ความคิดเห็นที่ 1 หนีจากกระทู้ก่อนมาโผล่กระทู้นี้อีกแล้ว แถไม่เลิก น่าจะกลับไปตอบเพื่อนๆ ที่เขารออยู่ก่อนนะ ปอม ปอม เกิร์ล.......................... จากคุณ : lukemeedad - [ 8 มี.ค. 50 22:38:47 A:124.121.38.121 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5204048/P5204048.html กลับไปตอบด้วยล่ะกัน จากคุณ : NegiSpringfield - [ 8 มี.ค. 50 22:42:51 A:203.156.85.63 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ NegiSpringfield ผมก็ยกคำตอบมาที่กระทู้นี้ ใครตามไม่ทัน อ่านทีละข้อก็น่าจะเข้าใจ และถ้าจะเถียงผม ว่ามาทีละข้อได้เลย ว่าข้อไหนผิด จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 22:45:46 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^^" จขกท เล่นมุขเหรอครับ จากคุณ : snoom - [ 8 มี.ค. 50 22:47:58 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ลองคิดเล่นๆ ถ้าเป็นASTV หากตัดสินว่าผิดจะคิดค่าปรับบ้างป่าวหว่า จากคุณ : ขยะสังคม - [ 8 มี.ค. 50 22:49:40 A:210.246.81.76 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ snoom ไม่ได้เล่นมุขหรอกครับ ผมวัดภูมิปัญญาชาวราชดำเนินจริงๆ จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 22:49:49 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในสัญญามันเขียนว่า 10%ต่อปี โดยคิดเป็นรายวัน ถ้าตามตรรกะมันก็แปลได้ว่า ให้คิดเป็นรายวัน แต่10%อะมันต่อปี ดังนั้นก็ต้องเอามาหาร 365 อีกอย่างใครมันจะโง่เซ็นสัญญาค่าปรับโหดขนาดนั้น จากคุณ : NegiSpringfield - [ 8 มี.ค. 50 22:55:59 A:203.156.85.63 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ASTV ถ้าผิดก็ว่าตามกฎหมายครับ แต่เรื่องนี้เถียงอีกยาวครับ การรับสัญญาณทีวีในไทยด้วยดาวเทียมต่างชาติมีมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนมีเคเบิลในไทยเสียอีก เพียงแต่ไม่ใช่รายการที่คนไทยทำ แต่การส่งรายการภาษาไทยข้ามชาติก็มีมานานในวิทยุคลื่นสั้นครับ ทั้งบีบีซีจากลอนดอน และคอมมิวนิสต์ไทยจากจีน ไม่ต้องขออนุญาตทั้งคู่ จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 22:58:33 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 โลกมันไม่ได้บูดๆเบี่ยวๆ หรอก แตประเทศไทย ณ.วันนี้มันบูดๆเบี้ยวๆซะจนต่างชาติยังอึ้ง! ทำไปได้นะประเทศไทย จากคุณ : อเดเดช - [ 8 มี.ค. 50 23:01:04 A:222.123.117.112 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ NegiSpringfield คนเซ็นเขารู้ว่าต่อวันครับ จากที่ผมคำนวณก็แค่ปรับห้าเท่า สมเหตุสมผล แต่ถ้าใครให้เซ็นต่อปี เท่ากับปรับวันละเท่ากับค่าโฆษณาละครน้ำเน่าครึ่งนาที อย่างนั้นคนที่ยอมนะซิครับบ้า แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 23:02:08 จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:01:28 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปรกติสัญญาจ้าง ต่างๆกับรัฐบาล ส่วนใหญ่ - ค่าปรับจะเขียนเป็นรายวัน - การรับประกันจะเขียนเป็นรายเดือน รายปี - การซ่อมบำรุง เขียนเป็นรายวัน แต่จะเขียนอย่างชัดเจนในสัญญาเกือบทุกฉบับ แต่กรณีนี้ไม่เขียนชัดเจน จึงสามารถตีความได้หลายอย่าง จากคุณ : Rppc2 - [ 8 มี.ค. 50 23:07:34 A:58.9.116.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณคิดว่ารายการข่าวมันไม่ทำเงินหรือไง เอาง่ายรายการสรยุทธ์ เรื่องเล่าเช้านี้นะทำรายได้ให้ช่อง 3 เท่าไหร่ ไปหาข้อมุลตรงนี้ก่อนดีไหม จากคุณ : วิหคเหิรฟ้า - [ 8 มี.