ความคิดเห็นที่ 1 ปี 2540 วิกฤติเศรษฐกิจ =================== ในขณะที่ไอทีวีถือกำเนิดในปี 2539 แทบจะไม่รู้ตัวเลยว่า เศรษฐกิจไทยกำลังหัวทิ่มอย่างไร...ไม่ได้รู้เลยว่าหายนะมันกำลังจะเริ่มตั้งเค้า...ตามสัญญาสัมปทาน 2 ปีแรกตามสัญญายังไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้ไปลงทุนก่อน... ไปเรื่มจ่ายปีที่ 3(2542) จำนวน 300 ล้านบาท...ปีที่ 4 ก็ 400 ล้านบาท ปีที่5 ก็ 500 ล้านบาท เพิ่มไปเรื่อยๆจนปีที่ 9 ก้อ 900 ล้านบาท...ปีที่ 10 -30 ปีละ 1000 ล้านบาท.... โอ้....แม่จ้าว....สุดยอดของสัญญา...สักแต่เซ็นให้ได้มาเท่านั้นเอง...ฝันเฟื่องมาตั้งแต่เริ่ม.. ผลการดำเนินงานของไอทีวี  เปิดปั๊บก็ ขาดทุนตั้งแต่ปี  2540 เพราะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ได้รับผลกระทบในการขายโฆษณา  ระหว่างนี้ไอทีวียังมีอุปสรรคในการจัดตั้งสถานีเครือข่ายทั่วประเทศที่ต้องตั้ง  36 สถานี ภายใน 2 ปี หลังทำสัญญา เพราะไอทีวีเช่าใช้พื้นที่ของกรมประชาสัมพันธ์ได้ล่าช้าทำให้ต้องสั่งซื้อทรัพย์สินส่วนใหญ่ ทำให้ขาดทุนจากการเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา จึงขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 409 ล้าน.... ยับเยินครับ....เอ้า..ยังทำกันต่อไป...ไทยพาณิชย์เริ่มอยู่ไม่ติดเพราะเป็นนายทุนใหญ่..NPL ของธนาคารก็พอกพูน..อย่าลืมนะครับว่าช่วงนั้น สถาบันการเงินวิกฤติขนาดหนักอยู่แล้ว... จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 03:50:16 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปี2541 ================= บริษัท สยาม  อินโฟเทนเมนท์  จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เมื่อ 20 ต.ค. 2541เพื่อเตรียมแต่ง เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์...ตามสัญญาซึ่งกำหนดให้จดทะเบียนภายใน 6 ปี หลังจากดำเนินการ...(ถ้าจำไม่ผิด)... แต่มันเป็นช่วงวิกฤติ ผลประกอบการก็ไม่ได้ดีขึ้น..จนถึงเวลาต้องจ่ายค่าสัมปทานในปีที่ 3(2541)...จำนวน 300 ล้าน .ขาดทุนมาตลอด จะเอาที่ไหนจ่ายก็ขอผ่อนผันกับรัฐบาลในสมัยนั้น คือรัฐบาลชวน หลีกภัย โดยมีคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ เป็น รมต. สำนักนายกฯ กำกับดูแล สปน.... โดยทำหนังสือขอขยายเวลาชำระค่าตอบแทนแก่รัฐตั้งเริ่มเลย...ตามเอกสารตั้งแต่ปี 2540 หนังสือขอขยายระยะเวลาการชำระค่าตอบแทน ITV078/2540 ขอขยายระยะเวลาการชำระค่าตอบแทนตามสัญญาเข้าร่วมงาน ITV183/2540 ขอยืนยันขยายระยะเวลาการชำระค่าตอบแทนตามสัญญาเข้าร่วมงาน ITV053/2541 ขอยืนยันขยายระยะเวลาการชำระค่าตอบแทนตามสัญญาเข้าร่วมงานครั้งที่ 2 ITV068/2541 การขอขยายระยะเวลาชำระค่าตอนแทน ITV094/41 ................ อีกหลายฉบับ...เพื่อขอไปทาง สปน. ซึ่งก็ผ่อนผันให้ ตามที่ขอ จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 04:09:31 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 มติ ครม. รัฐบาลชวน ================= เรื่อง  บริษัท สยาม อินโฟเทนเมนท์ จำกัด ขอขยายระยะเวลาชำระค่าตอบแทนตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ ยู เอช เอฟ คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานการดำเนินการตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ ยู เอช เอฟ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ในกรณีที่คู่สัญญาเห็นพ้องต้องกันว่าควรแก้ไขสัญญา ก็ให้ยกร่างสัญญาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง โดยนำกฎหมายว่าด้วยเอกชนร่วมทุนกับรัฐมาอนุโลมใช้เท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ในชั้นนี้   ============ โดยขอแก้ไขระยะเวลาการชำระยืดออกไป..