ความคิดเห็นที่ 3
ตะปู 8 ดอก ตอกฝาโลง คมช.
ตะปูตัวที่หนึ่ง หุ้นลง 100 กว่าจุด ต่างประเทศเทขายไม่หยุด ที่เห็นดัชนีเป็นบวกเพราะรับบาลบังคับให้กองทุนต่าง ๆ ของรัฐบาลอุ้มซื้อ
ดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ดิ่งตัวลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด และไปปิดตลาดที่ลบ 108.41 จุด ซึ่งลดลงอย่างรุนแรงมากสุดในประวัติศาสตร์ ผลของการที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลงเช่นนี้ ทำให้ความมั่งคั่งในตลาดหลักทรัพย์หดหายไปทันที 8.16 แสนล้านบาท โดยวัดจากมูลค่าตลาดรวมที่ลดลงจาก 5.45 ล้านล้านบาท เหลือ 4.63 ล้านล้านบาท ทั้งหมดเกิดขึ้นจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ที่ต้องการสกัดกั้นเงินทุนจากต่างประเทศ ที่ไหลบ่าเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ด้วยการกำหนดให้หักเงินทุนที่เข้ามาในประเทศ 30% และถ้าเอามาลงทุนเกิน 1 ปี จะคืนเงินทั้งหมดให้ภายหลัง แต่หากลงทุนต่ำกว่า 1 ปี จะคืนให้เพียง 20% โดยอีก 10% จะถูกริบอย่างถาวร ความรุนแรงของมาตรการดังกล่าว ถึงขนาดที่มีการตั้งคำถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมว่า ได้มีมาตรการรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้รับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็คือ ยังไม่มี
ตะปูตัวที่สอง กระบวนการเลือกสมัชชา ไปเป็น สสร.นอกจากไม่มีใครชื่นชอบ ยังถูกรุมประนามไปทั่ว
การคัดเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 200 คน ที่หอประชุมกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่ได้แจกซองสีน้ำตาลให้แก่สมาชิก ข้างในซองบรรจุดินสอ 2 บี บัตรลงคะแนนแบบใช้ดินสอระบายในวงกลมตามหมายเลขที่ต้องการเลือก และยางลบ ปรากฏว่าภายหลังการแจกบัตรลงคะแนนก็เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที เพราะมีสมาชิกจำนวนหนึ่งที่พักดื่มกาแฟในห้องรับรองเพื่อรอเรียกเข้าห้องประชุม ต่างนำบัตรมาลงคะแนนกันล่วงหน้า บางกลุ่มก็จับกลุ่มคุยกันว่าจะลงคะแนนให้สมาชิกคนใดบ้าง บางคนก็จดหมายเลขผู้ที่จะเลือกไว้บนซองบัตรลงคะแนน บางคนก็หยิบบัตรลงคะแนนของคนอื่นในกลุ่มเดียวกันไปลงคะแนน เวลากาบัตรก็มีการปรึกษาหารือร่วมกัน ทำแบบนี้อาจนำไปสู่การทุจริตและบล็อกโหวตได้
ตะปูตัวที่สาม ปํญหาภาคใต้ ได้ขยายจากเรื่องท้องถิ่น ไปสู่สากล และยกระดับจาก เรื่องก่อการวินาศกรรมเป็นเรื่องแยกดินแดนแล้ว...