ค. 50 23:11:00 A:203.113.46.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 จะเป็นค่าปรับวันละ100ล้านสำหรับค่าอะไรก็ตาม เกินความเป็นจริงไม่มีธุรกิจใดทีสามารถจะอยู่ได้ แม้แต่ธุรกิจขายยาบ้าต้ององค์การใหญ่จริง ถึงจะมีกำไรเป็น100ล้านต่อวัน จากคุณ : ย่าทวด - [ 8 มี.ค. 50 23:11:19 A:58.9.188.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ NegiSpringfield ต้องเข้าใจว่าไอทีวีเขาไม่ได้ตั้งใจทำผิดสัญญา เขาถึงทำบันเทิงเพิ่มเป็นแค่ ๕๐ เปอร์เซนต์ แต่ตอนเซ็นเขารู้อยู่แล้วว่าค่าปรับวันละ ๑๐๐ ล้าน ถ้าค่าปรับวันละ ๒ แสนกว่าเท่าค่าโฆษณาครึ่งนาทีของละครน้ำเน่า คุณหยุ่นไม่ขายทิ้งหรอกครับ เบี้ยวทำละครน้ำเน่าเพิ่มสักสองสามเรื่อง ก็กำไรเละแล้วครับ จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:12:06 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ๑. เม็ดเงินโฆษณาราววันละ ๑๖๐ ล้าน ประมาณจากปี ๔๘ เม็ดเงินเดือนละ ๔ พันกว่าล้าน -----มันของทุกสถานีรวมกันหรือเฉพาะของ ITV??????? จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 8 มี.ค. 50 23:12:47 A:124.121.66.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ ย่าทวด ค่าปรับเขามีไว้ขู่ครับ ไม่ได้เอาไว้ให้ใครหากิน ยังไงก็ต้องไม่ต่ำกว่ากำไรที่เป็นไปได้ ๕ เท่านี่มันมากนักหรือครับ ขู่เด็กในร้านหนังสือมากกว่านี้เสียอีก จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:15:16 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ แวววัฒน์ ๑๖๐ล้านนี่ทั้งระบบครับ ผมบอกว่าถ้ามีทีวีที่โกงสัญญา ทำบันเทิง ๑๐๐ เปอร์เซนต์ (ยังไม่เคยมีใครทำ) โอกาสที่จะกินส่วนแบ่งตลาด ๕๐ เปอร์เซนต์ เป็นไปได้ หรือคุณเถียง จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:17:51 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้ายืนอยู่บนทฤษฎีที่มองทุกอย่างเป็นสีชมพู มันก็คงเป็นไปได้ตามที่คุณ Pom.com เขียนมาครับ แต่ในความเป็นจริง มันจะทำได้อย่างที่คิดเหรอครับ เวลาเค้าทำสัญญาเค้ามองที่ความเป็นจริงหรือมองโลกสีชมพูครับ จากคุณ : blackboar - [ 8 มี.ค. 50 23:19:17 A:124.121.106.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 การคิดกำไรหรือขาดทุนมันหลังจากที่เริ่มทำรายการขึ้นมาแล้ว ช่วงก่อนที่จะมีรายการบรรเทิงเพิ่มขึ้น เห็นมีแต่โฆษณายาถ่ายพยาธิ แชมพู สบู่ ครีมทาสิวแทบไม่มี ไม่ได้อ่านรายละเอียดตามสัญญาแนบนะคับ แต่ดูทางแค่ว่าการทำสถานีนี้แค่ประคองให้พออยู่ได้แล้ว  ภายใน 6 ปี เอาเข้าตลาดหุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมออกตัวได้ดีกว่า ดันโดนปี 40 ซะก่อนเปลี่ยผู้บริหารมีชื่อคุ้นๆ อยู่เยอะแต่ไม่รอด  ผู้ถือหุ้นเดิมมาออกตัวให้ผู้ถือหุ้นใหม่ ใช้ลูกเล่นพลิกแพลง ไม่หลงไปฟ้องกลับไม่โดนหรอก วันละร้อยน่ะ จากคุณ : สส (-สู่รู้สู่เห็น-) - [ 8 มี.ค. 50 23:20:29 A:124.120.163.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ วิหคเหิรฟ้า รายการข่าวทำเงินครับ แต่ไม่ใช่รายการสาระทุกประเภทที่ทำเงิน จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:20:33 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอางี้ครับ. คราวหน้าคราวหลัง ทำสัญญา ต้องมีตัวอย่างวิธีคิดเลขประกอบแนบท้ายด้วยครับ. เพราะคนติดคณะที่คะแนนต่ำมักตีโจทย์เลขไม่ออก  ฮา.. จากคุณ : ขำๆ เอนท์ติด คะแนนดี (anuchs) - [ 8 มี.ค. 50 23:22:14 A:124.121.171.