เพราะจ่ายไม่ไหว..ขาดทุนบักโกรกมาตลอด... จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 04:16:21 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 พยายามไประดมทุนในตลาด แต่เข้าไม่ได้เพราะเจ๊ง =========================== แม้ว่าจะจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัดแล้ว  แต่ผลประกอบการขาดทุนทำให้ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเป็นบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็ไม่สามารถจะเข้าไประดมทุน เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้... ปี 2542 บริษัทสยาม อินโฟเทนเมนท์ ทำหนังสือขอชดเชยความเสียหายจากการที่รัฐทำผิดตามสัญญา โดยขอจ่ายค่าสัมปทานให้เท่ากับหรือใกล้เคียงช่อง 7 สี และอ้างว่าได้รับผลกระทบจากกรณีที่สปน.อนุญาตให้สถานีช่อง 11 และยูบีซีหารายได้จากโฆษณา ปี  2543 ตลาดหลักทรัพย์ผ่อนปรนให้บริษัทที่ไม่มีผลกำไรยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้  แต่ปีนี้ไอทีวีมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง  มีหนี้สิน 4,900 ล้านบาท ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการ จึงต้องหาผู้ร่วมทุนเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องก่อนการเสนอขายหุ้นให้ประชาชน ในตลาดหลักทรัพย์ ====================== เห็นรึยังครับว่า...มันทุเรศทุรังขนาดไหน...ตั้งแต่ปี 2538 เรื่อยมาจนถึงปี 2543....ขาดทุนไม่มีดี....จะยึดตอนนั้นก็ยึดได้ตั้งนานแล้ว....พี่ไท..เอ๊ย....ไม่ได้ทำตามสัญญาเลย แถมยังขอแก้สัญญาอีกต่างหาก... ทำไมเอ็งไม่ยึดเล่า.....ทำไม ตอบหน่อย...เป็นพรรคพวกกันหรืออย่างไร...ไม่ว่ากัน... ปี 2543...คุณทักษิณ ก็เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องครับ..ลำบากท่านทักษิณต้องมาแก้หนี้ทุเรศทุรังนี้..... แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 04:41:33 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 04:25:14 จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 04:24:22 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปี 2543 ====================== เพื่อแก้ปัญหาหนี้เน่า และปัญหาขาดทุน ขาดเงินดำเนินกิจการ เพราะธนาคารไทยพาณิชย์แบกรับไม่ไหว..รับหุ้นมาเป็นหลักประกัน มาล้นหน้าตักแล้ว...ก็ไม่รู้จะเอาหุ้นไว้ทำไม จึงหาทางปลด NPL ครับ....ทักษิณก็เข้ามา ทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นในเดือน  ธ.ค.  2543  มีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด  (มหาชน)  ถือ 55.12 % บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 39% และผู้ถือหุ้นเดิม 5.88% การที่กลุ่มชินเข้ามามีสัดส่วนหุ้นที่มากทำให้เป็นที่พิพากษ์วิจารณ์ในขณะนั้นว่าการดำเนินการของไอทีวีจะขัดกับเจตนารมณ์เดิมของการทำสัญญา ============== ขัดเจตนารมณ์...ปัดโธ่...พูดมาได้...เอาตัวไม่รอด จะปิดเมื่อไหร่ก็ได้...ยังมาอ้างเจตนารมณ์..กดอเจตนารมณ์ของการทำสื่อเสรี.... ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าก่ออะไรไว้...จะพาคนอื่นตายกันหมดโดยเฉพาะผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างไทยพาณิชย์ที่จม ถมเท่าไหร่ก็ไม่พอกับ ไอทีวี... เนชั่นเริ่มแตกคอกับไทยพาณิชย์ก็ตอนนี้แหละครับ...เพราะจะทิ้งหุ้นแล้ว...ไม่เอาแล้วขอถอนสมอ..ก่อนที่จะย่อยยับมากกว่านี้ จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 04:33:36 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากที่มีการเพิ่มทุน แตกหุ้นเพิ่มทุน เนชั่นก็ถอนออกไป...