| อยากรู้ (116 คน) |
| ไม่อยากรู้ (5 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 121 คน |
สพรั่งด่าข้าทาสลอบกัดไล่บี้ยื่นนายกฯสอบ
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์
Thursday, March 08, 2007
"จาตุรนต์" เดินหน้าสางแค้น "สพรั่ง" มอบลูกพรรคยื่นนายกฯ ตรวจสอบการใช้งบ ทอท. โต้ประชาชนคือผู้ตัดสินใครเป็นวีรบุรุษ ลั่น ทรท.จะตรวจสอบรัฐบาลและ คมช.ต่อไป
ขณะที่สพรั่งท้าสอบ โบ้ย ทอท.แจงแทน ด่ากราดพวกข้าทาสบริวารอยากมีกิจกรรมเพื่อให้มีท่อน้ำเลี้ยง ไปเหยียบสมองคนเลวจึงจ้องลอบกัด ปชป.แฉ 6 ปียุคทักษิณผลาญงบบานเบอะพา "พานทองแท้" ทัวร์รอบโลก
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2550 นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตอบโต้พรรคไทยรักไทยว่าจ้องจับผิด ที่กล่าวหาว่าใช้งบประมาณเดินทางไปดูงานต่างประเทศไม่โปร่งใส ว่ากรณีดังกล่าวมีประชาชนเป็นผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้นำไปสู่การตรวจสอบเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งในวันที่ 8 มี.ค.ตนจะให้คณะทำงานติดตามการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคไทยรักไทย ที่มีนายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นประธาน เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และนายกฯ ต้องชี้แจงต่อสาธารณชนถึงกรณีดังกล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.อ.สพรั่งระบุว่า ไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพราะไม่ใช่จำเลย แต่เป็นวีรบุรุษ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าใครเป็นวีรบุรุษ แต่การปฏิเสธชี้แจงความเสียหายยังน้อยกว่าที่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า นักการเมืองและพรรคการเมืองเป็นศัตรู เพราะจะไม่ทำให้เกิดความสมานฉันท์ เพราะนักการเมืองเข้ามาทำหน้าที่เพื่อดูแลผลประโยชน์ของประชาชน หากนักการเมืองไม่ตรวจสอบฝ่ายบริหารแล้วฝ่ายบริหารทำผิดเสียเอง แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร
"ยืนยันว่าพรรคจะดำเนินการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลและ คมช.ต่อไป ถึงแม้การดำเนินการดังกล่าวเป็นการทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเชื่อว่า คมช.จะไม่มองว่าเป็นการขัดต่อประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27" นายจาตุรนต์กล่าว
ทั้งนี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อพรรคไทยรักไทยออกมาเปิดโปงว่า พล.อ.สพรั่ง ในฐานะประธานบอร์ด ทอท.และคณะ รวม 13 คน เดินทางไปดูงานที่ประเทศเยอรมนีและอังกฤษ ใช้งบประมาณถึง 7.2 ล้านบาท สูงเกินความจำเป็น และบางคนไปเยี่ยมภริยาแต่เอางานบังหน้า
ด้าน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่ใช้งบประมาณของ ทอท.ไปดูงานประเทศอังกฤษและเยอรมนีว่า "เชิญเลยๆ ยินดี เพราะศัตรูพูดไปอย่างนั้น เพราะศัตรูกำลังจะแย่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงจะชี้แจงถึงการเดินทางและการใช้เงินทั้ง 7.2 ล้านหรือไม่ พล.อ.สพรั่งย้อนถามว่า "นี่ต้องการจะให้เป็นข่าวเหรอ หนังสือพิมพ์ขายไม่ดีกันหรือไง" เมื่อถามว่า นายจาตุรนต์ระบุว่าผู้มีอำนาจบางคนอยู่เหนือการตรวจสอบ ผช.เลขาธิการ คมช.กล่าวว่า "ต้องกลับไปถามนายเก่าเขาดู ว่าเขาอยู่เหนือการตรวจสอบหรือไม่"