โดยสรุปภาพรวมการทำงาน 3 เดือน ที่ได้ดำเนินการตามเหตุผลการรัฐประหาร คือ กรณีความขัดแย้งแบ่งฝ่ายของคนในชาติ ได้ดำเนินการสร้างความสมานฉันท์ โดยการขอโทษและกราบเท้า การแก้ไขปัญหาปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับทวีความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น โดยมีข่าวฆ่ากันตายอยู่ทุกวัน
ตะปูตัวที่สี่ ปล้นเงิน 1000 ล้าน ก่อรัฐประหาร เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญ เพื่อทำลายนิติรัฐ เพื่อ ทำให้การเมืองอ่อนแอ ง่ายต่อการควบคุมของพวกมัน นักการเมืองเขาเข้าสู่อำนาจต้องควักกระเป๋าตัวเอง เดินไหว้ประชาชน ขอคะแนนเสียง แต่ คมช. ใช้เงินภาษีของประชาชนเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐ
สนธิ บุญยรัตกลินยอมรับเบิกงบลับ 1,000 ล้าน เพื่อปฏิวัติ อ้างเพื่อความมั่นคงและไม่ขอแจงรายละเอียด กรณีมีการเบิกจ่ายงบประมาณลับจากสำนักงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ระหว่างการปฏิรูปการปกครอง "ทุกคนที่เขาออกมาต้องกินต้องอยู่ ผมคิดว่าคงไม่ใช่เรื่อง ที่จะมาถามว่าเงินเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ ขอให้มองในแง่ที่ดีดีกว่า เพราะว่าเราทำเพื่อภาพรวมของประเทศ และผมคงไม่ชี้แจงว่าเอาเงินไปทำอะไร แต่ทุกคนเมื่อออกมาอยู่คนหนึ่งก็เป็นเงิน มันต้องกินต้องอยู่ คงไม่ต้องตอบ " ประธาน คมช.กล่าว ด้าน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวเรื่องเดียวกันว่า "งบลับในที่นี้คืองบเพื่อความมั่นคง ไม่มีงบซุกหุ้น ไม่มีงบซอกแซก ซ่อนเร้น เป็นงบที่เบิกจ่ายอย่างจำเป็นดีแล้ว" ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าว เท่านี้คงเพียงพอให้เห็นได้ว่า ทหารของประชาชน พ.ศ. นี้นั้น ชอบอ้างเรื่องคุณธรรมและไปตรวจสอบคนอื่น ป้ายสีว่าคนอื่นไม่โปร่งใส ต้องเข้าไปตรวจสอบ แต่ตนเองกลับว่านี่คือ "งบลับเพื่อการปฏิวัติ" จะทำอย่างไรกับเงินภาษีของประชาชนก็ได้ โดยอ้างแค่เพียงว่า ลับและจำเป็น
ตะปูตัวที่ห้า การต่ออายุกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระดับแรก คือ นักวิชาการส่วนใหญ่ที่เข้าใจแผนแม่บทกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น รับไม่ได้ ระดับที่ 2 อบต. ไม่ยอมรับเพราะทำให้เกิดความซ้ำซ้อน
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เสนอแนวคิดให้ต่ออายุกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จาก 5 ปี เป็น 10 ปี เพื่อเอาใจกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้สนับสนุน คมช. นักวิชาการต่างคัดค้าน เนื่องจากขณะนี้เรามีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่ง อบต. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีความซ้ำซ้อนในทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีเงินเดือน 4,000-5,000 บาท และมีพลังอำนาจในท้องถิ่น
ตะปูตัวที่หก กระบวนร่างรัฐธรรมนูญ และประเด็นที่พวกมันจะหมกเม็ด
เป็นประเด็นซึ่งคาดว่าจะมีการให้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร์ และจะกำหนดไว้ว่าห้ามดำรงตำแหน่งเกิน 2 วาระ และจะมีการเสนอให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง
ตะปูตัวที่เจ็ด สินค้าเกษตร ราคาตกต่ำ เกือบทุกรายการ
เช่น ราคายางพารา เดิมราคาประมาณ 70 บาท ต่อกิโลกรัม ปัจุจบันราคาประมาณ 40 บาท ต่อกิโลกรัม ราคารับจำนำข้าวในปีนี้มีราคาต่ำกว่าในอดีต เนื่องจากต่างประเทศทราบข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรี ว่าประเทศไทยมีข้าวคงค้างเหลืออยู่ในสต๊อกจำนวนมาก และราคาในการรับจำนำในปีที่ผ่านมาจำนำสูงเกินจริง ซึ่งเป็นความโง่ของรัฐมนตรีที่แจ้งข่าวให้ต่างชาติทราบ และสินค้าการเกษตรตัวอื่น ๆ อีกมากมาย
ตะปูตัวที่แปด ประชาชนไม่จับจ่ายใช้สอยเพราะ
- ไม่แน่ใจภาวะเหตุการณ์ในอนาคตว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ประชาชนจึงหยุดการใช้จ่าย และการลงทุน - การประโคมข่าวเศรษฐกิจแบบพอเพียง ทำให้ยอดขายสินค้าลดลงทำให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ได้น้อย เก็บภาษีรายได้นิติบุคคลได้น้อย ภาวะการเงินการคลังมีปัญหารออยู่เบื้องหน้าอยู่ อย่างชัดเจน
จากคุณ :
ท่านใดมีตะปูตัวที่ 9 มาตอกอีก (Sky)
- [
13 ก.พ. 50 16:01:55
A:124.121.172.96 X:
]
|
|
|