ชินคอร์ปก็จัดการบริหารหนี้เน่าใหม่... เดิมที่มีการยื่นเรียกค่าเสียหายเมื่อปี 2542 จากผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมจากรัฐ...แต่ยังไม่คืบหน้าเรื่องไปอยู่ที่ฝ่ายรัฐแล้วกำลังพิจารณา..บริษัทชินคอร์ปร้องขอค่าเสียหาย ถามไปอีกครั้งในเดือนก.ย.2545 และยื่นหนังสือขอให้ตั้งอนุญาโตตุลาการมาพิจารณาเรื่องนี้ รวมทั้งเรียกร้องเพิ่มอีกข้อหนึ่งคือ ขอแก้สัญญาให้มีรายการบันเทิงมากขึ้น 30 ม.ค.2547 คณะอนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาด ให้สำนักปลัดนายกรัฐมนตรีชดเชยค่าเสียหายดังนี้ 1.ชำระเงินคืนแก่บริษัท จำนวน 20 ล้านบาท 2.ปรับลดผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจากเดิมปีละ 1,000 ล้านบาท เหลือ 230 ล้านบาท โดยไม่ต้องชำระเงินขั้นต่ำในส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีอีก 3.ปรับลดผลประโยชน์ตอบแทนจากร้อยละ 44 เหลือร้อยละ 6.5 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายและภาษีอากร โดยเปรียบเทียบกับเงินประกันผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีละ 230 ล้านบาท จำนวนใดมากกว่าให้ชำระตามจำนวนนั้น ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2545 เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญา 4.ให้สปน.คืนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่บริษัทได้ชำระเกินจากข้อ 3. จำนวน 570 ล้านบาท และ 5.ให้บริษัทสามารถออกอากาศไพรม์ไทม์ คือ ระหว่างเวลา 19.00-21.30 น. โดยไม่ถูกจำกัดประเภทของรายการ ทั้งนี้ โดยเสนอรายการข่าว สารคดี และสารประโยชน์ในสัดส่วนเวลาทั้งหมดเพียง 50% แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 11:19:22 จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 04:47:05 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ศาลปกครองเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ ========================= สปน.จึงยื่นร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดทั้งหมดของคณะอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทดังกล่าว 10 พ.ค.2549 ศาลปกครองครองกลางชี้ว่าคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี ส่งผลให้ 1.สปน.ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยสัมปทาน 570 ล้านบาท และอนุญาโตตุลาการไม่มีอำนาจชี้ขาดให้ปรับลดเงินผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญาร่วมงาน 2.ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ 20 ล้านบาท จากกรณีที่ปล่อยให้สถานียูเอชเอฟอื่นมีโฆษณา 3.สัดส่วนการนำเสนอข่าวสารจะต้องเป็นไปตาม เจตนารมณ์เดิมคือสาระร้อยละ 70 บันเทิงร้อยละ 30 โดยไอทีวีมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน =================== จึงมีผลมาให้เกิดการปรับกันขนานใหญ่ จากเดิมที่มันปรับ ยึด ไอทีวีได้ตั้งนานแล้ว...ก็เรื้อรังมาจนถึงวันนี้... เพื่อให้สัญญาสิ้นสุดลงซะที.....ก็ต้องยกเลิกสัญญา โดยการอ้างการทำผิดสัญญาสัมปทานในที่สุด..เพราะยังไงมันก็จ่ายไม่ไหวบนเงื่อนไขแบบนี้ของสัญญา... ใครมาทำต่อบนสัญญานี้ ยังไงก็ทำไม่ได้ ปัญหาก็มีต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีการแก้...พอจะแก้ก็ว่าช่วยเอกชน ประกอบกับทักษิณ เข้าการเมืองในปี 2544 การแก้สัญญาจึงเป็นไปไม่ได้..ปิดประตูการแก้ปัญหาอย่างสันติ...มันก็ต้องจบลงแบบนี้... เลิกก็เลิก....ไม่ได้เสียหายอะไร...คนที่เสียหายคือรัฐเท่านั้นเอง ....ที่ต้องมารับภาระบริหารในฐานะเจ้าของคนใหม่.. 