"ไม่ชี้แจง ไม่ต้องสงสัย ให้ไปถาม ทอท.เอง ไม่ต้องถามว่าผมใช้เงินเท่าไหร่ แต่ต้องถามว่าผมมีสิทธิ์ใช้หรือไม่" ประธานบอร์ด ทอท.กล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช.ระบุไม่ให้ข้าราชการเดินทางไปต่างประเทศนั้น พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ไม่ใช่ สงสัยฟังผิด การจะทำหรือไม่ทำ อยากถามว่าการตัดสินใจทำสิ่งนั้นถูกต้องหรือไม่ อย่าถามว่าใช้เงินหรือถามว่าควรไปหรือไม่ควรไป แค่นั้นจบ อย่าไปใช้สำนวนขี้กลัว ทั้งนี้ตนไม่อึดอัดใจ ไม่มีปัญหา นักรบไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวของพรรคไทยรักไทยท้าทายอำนาจคมช.หรือไม่ ผช.เลขาธิการ คมช.กล่าวว่า จะตอบว่าใช่ก็ได้หรือไม่ใช่ก็ได้ พวกข้าทาสบริวารทั้งหลายคงอยากมีกิจกรรมเพื่อให้มีท่อน้ำเลี้ยง ซึ่ง คมช.ไม่จำเป็นต้องไปดำเนินการอะไร เพราะเรามีแผนปฏิบัติการอยู่
เมื่อซักว่ากลัวหรือไม่ว่าศัตรูโจมตีจะทำให้ คมช.เกิดปัญหาในการดูแลความมั่นคง พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ไม่มี ภูผาแน่นทึบไม่กระเทือนลม เมื่อถามว่าจะให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับพรรคไทยรักไทยหรือไม่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า เป็นข้อเสนอแนะที่ดีและอาจจะนำไปใช้ได้
"ผมเชื่อว่าเดี๋ยวกลุ่มที่เคลื่อนไหวก็จะสยบไปเอง คนที่ลอบกัดถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ เพราะกิจกรรมที่ไปไปดูงาน ขอให้ไปตรวจสอบดูในอดีตว่ามีความสกปรกแค่ไหน การดำเนินการไปดูงานต่างประเทศเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่สมัยเขาเป็น ส.ส.ไปดูงานต่างประเทศมากมาย ถามว่าไปดูงานจริงหรือไม่ อย่ามาถามกับคนปัจจุบัน และผมไม่จำเป็นต้องมาชี้แจงว่าไปทำอะไรมาบ้างเพราะไม่ควร บางอย่างต้องให้เกียรติกับประเทศที่เราไปดูงาน เพราะบางประเทศเขาไม่ให้ดูในสิ่งที่เป็นเทคโนโลยี ซึ่งเขาให้เราดูอย่างละเอียดลออ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องไปโฆษณา เดี๋ยวเขาจะไม่ไว้ใจ และไม่ให้เราไปดูข้อมูลอีก" พล.อ.สพรั่งกล่าว
พล.อ.สพรั่งกล่าวด้วยว่า "ผมไม่ได้ไปเหยียบตาปลา แต่อาจจะไปเหยียบสมองเขา ทำให้เขาจ้องลอบกัด บุคคลที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ เขาเรียกว่าลอบกัด เป็นคนเลวคอยลอบกัดเป็นธรรมดา ส่วนที่เขามุ่งเป้ามาที่ผม คงเป็นเพราะเขาหวาดกลัวผม ผมเป็นนักรบ ซึ่งนักรบต้องมีคุณธรรม เชื่อว่าเขาจะต้องแพ้ภัยตัวเอง คนที่คิดร้ายต่อคนอื่นต้องมีอันเป็นไป"
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.และรองประธาน คมช. กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ในการไปดูงานต่างประเทศว่า เป็นเรื่องปกติตามที่เคยมีแบบอย่างมาเช่นนี้ เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องไปดูงานในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยสนามบิน ส่วนการนำครอบครัวเดินทางไปด้วยเหมาะสมหรือไม่ ก็แล้วแต่สถานการณ์ และก็เป็นเรื่องปกติที่สามารถเอาผู้ติดตามไปได้
เมื่อถามว่าการกระทำของ พล.อ.สพรั่ง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ คมช.หรือไม่ รองประธาน คมช.กล่าวว่า คงไม่กระทบเพราะ พล.อ.สพรั่งไปในนามของบอร์ด ทอท. ไม่ใช่ในนาม คมช. อย่างไรก็ตามเข้าใจว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ได้พูดคุยตักเตือนในเรื่องนี้แล้ว
ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผยว่า ตนได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการใช้งบประมาณเพื่อเดินทางไปดูงานต่างประเทศสูงทุกครั้ง และที่แย่กว่านั้น บางคนที่ส่งไปดูงานมีตำแหน่งและความรับผิดชอบที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแต่อย่างใดเช่นเดือนตุลาคม มีการเดินทางไปดูงานที่ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ของผู้บริหารงานสนามบินและครอบครัว อีกครั้งกรณีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมของพรรคไทยรักไทย นำที่ปรึกษาส่วนตัวและผู้ติดตามรัฐมนตรีที่ไม่ได้มีหน้าที่บริหารสนามบินร่วมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย
เขายังระบุว่า กรณีดังกล่าวนี้ยังไม่รวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินทางกับบิดาไปต่างประเทศในขณะปฏิบัติราชการเยือนสหรัฐ, ยุโรป, ออสเตรเลีย และเอเชีย อยากทราบว่าไปช่วยราชการในฐานะใด และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง, ค่าเครื่องบิน, ค่าที่พักและค่ารับรอง ทราบว่าสูงมาก อยากให้พรรคไทยรักไทยช่วยชี้แจงด้วยว่า มาจากเงินของนายพานทองแท้หรือภาษีประชาชน และหากพรรคไทยรักไทยต้องการตรวจสอบกรณีบอร์ดรัฐวิสาหกิจปัจจุบัน ก็ควรที่จะเสนอให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบย้อนกลับไปตลอด 6 ปีที่ผ่านมาด้วย โดยให้รวมถึงการเจรจาทางการค้าที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เอกชนที่มีส่วนได้เสียว่าสามารถร่วมเดินทางกับคณะได้อย่างไร
"ผมก็อยากจะทราบว่า นายพานทองแท้ไปพบประธานาธิบดีบุชที่ทำเนียบขาวพร้อมนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ขณะที่ให้เจ้าหน้าที่การทูตที่มีหน้าที่ร่วมประชุมต้องหลีกทางไปนั่งรอนอกห้อง เพราะลูกชายนายกฯ กินโควตาจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมไปแล้ว เป็นการทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสหรือไม่ และใครจะเป็นผู้ชดใช้โอกาสที่เสียไปนี้" นายจุติกล่าว
นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ผู้นี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ครอบครัวอดีตนายกรัฐมนตรีร่วมเดินทางไปสร้างมิติใหม่แห่งการค้า ด้วยการกวาดกระเป๋าแบรนด์ดังระดับโลกจนหมดสต็อก และเดินทางกลับจากประเทศฝรั่งเศสด้วยเครื่องบินลำเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี ขอให้ไปตรวจสอบว่ามีการชำระค่าบรรทุกสัมภาระส่วนตัวที่ส่งมาพร้อมครอบครัวด้วยหรือไม่
"การออกมาเคลื่อนไหวของพรรคไทยรักไทยในครั้งนี้ สอดคล้องกับกระแสข่าวที่ว่ามีบางกลุ่มได้วางแผนดิสเครดิตสมาชิก คมช.และรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่เป็นหัวหอกในการปราบคลื่นใต้น้ำในภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อปูทางให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ และเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวทางการเมืองกดดันและขับไล่คมช.และรัฐบาล เพราะเชื่อในคำทำนายของหมอดูบางคนว่าดวงของ คมช.และรัฐบาลจะตกต่ำที่สุด ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายนนี้" นายจุติกล่าว
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ให้นโยบายว่าหากไม่มีความจำเป็น ควรงดการดูงานต่างประเทศ ถ้าทำได้จะเป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกันผู้ที่จะมาตรวจสอบต้องยืนอยู่บนสัมมาทิฐิ มีเหตุผลส่วนผู้ที่ถูกตรวจสอบควรจะยินดีเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะตามขั้นตอนต้องรายงานผลการดูงานครั้งนี้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 19:38:29
จากคุณ :
<_Eminem_>
- [
8 มี.ค. 50 19:30:45
A:207.218.210.186 X:
]