้ องค์การโทรศัพท์ตัดสัญญาณโทรศัพท์บ้านไม่ให้ต่อเชื่อกับโทรศัพท์มือถือเอกชนหลายล้านเลขหมาย จนบริษัทมือถือเอกชนต้องฟ้องศาลปกครอง
82. ประธาน คมช. เดินทางเข้าพบสมเด็จ วัดสระเกศ ทั้งๆที่เป็นการผิดประเพณีของศาสนาของตน เพียงเพื่อกดดันไม่ให้ มหาจุฬาลงกรณ์, วัดมหาธาตุ, และ วัดสระเกศ ร่วมกับวัดต่างๆทั่งประเทศทำการรวบรวมรายชื่อชาวพุทธ 2 ล้านชื่อเพื่อให้ ให้มีบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่า..." พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก "
83. ดำเนินนโยบายหาเงินแบบพอเพียง ไม่สามารถหาเงินเข้าประเทศได้แถมออกมาตรการมากมายไล่นักลงทุนต่างประเทศอีก ในที่สุดก็ออกไปโชว์วิสัยทัศน์ในการประชุมอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ว่า ข้าพเจ้าขอให้ประเทศในอาเซียนเคร่งครัดทำตามสนธิสัญญาต่างๆที่ได้ตกลงลงนามสัญญากันไว้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องเงินทุน หากประเทศใดประสบปัญหาทางด้านเงินทุน ประเทศที่เหลือในอาเซียนต้องให้เงินทุนเข้าช่วยเหลือทันทีตามข้อสัญญา เป็นความหน้าด้านยอมรับสภาพการบริหารงานของนายกเถื่อนว่าจะยืมเงินประเทศเพื่อนบ้านเพราะประเทศไทยใกล้พบความวิบัติแล้ว
84. ไม่มีความคิดในการแก้ปัญหาไข่ไก่ เนื้อหมูล้นตลาด.... ไม่สมองแค่สั่งให้ลดกำลังการผลิต ยอมรับสภาพซะ!!!!! รัฐบาลฯ นี้อุตส่าห์เข้ามาบริหารประเทศชั่วคราว ให้รอรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งมารับแก้ปัญหาต่อไป
85. คมช. สั่งการสถานีโทรทัศน์ยูบีซีบล็อกสัญญาณออกอากาศของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ระหว่างสัมภาษณ์ อดีตนายก พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อคืนวันที่ 15 มค. 50 นอกจากนี้ยังให้กระทรวงไอซีที ทำการปิดเวปไซท์ของซีเอ็นเอ็น, บีบีซี และ เวปไซท์ในเมืองไทยอีกหลายเวป อ้างมีปัญหาเซิฟเวอร์ จนสำนักข่าวรอยเตอร์และเอพีออกรวมถึง ซีเอ็นเอ็น ก็ลงข่าวประจานการกระทำของ คมช ในครั้งนี้ไปทั่วโลก
86. นายกฯ ของไทยกลายเป็นตัวตลกของอาเซียนเมื่อถูกให้เซ็นสัญญากฎบัตรต่อต้านการรัฐประหาร รายละเอียดของกฎบัตรจะไม่ยอมรับกระบวนการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่มาจากการก่อรัฐประหาร อาเซียนมีเป้าหมายในการสนับสนุนเสถียรภาพภายในภูมิภาค โดยปฏิเสธกระบวนการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่ไม่ได้อยู่ภาย ใต้ระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของประเทศ เป็นที่ขายขี้หน้าต่อเพื่อนบ้านอย่างยิ่ง
87. รัฐบาลฯ สร้างความร้าวฉานระหว่างประเทศกับสิงคโปร์ โดยก้าวร้าวตัดความสัมพันธ์ทางราชการในเรื่องที่อดีตนายกไทยเข้าไปประเทศสิงคโปร์เพื่อไปพบปะเพื่อนเก่า จนกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ต้องออกมาตอกหน้าหงายกลับว่าให้รัฐบาลเถื่อนของไทยเคารพอำนาจธิปไตยของสิงคโปร์ด้วย ข่าวนี้ได้แพร่กระจายประจานไปทั่วโลกจนทำให้เกียรติภูมิไทยต้องเสียหาย นอกจากนี้รัฐบาล ฯยังวางอำนาจเรียกประเทศเพื่อนบ้านมาบอกว่าต้องประพฤติตัวอย่างไรในช่วงนี้ แต่กลับไม่กล้าเรียกทูตประเทศมหาอำนาจอื่นๆมาพบทั้งๆที่ประเทศเขาก็ปฏิบัติอย่างให้เกียรติเหมือนๆกันต่ออดีตนายกไทยที่มาจากประชาชน ได้แต่สั่งทูตไทยทุกแห่งแจงทั่วโลกว่ารัฐบาลเถื่อนของไทยพร้อมจะตอบโต้ทุกชาติที่ไม่ ให้เกียรติรัฐบาลฯ