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ blackboar เวลาทำสัญญาค่าปรับ คุณต้องคิดว่าถ้าเขาเบี้ยวเต็มๆ เขาจะได้กำไรเท่าไร ค่าปรับก็ต้องคูณห้าหรือคูณสิบเข้าไป ค่าปรับที่ดีต้องไม่ต่ำ จนมีไว้ให้ใครยอมเสียค่าปรับนะครับ แบบค่าปรับจราจรแต่ก่อน ที่ไม่ลงประวัติ มีใครสนใจบ้าง จอดรถข้างถนนปรับแค่สี่ร้อย รถติดภาพรวมเสียหายเป็นล้าน จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:25:33 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลักลอยมากๆเลยครับ - -* ตรรกะคิดเองเออเองแบบนี้ รายละเอียดของจริงที่จะเป็นข้อมูลเริ่มประเด็นก็ไม่มี กะเก็งเอาเองซะงั้น ข้อมูลรายจ่ายก็ไม่ได้เอามาหัก ใครเขาจะไปเถียงด้วยครับ เพราะมันจั่วมาแล้วว่าคุณมีข้อมูลน้อยมาก กะเอาเองคิดเอาเอง ตัวแปรก็น้อยจะเอามาคิดได้ไงฐานมันมันหยาบไป แถมแค่กระทู้เก่าคุณยังไม่พยายามทำความเข้าใจเลย ตั้งใหม่อีกแล้ว หลายคนไม่รู้ไม่มีข้อมูลแต่ชอบมาแถมันก็ไม่ต่างกับตาบอดคลำช้าง คลำไปคลำมาไม่รู้จริงสักคน เหมือนกรณีสนามบิน อย่าเอาแบบบางคนบางคนจบสื่อสารมานั่งแถเถียงเรื่องโครงสร้างกับวิศวะฉอดๆๆ   หุ้นไม่เคยเล่นมานั่งเถียงกับคนในตลาดหุ้น ไม่เข้าใจทำไมต้องพยายามแสดงว่ารู้ไปทุกเรื่อง เรื่องไหนไม่รู้ก็นิ่งๆได้ ฟังคนรู้เขาพูดดีกว่า ถือว่าหาปุ๋ยใส่สมอง พูดที่เรารู้ดีกว่า คนเราไม่มีใครรู้ได้ทุกเรื่องหรอกเป็น ดร. ก็ไม่ได้แปลว่ารู้เรื่องการปลูกข้าวดีกว่าชาวนา อยากให้มีข้อมูลสักนิด หรือเป็นเรื่องที่ตัวเองชำนาญ หากจะหาข้อมูลเชิงลึกๆกันแบบนี้ ถ้ากระทู้แสดงความเห็นปกติก็ว่าไปอย่าง ออกมาจากโลกส่วนตัวก่อนครับ ยืนอยู่บนหลักการแห่งความจริงให้ได้ก่อนจะคิดหาคนมาคุยเป็นเรื่องเป็นราวด้วย ไม่ต้องมานั่งจับทีละข้อหรอก เอาแค่ข้อมูลรวมดูผ่านๆก็ส่ายหัวแล้ว คุณไม่คิดถึงรายจ่ายเขาหรือ คิดว่าเขาเสกไฟเสกฟิลม์เสกดาราขึ้นมาได้เองหรือ ใช้หุ่นยนต์ทำงานไม่มีค่าจ้างพนักงานหรือ จากคุณ : ~STEP-PANDA~ - [ 8 มี.ค. 50 23:30:20 A:210.86.220.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 18   คุณ แวววัฒน์ ๑๖๐ล้านนี่ทั้งระบบครับ ผมบอกว่าถ้ามีทีวีที่โกงสัญญา ทำบันเทิง ๑๐๐ เปอร์เซนต์ (ยังไม่เคยมีใครทำ) โอกาสที่จะกินส่วนแบ่งตลาด ๕๐ เปอร์เซนต์ เป็นไปได้ หรือคุณเถียง จากคุณ : Pom.com ไม่เถียงหรอก แต่มีช่องไหน ทำ หรือกินได้อย่างที่คุณคิด จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 8 มี.ค. 50 23:30:22 A:124.121.66.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๑. เม็ดเงินโฆษณาราววันละ ๑๖๐ ล้าน ประมาณจากปี ๔๘ เม็ดเงินเดือนละ ๔ พันกว่าล้าน ------------------------------- คุณ pom.com  แน่ใจในตัวเลขที่ได้มาขนาดไหน.. วันละ 160 ล้านบาท.. ก็เท่ากับปีละประมาณ 60,000 ล้านบาท.. ถ้าคุณบอกว่า เป็นยอดค่าโฆษณา"สื่อโทรทัศน์"ในปี 2548.. ก็คงหมายถึงโทรทํศน์ 5 ช่อง คือ  3, 5, 7, 9  และ ITV ใช่ไหม?? มาดูรายได้รวมในปี 48 ของแต่ละช่องกัน.. 1) ช่อง 3  =  6,400  ล้านบาท 2) ช่อง 9 อสมท.  =  3,500  ล้านบาท 3) ITV  =  2,300  ล้านบาท รายได้ 3 สถานีข้างบน เป็นข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์.. รายได้รวม 3 ช่อง  =  12,200  ล้านบาท.. เหลืออีก 2 สถานี คือช่อง 5 กับช่อง 7.. ผมยังหาข้อมูลไม่ได้.. แต่ถ้าตามตัวเลข 6 หมื่นล้านบาทของคุณ.. แสดงว่า 2 ช่องนี้ ต้องมีรายได้รวมกัน "เกือบ 5 หมื่นล้านบาท".. มันจะเป็นไปได้ยังไง??.. ขนาด ช่อง 3 + ช่อง 9 ยังแค่ 1 หมื่นล้านเองนะครับ.