5555555555555555555555 จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 04:53:39 A:124.120.160.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลูกแกะกับหมาป่า .. .. ชัดเจนดีครับ จากคุณ : Spyrogira - [ 28 ก.พ. 50 04:57:26 A:222.123.204.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ จขกท.ครับ ที่หารายละเอียดมาเล่าสู่กันฟัง พวกเราก็ได้แต่คอยเฝ้าดูความสามารถของรัฐที่จะเข้ามาบริหารจัดการว่าทำอย่างไรถึงจะได้มีกำไรกะเขาบ้าง ดาวเทียมก็อีกเรื่องหนึ่ง...คอยดูครับ จากคุณ : chanjit - [ 28 ก.พ. 50 05:33:06 A:203.146.63.184 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชจ.  ชัดเจนมากๆเลย...นะครับ เช้าๆแบบนี้ จิบกาแฟสักแก้ว...นะครับ จากคุณ : สุทธิสาร - [ 28 ก.พ. 50 06:31:32 A:58.8.104.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอ... ทำกิจการแล้วจ่ายค่าสัมปทานไม่ไหวก็เจรจาลดเพื่อไห้กิจการดำเนินต่อได้ มันก็เหมือนกันกับการเจรจากับแบงค์เพื่อทำแฮร์คัท (หมายเหตุ เหมือนหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กับ ธนาคารกรุงไทย) ผมว่าความตั้งใจเหมือนกัน แต่วิธีการดำเนินการต่างกันเท่านั้น ใครถูกผิดก็ขึ้นอยู่ว่าใครมีอำนาจ ใครมีความสัมพันธ์ เนื่องจากที่นี่เป็นประเทศไทย จากคุณ : aiiyha - [ 28 ก.พ. 50 06:46:59 A:221.128.118.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 จะคอยดูต่อไป ว่าจะมีการแบ่งชิ้นเค้ก itv ต่อไปอย่างไร จากคุณ : McLeod - [ 28 ก.พ. 50 07:00:32 A:124.121.107.53 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วย กับเจ้าของกระทู้เป็นอย่างยิ่ง   โหวต ให้อีก 1  เสียง จากคุณ : หัวอกพี่หนาน*.. - [ 28 ก.พ. 50 07:29:14 A:203.172.210.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 จบ.. . . จากคุณ : maxzi_tv1 - [ 28 ก.พ. 50 07:45:14 A:203.113.38.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทักษิณซื้อ ไอทีวี ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า ต้องจ่ายสัมปทานตามสัญญา มันมองเป็นอย่างอื่นไม่ได่ว่า ทักษิณซื้อ เพราะมี "วาระซ่อนเร้น" หวังเข้าไปแก้ไขสัญญา สั้น ๆ ง่าย ๆ จากคุณ : ไทเมือง - [ 28 ก.พ. 50 07:51:44 A:58.8.101.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 สัญญามีมาแต่ใดคับ คุณว่าคนยื่นสัมปทานทีแรกเขาไม่รู้หรือว่าถ้าเป็นแบบที่ว่าเขาจะไม่รอด ผมว่า เขาคงไม่โง่หรอก และเขาน่าจะรู้ เพียงแต่เขาเสนอเงื่อนไขเอาไว้กันคนอื่นเท่านั้น  ส่วนเรื่องถ้าทำตามนั้นแล้วขาดทุน เขาก็คงคิดว่าสอดไส้อะไรไว้สักเล็กน้อยให้ภายหลังมาขอแก้สัปทานง่ายกว่า ถ้าไม่เกิดวิกฤติขึ้นมา แล้วทักษิณเป็นคนไปซื้อ ป่านนี้งุบงิบแก้ สบายแฮไปแล้วท่าน จากคุณ : ชนะมาร - [ 28 ก.พ. 50 08:06:50 A:124.120.8.18 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับรายละเอียด จขกท. ช่วยโพสต์ที่ สินธร ด้วยสิ ผู้ถือหุ้นรายย่อย ที่ยังไม่รู้ข้อมูลนี้ มีอีกมาก. จากคุณ : พ่อให้เงินแม่ให้ทอง - [ 28 ก.พ. 50 08:12:26 A:222.123.141.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถูกต้องชัดเจนดีค่ะ ขอบคุณๆ จากคุณ : jintanakarn1 - [ 28 ก.พ. 50 08:39:32 A:58.136.16.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอขอบคุณ จขกท. จากคุณ : u5canoe - [ 28 ก.พ. 50 09:13:26 A:124.157.146.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตั้งแต่ 6 มีนา เริ่มนับยอดสะสมการขาดทุนของ itv ได้เลย เพราะต้องเงินภาษี ไปสนับสนุนการดำเนินการ สิ้นปีนี้หากขาดทุนไม่เกิน 1000 ล้าน ถือว่าเป็นโชคดีของประเทศไทย และอนาคตมันก็จะเป็นรัฐวิสาหกิจที่เหมือน รสพ  ขสมก ที่คนรัฐเข้าไปบริหารจนขาดทุนตลอดกาล แต่ไม่ยอมขายออกไป อ้างสาเหตุ ห ....