88. มหกรรมงาบซึ่งหาข้ออ้างจากเหตุระเบิดที่ผ่านมา โดยหาเรื่องตั้งงบ 20,000 ล้านบาทในการติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิด พันกว่าตัวทั่ว กทม. ซึ่งแต่ละตัวมีมูลค่ากว่า 700,000 บาท !!! ค่ากล้องรวมแล้วพันกว่าล้านที่เหลือเป็นค่าบริหาร ค่าซ่อมบำรุง และ.....ทั้งๆที่กล้องที่มีถูกทำให้เสียจนจับภาพคนร้ายไม่ได้
89. รัฐบาลฯตั้งทีมงาน War Room เพื่อเอาไว้ตอบโต้บุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเถื่อน โดยทีมงานจะส่งคนเข้าไปตามสื่อและเวปไซท์ต่างๆ สวน คมช. ก็ได้ส่งคนเป็นสายไปตามหน่วยงานราชการทุกจังหวัดเพื่อจับผิดข้าราชการ ผู้ว่าราชการ ของจังหวัด แล้วฟ้องกลับเพื่อเล่นงานต่อไป
90. ประธาน คมช. กล่าวให้โอวาทแก่นักเรียนที่หอประชุมกองทัพบก ถึงการชื่นชมยกย่องรัฐบาลเผด็จการพม่าและห้ามทหารตั้งตนเป็นศัตรูกับพม่า พร้อมเกรงกลัวต่อแสนยานุภาพของเขา ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องหาซื้ออาวุธเพิ่มเพื่อมาเสริมกำลังให้กับกองทัพไทยในปัจจุบั น สุดท้ายที่ ประธาน คมช. พูดก็เพื่อสร้างความชอบธรรมในการเอางบไปซื้ออาวุธเพิ่มเติมนั่นเอง เงินจะได้เข้ากระเป่าทหารเหมือนเดิมหลังจากอดอยากปากแห้งมา 6 ปี แต่ทั้งๆที่อาวุธที่มีอยู่ก็ไม่ค่อยได้ใช้ ถึงเวลาใช้ก็ใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพเพราะกองทัพไทยไม่ได้พัฒนามานาน ไม่ได้เป็นทหารอาชีพ ถนัดแต่เอาอาวุธมาโชว์วันเด็ก เอาไปเป็นเครื่องประดับเจ้าพ่อสีเขียว เอามาปฏิวัติ ข่มขู่ประชาชน
91. รัฐมนตรีคลังรวมหัวกับธนาคารชาติทำเงินประเทศหายไปหลายแสนล้านบาท ด้วยการออกมาตรการกันเงินนอก 30 % ซึ่งก็ไม่ช่วยให้เงินบาทอ่อนลง, ออกพันธบัตรป้องการเงินบาทแข็งแต่ไม่สำเร็จ ขาดทุนไป 110,000 ล้านบาท, ซื้อขายเงินล่วงหน้า (Swap) ขาดทุนไป 35,000 ล้านบาท, จ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรดูดซับสภาพคล่อง เสียหายไป 54,000 ล้านบาท รวมแล้วเงินคลังของชาติเสียหายไป 200,000 ล้านบาทในระยะเวลาไม่กี่เดือน แต่โชคดีที่ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองกว่า 2,000,000 ล้านบาท ที่สะสมจากสามสี่ปีที่ผ่านมา จึงมีเงินให้รัฐบาลเถื่อนถลุงแบบสิ้นคิด
92. บิ๊กบัง คมช ออกมาโชว์โง่หน้าทีวีเรื่อง ดาวเทียม และ มือถือไปทั้วโลก..แสดงถึงความอ่อนความรู้.และความโง่ที่ถูกสนธิ ลิ้มหลอกว่าเมื่อเรายกหูโทรศัพท์ สิงคโปร์ก็รู้เรื่องทุกอย่างหมด มุ่งแต่ความแค้นอดีตนายกกับ AIS ทั้งๆที่ ทรูก็เป็นของคนต่างชาติ ดีแทคเป็นของนอรเวย์ ฮัชท์เป็นของญี่ปุ่น กูเกิ้ลเอิร์ธก็ส่องเห็นพื้นดินไทยแต่กลับไม่พูด แท้จริงแล้วดาวเทียมเพื่อการพาณิชย์และมือถือเป็นแค่สื่อกลางในการส่งสัญญาณเท่านั้น จะดักสัญญาณก็ต้องมีเครื่องมืออันทันสมัยซึ่งคนที่ดักสัญญาณได้ก็มีไม่กี่แห่ง เช่นหน่วยงานราชการลับหรือทหารเท่านั้น รมต ไอซีทีก็ออกมาเต้นตามแบบปัญญานิ่มที่เรียกผู้ประกอบการมาห้ามการดักฟัง
จากคุณ :
Junamon
- [
20 ม.ค. 50 13:02:29
A:124.120.246.152 X:
]
|
|
|