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 8 มี.ค. 50 23:31:54 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ แวววัฒน์ ก็ถ้าไอทีวีตั้งใจโกง ทำบันเทิง ๑๐๐ เปอร์เซนต์นั่นละครับ ช่องที่ผมว่า คนร่างสัญญาก็ต้องสมมุติในสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งหมด จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:32:14 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่โหวต เพราะมีการมั่วข้อมูลมาตั้งแต่กระทู้โน้นแล้ว เห็นด้วยกับ คุณ ~STEP-PANDA~ อย่างแรง จากคุณ : เหล้ายา ปลาปิ้ง และหญิงสาว - [ 8 มี.ค. 50 23:33:49 A:124.121.5.175 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าต้องเลือกระหว่าง 100 ล้านต่อวัน กับ  .27 ล้านต่อวัน ผมเลือก 100 ล้านต่อวันครับ คุณคนที่ไม่เห็นด้วยคุณลองคิดอีกมุมนะครับ คุณเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ต้องกำหนดสัญญาควบคุมงานกับเอกชน สัญญากำหนดว่าต้อง บันเทิงได้  XX% ถ้าทำเกินจะต้องจ่ายค่าปรับ คุณพอจะรู้ว่ารายได้ต่อวันเป็นเงิน 2 ล้านบาท(ตัวเลขสมมุติ) คุณจะคิดค่าปรับเท่าไหร่ดีครับ เพื่อไม่ให้เอกชนผิดสัญญา 1. คิดค่าปรับแค่ 270,000 บาทต่อวัน 2. คิดค่าปรับ 100 ล้านต่อวัน คำถามต่อมา   ถ้าคุณเป็นเอกชน รายได้คุณไม่ดี คุณอยากจะผิดสัญญา เพื่อเพิ่มรายได้ ถ้าคิดค่าปรับ 270,000 ต่อวัน  แต่คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นวันล่ะ 1,000,000 บาท คุณจะผิดสัญญาหรือไม่ **เพิ่มเติม ที่มองว่าแพงมาก ๆ ต้องเข้าใจครับ ว่านี่เป็น ค่าปรับ ไม่ใช่ รายได้หลักของผู้ให้สัมปทานนะคครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 23:36:15 จากคุณ : MAX - [ 8 มี.ค. 50 23:34:57 A:58.8.64.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 หลักมั่วอีกแล้ว ตอบคำถามตามรูปได้ก่อน แล้วค่อยคำนวณ ค่าปรับ จากคุณ : mcu51 - [ 8 มี.ค. 50 23:34:58 A:124.120.3.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 24   หลักลอยมากๆเลยครับ - -* ตรรกะคิดเองเออเองแบบนี้ รายละเอียดของจริงที่จะเป็นข้อมูลเริ่มประเด็นก็ไม่มี กะเก็งเอาเองซะงั้น ^ ^ ตามนี้เลยแหละท่าน จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 8 มี.ค. 50 23:35:02 A:124.121.66.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 "เวลาทำสัญญาค่าปรับ คุณต้องคิดว่าถ้าเขาเบี้ยวเต็มๆ เขาจะได้กำไรเท่าไร" ------------------------------------------------ นอกจากเสียค่าปรับแล้ว กำไรก็ต้องแบ่งให้รัฐนะครับไม่ใช่ว่าได้กำไรเต็มๆ ซะเมื่อไหร่ 1000 ล้านบาทต่อปีเป็นการประกันรายได้ขั้นต่ำให้รัฐครับ ตามสัญญาเดิมระบุว่าต้องแบ่งรายได้ 44% ให้รัฐนะครับแต่ไม่ต่ำกว่า 1000 ล้าน กำไรมากก็ได้แบ่งมาก ค่าปรับอีกต่างหากเพราะฉะนั้นผมมองว่าค่าปรับไม่ใช่ประเด็นที่เจ้าของสัมปทานจะมาเอาเป็นเอาตายกับคู่สัญญาครับ จากคุณ : blackboar - [ 8 มี.ค. 50 23:37:26 A:124.121.106.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอ้า ถามอีกนิด... คุณ จขกท เคยทำธุรกิจไหม เคยลงนามเซ็นต์สัญญิงสัญญาอะไรบ้างรึเปล่า จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 8 มี.ค. 50 23:38:10 A:124.121.66.