เหว ดันกันไป  ทั้งที่หากให้เอกชนทำ อย่างน้อยค่าสัมปทานก็ได้ต่อปี และภาษีก็ไม่ต้องไปอุ้มอีกต่อไป  สงสารประเทศไทยครับ แล้วนี่ คดี ยุบ รสพ ไปถึงไหนแล้ว ใครทราบบ้างครับ เพราะที่ผ่านมามันช่วงชุลมุน ของประเทศ เลยไม่ทราบผลว่าเป็นยังไงบ้าง จากคุณ : bomatubu - [ 28 ก.พ. 50 09:16:20 A:202.44.139.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 16   ทักษิณซื้อ ไอทีวี ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า ต้องจ่ายสัมปทานตามสัญญา มันมองเป็นอย่างอื่นไม่ได่ว่า ทักษิณซื้อ เพราะมี "วาระซ่อนเร้น" หวังเข้าไปแก้ไขสัญญา สั้น ๆ ง่าย ๆ จากคุณ : ไทเมือง   - [ 28 ก.พ. 50 07:51:44 A:58.8.101.25 X: ] ------------------------------------------------------------- ลุงพูดไม่หมดนะ ชินคอร์ปซื้อตอนนั้น สัญญาสัมปทานปรากฏข้อ 5 วรรค 4 ที่เป็นวาระซ้อนเร้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมอยู่แล้ว โดยไม่ทราบว่าสัญญาข้อนี้จะไม่มีผลบังคับในภายหลัง ชินคอร์ปเป็นบริษัท Holdings ดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ ก่อนที่จะเข้ามา ก็ต้องมีการศึกษาจนลึกซึ้งในข้อจำกัดทางธุรกิจที่ตนจะเข้าไปลงทุนอยู่แล้ว เมื่อศึกษารูปแบบธุรกิจและความเป็นไปได้ที่จะพลิกฟื้นสภาพการขาดทุนของไอทีวี จึงเข้ามาแล้วจัดการดำเนินการ กว่าจะรู้ว่า สัญญาข้อ 5 วรรค 4 ไม่มีผลบังคับ ก็โน้น...ศาลปกครองกลางสูงสุดมีคำสั่ง เพราะก่อนหน้านั้น ทาง สปน.ก็รับลูก ยอมรับมาตลอดทั้งเรื่องที่เป็นฝ่ายผิดสัญญาข้อ 5 วรรค 4 นี้ แถมมีการจัดประชุมร่วมกันเพื่อหาทางเยียวยาให้ไอทีวี แต่ไม่รู้จะเยียวยาอย่างไรดี จึงไปดูสัญญาสัมปทานใหม่ ซึ่งกำหนดให้ตั้งคณะอนุญาโตตุลาการมาเพื่อตัดสิน พอไปตั้งอนุญาโตตุลาการ ปรากฏคืออนุญาโตตุลาการก็ตัดสินโดยพิจารณาจากสัญญาข้อ 5 วรรค 4เป็นสำคัญ ซึ่งทำให้ไอทีวีชนะ แต่คำสั่งชี้ขาดนั้นตัดสินให้ลดค่าสัมปทานลงและเปลี่ยนสัดส่วนเนื้อหาในการนำเสนอเป็น 50:50 และจ่ายค่าเสียหายให้ไอทีวี 20 ล้านบาท ตรงนี้ น่าสังเกตุมาก สปน.ร้องขอเพิกถอนชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในประเด็นการเปลี่ยนสัดส่วนเนื้อหาในการนำเสนอและลดค่าสัมปทาน ฯลฯ แต่.....ไม่ได้โต้แย้งว่าตนมิได้ผิดสัญญา = ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า สปน.ผิดสัญญาข้อ 5 วรรค 4 จริง(สปน.ยอมรับมาตลอดว่า สัญญาข้อ 5 วรรค 4 มีผลบังคับ และตนเป็นฝ่ายผิดจริง ศาลปกครองกลาง(ชั้นต้น)พิพากษาในปี 2547 ให้เพิกถอนคำชี้ขาด แต่ไม่ได้บอกว่าข้อ 5 วรรค 4 ไม่มีผลบังคับ ระบุแต่เพียงว่าอนุญาโตตุลาการไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาก้าวล่วงไปถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในสัญญาสัมปทาน (คือจะชดใช้จ่ายค่าเสียหายอย่างไร ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่จะไปแก้ค่าสัมปทานกับสัดส่วนเนื้อหารายการไม่ได้) ไอทีวียื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด จนเมื่อปลายปี 2549 ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งเด็ดขั้วองุ่น....บอกว่า ข้อ 5 วรรค 4 ไม่มีผลบังคับ เพราะ สปน.ไม่ได้นำสัญญาข้อนี้ซึ่งไอทีวีขอให้เพิ่มเติมขึ้นเข้าสู่ ครม.(ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องภายในของ สปน. เอง โดยสัญญาข้อนี้ได้ผ่านกระบวนการามกฎหมายทุกอย่างเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญา ทั้งการนำไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาก็เรียบร้อยแล้ว) จะรู้มั๊ยเนี่ยยยยยยย........ ศาลปกครองกลางสูงสุดให้เหตุผลว่า แม้จะเป็นเรื่องของ สปน. แต่การที่จะต้องนำเข้า ครม.เป็นเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในกฎหมายเรื่องสัมปทานรัฐ ใครผิดไม่ผิดไม่รู้ แต่ข้อนี้ไม่ผูกพันรัฐก็แล้วกัน...นอกจากนั้นยังตอกย้ำอีกว่า ตอนไอทีวีขอแก้ไขสัญญาสัมปทาน เมื่อปี 2542 ผู้บริหารไอทีวีคนหนึ่งในขณะนั้น (จำชื่อไม่ได้ ต้องไปดูในคำพิพากษา)เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ สปน. ก่อนจะออกไปทำงานที่ไอทีวี ย่อมถือว่าไอทีวีต้องรู้ข้อเท็จจริงนี้...(ปิดปากกันไป สปน.ลอยตัว ไม่ต้องรับผิดต่อไอทีวีเรื่องนี้ด้วย ฟ้องละเมิดก็ไม่ได้) สถานการณ์ที่ไอทีวีปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจนถึงวันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง....กลายเป็นไอทีวีผิดสัญญาสัมปทานโดยปริยาย(ก็ข้อ 5 วรรค 4 ไม่มีผลบังคับแล้วนิ) -------------------------------------------------------------- บางคนพูดเอาดีใส่ตัว ส่วนความจริงหมกๆไว้ ไม่ต้องให้คนอื่นรู้ บอกแต่ว่าไอทีวีผิดสัญญาเอง ไม่จ่ายค่าปรับก็ต้องโดนยึด..สมน้ำหน้า จะมาร้องขอความเห็นใจอะไรอีก เนี่ยแหละ....วาระซ้อนเร้นในตัวลุงแถ จากคุณ : kookate - [ 28 ก.พ. 50 09:31:47 A:58.8.105.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องนี้ยังคงต้องมีการฟ้องร้องกันอีกนาน ผมอดคิดไม่ได้ว่าด้วยค่าปรับขนาดนี้ หากในวันข้างหน้าสมมุติอีกห้าปี ศาลตัดสินว่า สปน. เป็นผู้ผิดสัญาเสียเอง จะต้องจ่ายค่าปรับมากมายขนาดไหน จากคุณ : highburian - [ 28 ก.พ. 50 09:41:24 A:203.151.101.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับความรู้นะคับ จากคุณ : Changeless - [ 28 ก.พ. 50 10:16:05 A:58.9.83.172 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทักษิณซื้อ ไอทีวี ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า ต้องจ่ายสัมปทานตามสัญญา มันมองเป็นอย่างอื่นไม่ได่ว่า ทักษิณซื้อ เพราะมี "วาระซ่อนเร้น" หวังเข้าไปแก้ไขสัญญา สั้น ๆ ง่าย ๆ จากคุณ : ไทเมือง ========= รายละเอียด คห. 22 ก็ชี้แจงให้ลุงฟังไปแล้ว... ผมก็เพิ่มเติมเรื่องการแก้สัญญาแล้วกันว่า มันมีนัยแฝงเร้นตามที่ คุณชนะมารกล่าวมา.. ว่ามีการล็อคการประมูลโดยตั้งผลประโยชน์สัมปทานให้สูงเพื่อตัดคู่แข่ง...แบบชนะแน่ๆ... เพราะถึงเวลาจ่าย ก็ไม่ได้จ่ายจริง ขอผ่อนผันมาตั้งแต่งวดแรก เขากำลังหาทางแก้สัญญากันอยู่ โดยวิธีก็คือปี 2542 ให้ช่อง 11 มีโฆษณาเพื่อเอามาเป็นเหตุของการผิดสัญญาของ สปน. ที่ต้องการจะช่วยให้การแก้สัญญาเกิดขึ้นได้...ทุกอย่างกำลังเข้าทางของการดำเนินการเพื่อให้สัญญานั้นกลับสู่ความเป็นจริง ซึ่งนายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เปิดทางให้แก้สัญญาได้ แล้วบอกให้ไปยกร่างมาเสนอต่อ ครม. แต่ก็นั่นแหละครับ..กระบวนการตรงนี้โฉ่งฉ่างไม่ได้ มันใช้เวลาเพื่อให้เนียนที่สุด...ไทยพาณิชย์รอไม่ได้ เพราะ NPL สูงมากของธนาคาร มีปัญหาต้องตั้งสำรองตามมาตรการการแก้ปัญหาของสถาบันการเงินที่เป็นเงื่อนไขของ ธปท. และมาตรการของ  IMF ไทยพาณิชย์ต้องควักเงินมาโปะ ให้กู้เพื่อดำเนินการ ทั้งที่กิจการนั้นกำไรก็ไม่มี มองไม่เห็นมาตั้งแต่ต้น เข้าเนื้อไทยพาณิชย์ เพราะผู้ถือหุ้นอื่นไม่มีเงินมาลงเพิ่ม แต่วิ่งกู้มาลงทุน มาดำเนินกิจการ ซึ่งหมุนเวียนภายในก็ไม่พอ... ไทยพาณิชย์อาการย่ำแย่ จากที่ต้องให้กู้ ให้ทุนมาดำเนินการแบบไม่จบสิ้นของ ไอทีวี ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ มีหุ้นเป็นหลักประกันการกู้ ก็ต้องหาทางตัดหนี้ก้อนนี้... อนึ่งไทยพาณิชย์มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นใหญ่.....