นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,420 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3-4 มี.ค.ในหัวข้อวิจัยฐานการเมืองและการปรับคณะรัฐมนตรีในสายตาประชาชน
.
ผมมีโอกาสได้เห็นโพลฉบับนี้และตอบแบบสำรวจความคิดเห็น เมื่อ 3 มีนา จากน้องนักศึกษาน่ารักของเอแบคกลุ่มหนึ่ง ที่มาขอให้ช่วยกรอกแบบสอบถามความคิดเห็นของสถาบันแถวศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เพื่อส่งอาจารย์
ผมเห็นน้องๆพยายามขอร้องให้คนที่เดินผ่านไปมาสละเวลาสักเล็กน้อย กรอกแบบสอบถามให้..แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจ บอกว่า..ไม่มีเวลา น่าเห็นใจน้องๆครับ
สำหรับผม รู้สึกว่าจะสงสารน้องๆที่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงบอกว่ายินดีจะตอบแบบสอบถาม...โดยนักศึกษาจะอ่านข้อความให้ฟัง แล้วให้เราตอบเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย แล้วน้องจะ ติ๊กเครื่องหมายตามนั้น
ผมใช้เวลาประมาณ 5 นาที ตอบแบบสอบถามของน้อง...
แต่ในขณะตอบแบบสอบถามอยู่นั้น ตาผมมองไปที่นักศึกษา 3 คนที่กำลังสาระวนอยู่กับการ ติ๊กเครื่องหมายลงในแบบฟอร์มปึกใหญ่
มันเป็นแบบสอบถามชนิดเดียว ชุดเดียวกันกับที่น้องคนนั้นกำลังถามผมอยู่เสียด้วย น้องนักศึกษาเหล่านั้นกำลังกรอกแบบสำรวจความคิดเห็นกันเอง !
ผมไม่โทษน้องๆเหล่านี้หรอกครับ เขาและเธอต้องทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์นภดล แต่การควบคุมการทำโพลของอาจารย์ ถือว่าไร้มาตรฐานอย่างสิ้นเชิง
อาจารย์ทำเพียงตั้งหัวข้อ เมื่อพิมพ์เสร็จ ส่งกระดาษมาให้พวกนักศึกษา พร้อมยื่นค่าตอบแทนให้วันละ 300 บาทต่อคน ปล่อยให้นักศึกษาออกมาหาลูกค้าเอาเอง แล้วให้รวมรวมทั้งหมดส่งให้อาจารย์ เพื่อสรุปรวมผล
นักศึกษา เมื่อไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน เพราะเอือมระอากับโพลเหล่านี้ แต่ตนเองก็ต้องนำผลการสำรวจทั้งหมดส่งให้อาจารย์เกินครึ่งของที่รับมา เพื่อผลของคะแนนกิจกรรม จึงจำเป็นต้องกรอกแบบสำรวจเสียเอง
ถามว่าเรื่องอย่างนี้อาจารย์รู้มั๊ย..ผมว่ารู้ แต่ไม่สนใจ สนใจเพียงแต่ว่านักศึกษาจะกรอกแบบสำรวจออกมาในทางไหนเท่านั้น...และนักศึกษาก็ดูทีท่าของอาจารย์ว่าจะฝักไฝ่ในทางไหนเช่นกัน
เมื่อรวบรวมผลการทำโพลเรียบร้อยแล้ว ก็ปรับแต่งผลให้ดูเนียนซะหน่อย ไม่ค่อนไปทางรัฐบาลหรือเข้าข้างรัฐบาลมากเกินไป..เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้
แล้วเรียกหนังสือพิมพ์มาฟังการแถลงข่าว เสนอหน้าออกสื่อ และเชียร์รัฐบาล ได้สองเด้ง คือได้ดัง และได้ตังค์ !
.
นายนพดล กล่าวต่อว่า นับจากนี้ไป ผู้ใหญ่ 5 ฝ่ายในสังคม เช่น นายกรัฐมนตรี ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) น่าจะมีโอกาสพบปะพูดคุยพร้อมกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อช่วยกันเร่งร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว สร้างกฎหมายระบบสังคมใหม่ สังคมที่ดีต่อวิถีชีวิตของประชาชน และขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไปในช่วงเวลาที่ฟ้ากำลังเปิดอยู่นี้ เพื่อมิให้กลุ่มอำนาจใด ๆ มากล่าวอ้างเหตุผลเพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลในอนาคตได้ และคืนอำนาจให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว
นายนพดล กล่าวทิ้งทาย....ผมขำ !
แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 50 09:41:24
จากคุณ :
ปลายอ้อกอแขม
- [
6 มี.ค. 50 09:10:23
A:58.64.127.20 X:
]