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณเพดานช่างฝัน ลองดูค่าโฆษณา ๕ เดิอนปี ๔๘ ตก ๒ หมื่นกว่าล้าน เดือนละกว่า ๔ พันล้าน ผ่านมา ๒ ปี ปัดเศษขึ้น เป็น ๕ พันล้านต่อเดือน ปัดเศษลงเป็น ๑๖๐ ล้านต่อวัน คงไม่ต้องเอาเป๊ะนะครับ กระทู้ก่อนมีคนว่าช่อง ๗ มีรายได้ปีละหมื่นกว่าล้าน http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userview/DetailPage.jsp?cntry=TL&lang=th&cat=SF&contId=2502 จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:38:23 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ MAX #29 ตามระเบียบสำนักนายกฯ สำหรับสัญญางานราชการ.. กำหนดค่าปรับไว้ระหว่าง วันละ 0.01 - 0.1% เองนะครับ ยกเว้นงานที่กีดขวางทางจราจร ถึงยอมให้ได้ถึงวันละ 0.25%.. ไม่มีงานไหนในสารบบ ที่คิดค่าปรับกันวันละ 10% หรอกครับ.. อย่างนั้นเขาเรียกว่า"ปล้น" ไม่ใช่"ปรับ" . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 8 มี.ค. 50 23:41:23 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ pom.comครับ เรื่องค่าปรับ ITV มันขึ้นกับดุลยพินิจของศาลครับ ว่าจะตัดสินตามข้อสัญญา หรือจะอาศัย ดูความเสียหายที่เกิดขึ้นครับ เรื่องนี้มีกรณีศึกษา เกิดขึ้นที่อเมริกาครับ เมื่อคุณป้าคนหนึ่งเรียกร้องค่าเสียหายกับ บ.ฟิลิบ มอริส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบุหรี่ เป็นเงินมากมายมหาศาลเกินจริง ซึ่งศาลเค้าตัดสินให้บริษัทเค้าต้องจ่ายเงินให้กับป้าคนนี้ครับ แต่ทางบริษัทเค้าขอให้พิจารณาจำนวนเงินใหม่ครับ เพราะมันเกินกว่าเหตุจริงครับ ศาลเค้าก็พิจารณาให้ใหม่ครับ ส่วนที่คุณpom.com นำเสนอข้อมูลรายได้ของ สถานีต่างๆมาข้างต้นนั้น ผมขอข้อมูลค่าใช้จ่ายของการดำเนินการโทรทัศน์แนบมาด้วยครับ จากคุณ : valentinol - [ 8 มี.ค. 50 23:41:50 A:125.24.138.76 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอว่าแต่ว่า  ลุงแคนยืมอมยิ้ม จขกท มาป่าวนี่ลีลาเริ่มคุ้นๆ จากคุณ : แค่สงสัยนะไม่มีไร (snoom) - [ 8 มี.ค. 50 23:42:22 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณเพดาน ช่างฝัน สำหรับอัตราค่าปรับ ผมก็ไม่แน่ใจว่าสัปทานแบบ ITV อยู่ในเกณฑ์หรือไม่ แล้วเกณฑ์ดังกล่าวเป็นกฎหมายบังคับ หรือว่าเป็นเพียงเกณฑ์ปฎิบัติ ..................... แก้ ๆ คิดเลขผิด :P ....................... แล้วจะปล้น หรือ ปรับ ก็เป็นเรื่องของคู่สัญญาครับ ถ้าไม่พอใจก็ไม่ควรจะทำสัญญากัน เรื่องอัตราค่าปรับ ก็น่าจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งว่า ควรจะเอาเป็นข้อต่อสู้หรือไม่น่ะครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 23:50:10 จากคุณ : MAX - [ 8 มี.ค. 50 23:48:18 A:58.8.64.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ แวววัฒน์ ถามเรื่องส่วนตัวทำไมครับ ผมละเบื่อพวกไม่ใช้เหตุผลเถียง สัญญาธุรกิจระหว่างเอกชนต่อเอกชนไม่เคยเซ็นครับ ผมนิยมเป็นผู้ถือหุ้นร่วมก่อตั้งบริษัท นั่งประชุมปีละครั้ง มีตั้งแต่ ผับ ก่อสร้าง สารสนเทศ ฯลฯ  บริษัทที่ลงทุนเจ๊งก็มาก แปลงไปเป็นบริษัทมหาชนไปแล้วก็มี จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:50:00 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ pom #34 ตัวเลขตามลิ้งค์นั่น  คงไม่ได้หมายถึงเฉพาะโทรทัศน์ แค่ 5 ช่องนี้แล้วครับ..  เพราะรวมรายได้ทั้งปีของแต่ละช่องแล้ว อย่างมากก็แค่ครึ่งเดียว คือ 30,000 ล้าน.. ผมว่าตัวเลขนั่น น่าจะรวมถึง UBC เคเบิ้ลทีวี และสถานีเถื่อนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดด้วย. ที่หวังว่า ITV จะไปแย่งเม็ดเงินมาครึ่งนึงของทั้งหมด คือ 3 หมื่นล้าน(วันละ 80 ล้าน)  มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ.. ขนาดช่อง 3 + อสมท.