ครับ...คงไม่ต้องอธิบายต่อนะครับ..ว่าอะไรคือเหตุผลที่นอกเหนือการลงทุน การตัดหนี้ของไทยพาณิชย์... ตัวอย่างความไม่พอเพียง ชัดเจนครับ การลงทุนที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีความเป็นไปได้..ไม่โปร่งใสมาตั้งแต่ต้น... ถ้าไม่มีปัญหาของไทยพาณิชย์ ไม่มีทักษิณเข้ามา เชื่อมั๊ยครับ...การแก้สัญญาในสมัยรัฐบาลชวน...จะเสร็จสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว...เผอิญว่าไทยพาณิชย์รอไม่ได้ เอาทักษิณมาถือหุ้นของตน...เพื่อแก้ปัญหาของตน... เนชั่นไม่พอใจไทยพาณิชย์  แต่ก็ไม่มีเงินที่จะไปซื้อหุ้น ตัดหนี้ให้ไทยพาณิชย์...ไปกู้คนอื่นมาซื้อหุ้นจากไทยพาณิชย์เขาก็ไม่ให้ เพราะกิจการเจ๊งไม่มีผลตอบแทน.... ตอนนั้นภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมก็ยังไม่ฟื้น ยังอยู่ก้นเหว และภายใต้มาตรการของ IMF แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 11:16:44 จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 11:15:16 A:124.120.176.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 พูดง่ายก็คือ หมูเขาจะหาม ทักษิณเอาคานเข้ามาสอด.. 2 คนเขาหามกันอยู่ เนชั่นแบกคานด้านหน้าเดินนำ ไทยพาณิชย์แบกคานด้านหลังหนุนเงิน...แต่ขาดทุนย่อยยับ.. คนเสียหายคือเจ้าของเงินคือธนาคารที่ปล่อยกู้... คานหลังแบกไม่ไหว..น้ำหนักมันมากเข้า..ในขณะที่คานหน้าไม่ได้ช่วยอะไรเลย.. ไทยพาณิชย์เลยทิ้งไม้คานซะ ให้ทักษิณมาช่วยแบก... เรื่องมันก็เป็นแบบนี้...แล้วมันก็เรื้อรังเพราะสัญญาแบบนี้มองแบบนักธุรกิจทั่วไป ยังไงก็เจ๊ง....มันสะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้คิดทำตามสัญญามาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว... ถ้าทักษิณไม่เข้ามาช่วยไทยพาณิชย์ ไทยพาณิชย์ไม่มีปัญหา NPL ธนาคาร ป่านนี้หมูหามกันไปฉิว...แล้วโดยมีตัวช่วยคือรัฐบาลสมัยนั้น...มาแก้น้ำหนักหมูให้ลดลงไม่ต้องแบกค่าสัมปทานตามที่โม้ไว้... จากคุณ : minimalist - [ 28 ก.พ. 50 11:28:05 A:124.120.176.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 สปน.มั่นใจมากนักหรือครับ การที่ช่อง 11 มีโฆษณามันทำให้ สปน. ทำผิดสัญญาข้อ 5 วรรค 4 กับไอทีวี และเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนการแก้ไขสัญญา ที่สำคัญศาลปกครองไม่เคยพิพากษาว่า สปน.ไม่ได้ผิดสัญญาข้อนี้ ถ้าจะยึดคลื่นคืน แล้วจะให้ไอทีวีฟ้องกลับหรือครับ อย่าลืมว่าการให้ช่อง 11กับ ยูบีซีโฆษณาได้มันไปแย่งรายได้บางส่วนที่คาดว่าจะได้ของไอทีวีนะครับ จากคุณ : POE - [ 28 ก.พ. 50 12:18:04 A:203.113.61.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 การที่เรื่องมันยืดเยื้อ ขนาดนี้ ก็เพราะ รัฐเองทำให้เกิดปัญหา เรื่องจ่ายค่าปรับมันไม่มีทางอยู่แล้ว การทิ้ง สัมปทาน รัฐเองก็ต้อง ทำรายได้ ให้ได้มากกว่า ที่ itv ทำอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดิม ถ้าทำได้ต่ำกว่า ก็ต้องรับผิดชอบ ในการไปยึดสัมปทานเขาคืนมา แต่ทำได้ไม่ดีเท่าเขา หากไปปรับเงื่อนไข ก็แสดงว่า ข้ออ้างที่ ไม่ปรับสัญญา เป็นเรื่อง ปาหี่ หาทางยึดสัมปทาน แค่นั้นเอง จากคุณ : คนชอบเขียน - [ 28 ก.พ. 50 12:44:18 A:203.150.116.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมสงสัยอยู่ข้อเดียวว่าทำไมถึงมีการต่อสัญญาคลื่นทหาร ให้ช่อง3 กับ 7 ได้ก่อนหมดสัญญา เงียบซะด้วย คตส.ไม่ไปตรวจหน่อยหรือไง รัฐเสียผลประโยชน์เต็มๆ จากคุณ : S40 - [ 28 ก.พ. 50 20:47:17 A:222.123.185.111 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ เซฟ บทความในกระทู้นะครับ ยกเว้น ของลุงแถ  ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 50 10:31:18 จากคุณ : Soul To Squeeze - [ 6 มี.ค. 50 10:30:50 A:58.8.120.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอsaveเก้บก่อนนะครับ คุณ minimalist หลังจากที่ช่วยให้ปัญญาผมเรื่องดาวเทียมก็มาถึงเรื่องนี้ ผมจะอ่านของคุณเทียบกับหนังสือของสุทธิชัย หยุ่น เรื่องประวัติเนชั่นก่อน เพื่อจะได้สอบทวนข้อมูลด้วย ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : ct15 - [ 6 มี.ค. 50 13:14:37 A:125.25.155.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 กระจ่างครับ ชัดเจนดี จากคุณ : bank113 - [ 7 มี.ค. 50 11:24:07 A:125.25.149.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 . จากคุณ : jazzcat - [ 7 มี.ค. 50 12:06:47 A:203.188.48.41 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอเสริมข้อมูลหน่อยครับ จำได้ว่า เงื่อนไขสำคัญในการประมูลทีวืเสรีสมัยนั้นมีว่า บริษัทหนึ่งๆจะถือหุ้นในทีวีได้ไม่เกินร้อยละ10 ฉะนั้นจึงต้องประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจไม่ต่ำกว่า10กลุ่ม โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้กลุ่มใดมีอิทธิพลเหนือทีวี (ซึ่งในแง่ธุรกิจแล้ว Work หรือไม่ไม่ทราบ) กลุ๋มไทยพาณิชย์-เนชั่น-ฯลฯ(อีก8) ชนะ (มีNominee หรือเปล่า ไม่ทราบ) ภายหลัง เป็นเพราะการขาดทุน ทำให้กลุ่มต่างๆที่ร่วมไม่สามารถร่วมได้ (หรืออาจกู้เงินจากไทยพาณิชย์) จึงเกิดการเปลี่ยนเงือนไขสัญญาครั้งสำคัญ ยกเลิกการถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 10 เห็นชอบในสมัยคุณหญิงสุพัตรา มาศดิสต์ สมัยนั้นมีการคัดค้านอยู่เหมือนกัน ผลการนี้ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งต่อมาผ่องถ่ายไปยังกลุ่มชิน ... พิจารณาด้วยใจเป็นธรรม การลงทุนของกลุ่มชินฯมีความหมาย ในฐานะการประกอบการ(แบบมืออาชีพ) ขณะนั้น มองอย่างไรก็ยังไม่น่าลงทุน แม้จะอ้างว่ามีสัญญาข้อ5วรรค4 (ขออภัยที่ผมไม่ทราบรายละเอียด) พออนุมานได้ว่ามีการตั้งแท่นรอที่สปน.ผิดสัญญาให้โฆษณาในทีวีอื่น ซึ่งทำให้ITV เสียประโยชน์อันอาจให้แก้ไขสัญญาลดค่าสัมปทาน แต่อย่าลืมนะครับว่า ขณะนั้นยังไม่มีคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ซึงผมเห็นว่าประเด็นสำคัญที่สุด คือ การเปลี่ยนสัดส่วนของรายการบันเทิง จากร้อยละ 30 ป็น 50 หากคงสัดส่วนของบันเทิงแบบเดิมไว้ ถึงแม้จะลดค่าสัมปทานลงบ้าง ก็ยังไม่น่าลงทุน ... ประเด็นการลงทุนแบบมืออาชีพ(โดยบริสุทธิ์)ของกลุ่มชินฯ ผมจึงไม่เชื่อ แต่หากบอกว่าแบบมืออาชีพ(ผสมทิศทางการเมือง) ดูจะสมเหตุผลมากกว่า เพราะดูการตั้งแท่นแก้ข้อจำกัด (โดยประชาธิปัตย์) ดูคนที่ขาย ธ.ไทยพาณิชย์ (ถือหุ้นโดยสำนักทรัพย์สิน) ดูดูแล้วน่าจะไม่มีอุปสรรคมาขวางทิศทางที่มุ่งไปได้ ถ่าย Momentum แก้ไขสัญญาเพิ่ม แล้วใครล่ะจะมาขวาง ทีเอ็งยังมีทิศทางเอื้อเอกชนเลย ประกอบกับคุณทักษิณเองก็เข้าสู่การเมือง การมีสื่อในครอบครอง จะไม่ดีหรือ หรือใครไม่เชื่อว่าทักษิณสั่งชินฯได้... ... ว่าถึงการสั่ง ผมไม่เคยเชื่อนะครับว่าทักษิณไปสั่ง ITV โดยโครงสร้างการบริหาร จากคุณทักษิณ - คุณบุญคลี - คุณนิวัฒน์ธำรง ทำให้ผมไม่สามารถวางใจ ITV ได้เต็มร้อยเท่านั้นเอง จากคุณ : ลูกเขยทหาร - [ 7 มี.ค. 50 17:54:43 A:124.121.58.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ข้อมูลเขาแน่นปึกขนาดนี้ จอมแถไทเมือง ยังอุตส่าห์เข้ามาแสดงความโง่อีก จากคุณ : yacht98 - [ 9 มี.ค. 50 20:03:10 A:203.209.110.183 X: ]