รวมกัน ยังได้แค่ 1 หมื่นล้านเอง.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 8 มี.ค. 50 23:52:54 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ valentinol ผมว่าศาลไม่ควรคิดค่าปรับไอทีวีมากมาย เพราะไอทีวีไม่ตั้งใจทำผิด แต่เพื่อเป็นธรรม ควรคิดรายได้จริงจากการปรับสัดส่วน คืนรัฐ จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:53:08 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 ที่ถามไม่ต้องการคำตอบ เพียงแต่อยากสะกิดนิดว่า ถ้าไม่มีประสบการณ์จริง อาจเข้าใจเอง เออเอง คิดเอาเอง ขอแนะนิดหนึ่ง กลับไปอ่านความเห็นอื่นๆ ในนี้ อย่างเปิดใจ แล้วคุณจะได้มุมมอง แง่คิด ที่ช่วยให้แมททัวร์ขึ้น จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 8 มี.ค. 50 23:56:07 A:124.121.66.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ เพดาน ช่างฝัน ผมเห็นธุรกิจมากมาย ที่มีรายใหญ่กินถึงครึ่ง ทำไมทีวีจะเป็นไปไม่ได้ครับ ถ้าไม่มีข้อจำกัดผังรายการ ขนาดช่อง ๗ ตอนนี้ข้อจำกัดในการบริหารเป็นกึ่งราชการ ยังกินได้ถึงหนึ่งในสี่ จากคุณ : Pom.com - [ 8 มี.ค. 50 23:59:21 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 41   คุณ valentinol ผมว่าศาลไม่ควรคิดค่าปรับไอทีวีมากมาย เพราะไอทีวีไม่ตั้งใจทำผิด แต่เพื่อเป็นธรรม ควรคิดรายได้จริงจากการปรับสัดส่วน คืนรัฐ จากคุณ : Pom.com ผมก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน จากคุณ : snoom - [ 9 มี.ค. 50 00:00:14 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ แวววัฒน์ ผมเปิดใจอยู่แล้วครับ แต่คุณเปิดใจหรือยัง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:01:09 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ MAX  ข้อสัญญาเรื่องค่าปรับนั่นเขียนไว้กำกวมครับ.. แต่ถ้าคนทั่วไปอ่าน ก็ต้องเข้าใจว่า เป็น 10% ต่อปี แล้วมาคิดเฉลี่ยเป็นรายวันครับ.. เพราะเป็นอัตรามาตรฐานโดยทั่วไปของหน่วยงานราชการ.. ถ้าคู่สัญญา(เมื่อ 10 ปีที่แล้ว)รู้ว่า สปน.จะแกล้งตีความเป็นวันละ 10% หรือวันละ 100 ล้านบาท.. คงไม่มีใครกล้าเซ็นต์ด้วยหรอกครับ.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:01:54 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 เปิดอยู่แล้ว..อย่าซีเรียส จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 9 มี.ค. 50 00:02:23 A:124.121.66.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ snoom แต่อย่าสับสนกับกระทู้นี้นะครับ กระทู้นี้ผมหมายถึงสัญญาเขาตั้งใจเขียนอะไร ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะปรับวันละ ๒ แสนกว่า ๑๐๐ ล้าน ทางกฎหมายสมเหตุสมผลดีแล้ว แต่อธิบายยังไงคนส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อ คุณละว่าไง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:04:23 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ เพดาน ช่างฝัน ผังรายการ ถ้าไม่ตั้งใจโกง หรือซวยสุดๆแบบคราวนี้ ไม่มีใครเคยคิดว่าคำตัดสินอนุญาโตตุลาการจะโมฆะ ไ ปกติไม่มีทางผิดสัญญาหรอกครับ จะร้อยล้านหรือพันล้านก็เซ็นได้ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:08:16 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณเพดานช่างฝัน อย่ามั่วครับ ราชการไม่มีค่าปรับตายตัวครับ ดูเหตุผลในแต่ละเรื่อง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:11:53 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ  mcu51 อ่านลิงค์ที่ผมให้แล้ว ใครมั่วครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:15:03 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ pom.com คู่สัญญาที่เซ็นต์สัญญานี้กับทาง สปน. คือ คุณเกษม จาติกวณิช กับ คุณโอฬาร ไชยประวัติ นะครับ.. ระดับ 2 คนนี้.. คงไม่เซ็นต์สัญญาซี้ซั้วหวังฟลุ้คว่าไม่โดนปรับแน่.. คงไม่ใช่มั๊งครับ.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:15:07 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 48   คุณ snoom แต่อย่าสับสนกับกระทู้นี้นะครับ กระทู้นี้ผมหมายถึงสัญญาเขาตั้งใจเขียนอะไร ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะปรับวันละ ๒ แสนกว่า ๑๐๐ ล้าน ทางกฎหมายสมเหตุสมผลดีแล้ว แต่อธิบายยังไงคนส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อ คุณละว่าไง จากคุณ : Pom.com ผมไม่ว่างัยหรอกครับเพราะผมรอดูของจริงที่เค้าตัดสิน ที่เค้าปรับกันจริงๆดีกว่า ดีกว่ามานั่งเถียงกัน เหอๆๆ สัญญาก็ไม่เห็น บัญชีรายรับรายจ่ายจริงก็ไม่เห็น คำตัดสินก็ยังไม่ถึงที่สุด แต่ก็นะ ประเทศไทย กฏหมายทุกอย่างหย่อนยาน หยวนๆกันตลอดอยู่แล้ว ผมเห็นว่า 100 ล้านอย่างคุณว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก  มันมากไป เดี๋ยวคงมีทางออกที่ดีสำหรับสองฝ่าย จากคุณ : snoom - [ 9 มี.ค. 50 00:16:02 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ เพดาน ช่างฝัน ทั้งสองท่านเขาไม่ได้ตั้งใจเข้ามาโกงสัญญา เขาถึงไม่ต้องกังวลเรื่องค่าปรับที่คำนวณกันโกง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:17:11 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณเพดานช่างฝัน อย่ามั่วครับ ราชการไม่มีค่าปรับตายตัวครับ ดูเหตุผลในแต่ละเรื่อง จากคุณ : Pom.com -------------- คุณ pom ได้เคยอ่านระเบียบสำนักนายกฯ รึยังครับ.. ลองไปอ่านดูก่อนดีไหม?? . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:18:06 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ snoom มันจะถึงศาลเหรอครับ บริษัทเจ๊งไป ไม่ต้องมีใครตามไปใช้หนี้ตามสัญญาหรอกครับ เห็นว่าเหลืองบไม่กี่ร้อยล้าน จ่ายตาม กม.แรงงานคงใกล้หมดพอดี จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:19:41 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 อะไรคือการโกงสัญญาครับคุณ pom ?? คุณหมายถึง"คำวินิจฉัย ของอนุญาโตตุลาการ" ตาม พรบ.ว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ รึเปล่าครับ?? . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:21:07 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 เท่าที่ผ่านมา สามสี่กระทู้ ของคุณ Pom.com  ในหลายๆเรื่อง  บอกแล้วครับ ว่า อย่ามาถามความเห็นของคนอื่นเลยครับ คุณ Pom.com  เอาความเห็นตัวเองมาเขียนเลยดีกว่า  ฟันธงไปเลย ไม่ต้องมาถาม แล้วทำตัวตามสรุป ตามแย้ง  ตามแก้  กันหลายกระทู้  แถ เถียง จนคนเขาเลิกคุยด้วย  แล้วก็มาปิดกระทู้เอง สรุปเอง เออเอง   กระทู้ก่อน รายงานผลการศึกษา คุณ Pom.com ยังอุตส่าห์ตัดตอน ไม่พูดให้หมด แล้วบอกว่า ส่วนใหญ่ล้มเหลว  แค่นี้ ก็พอทราบแล้วครับว่า  กระบวนการคิด กระบวนการในการหาข้อเท็จจริง กระบวนการในการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ของคุณ Pom.com เป็นอย่างไร จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 9 มี.ค. 50 00:24:26 A:124.121.3.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 ความคิดเห็นที่ 56   คุณ snoom มันจะถึงศาลเหรอครับ บริษัทเจ๊งไป ไม่ต้องมีใครตามไปใช้หนี้ตามสัญญาหรอกครับ เห็นว่าเหลืองบไม่กี่ร้อยล้าน จ่ายตาม กม.แรงงานคงใกล้หมดพอดี จากคุณ : Pom.com ผมว่า itv คงอยู่อีกนานเลยละครับยิ่งเกิดเหตุการณ์ในช่วงนี้ด้วยแล้ว  คุณคิดหรือว่า รัฐบาลจะปล่อยให้ ธุรกิจอย่างสื่อ เจ๊งไปง่ายๆ ยิ่งกรณี itv ด้วยแล้ว หากปล่อยให้เจ๊งไปมันก็บ่งบอกถึงความฮ่วยแตกหลายๆอย่างเลยละครับ จากคุณ : snoom - [ 9 มี.ค. 50 00:25:38 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ปรบมือให้ชาวราชดำเนินครับ  ยังเยี่ยมยอดกันเหมือนเดิม  ทีแรกนึกว่าจขกท.จะได้ใจแล้วซะอีก จากคุณ : thornz - [ 9 มี.ค. 50 00:26:29 A:203.148.164.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณเพดาน ช่างฝัน เรื่องสัญญาราชการค่าปรับมีได้ร้อยแปดแบบละครับ อย่างกล้ายางไงครับ รัฐซื้อต้นละสิบหกบาท ถ้าเกษตรกรเอาไปปลูกตาย ซีพีต้องจ่ายให้รัฐต้นละร่วมร้อย ชดเชยความเสียหายให้เกษตรกร ไอทีวีก็เหมือนกัน นอกจากมุมของตัวเงิน การโกงสัญญาจะเอาละครน้ำเน่ามาแทนสาระ ค่าเสียหายต่อลูกคุณลูกผมคุณว่ามันเท่าไร เขาถึงต้องคิดค่าปรับแพง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:26:48 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณ snoom ไอทีวีเดิมมันจบไปแล้ว มีแต่พนักงานแห่มาสมัครใหม่กับทีไอทีวีครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:28:50 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 ^j^" ในที่สุดผมก็ถึงบางอ้อ.............. ไปนอนก่อนละพรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า ลาละ จขกท ลานะครับทุกคนพรุ่งนี้พบกันใหม่ จากคุณ : snoom - [ 9 มี.ค. 50 00:29:17 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ ลูกแม่โดม ผมฟังเหตุผลครับ ไม่ฟังเสียงข้างมาก จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:29:58 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 62   คุณ snoom ไอทีวีเดิมมันจบไปแล้ว มีแต่พนักงานแห่มาสมัครใหม่กับทีไอทีวีครับ จากคุณ : Pom.com จบแล้วจริงเหรอครับเมื่อคืนผมเหมือนแว่วๆว่าศาลท่านว่ายังงัยนะเดี๋ยวไปค้นดูก่อนนะครับ จากคุณ : snoom - [ 9 มี.ค. 50 00:31:09 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เพดาน ช่างฝัน การโกงสัญญา ไม่รวมอนุญาโตครับ เขาถึงกล้าที่จะเซ็นสัญญา เพราะไม่คิดโกง แต่ที่มีปัญหาตอนนี้ เขาก็คาดไม่ถึง ว่าการทำตามอนุญาโต จะโดนปรับว่าผิดสัญญา จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:32:37 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 เหมือนจะฟังเหตุผล แต่เท่าที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นฟังเหตุผลแม้แต่กระทู้เดียว ตัดตอนรายงาน นั่นเห็นอยู่ชัดๆ  คิดว่าคงฟังเหตุผลตัวเองมากกว่ากระมัง ที่บอกว่า รายงานเป็นของรัฐ ต้องเอาแค่บางส่วนมาใช้ ถึงจะเชื่อได้ ส่วนอื่นต้องตัดออก   อ้อ  คุณ Pom.com ใช้เหตุผลแบบนี้นี่เอง  ทุกเรื่องมันถึงออกมาแนวนี้ จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 9 มี.ค. 50 00:32:43 A:124.121.3.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ snoom ศาลท่านไม่จบ แต่ผู้ถือหุ้นถอดใจแล้ว ยกธงขาว จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:34:00 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 จะมีประโยชน์อะไรครับ ถ้า สปน.จะปรับวันละ 10% ผมมองว่าจุดประสงค์ดั้งเดิมตั้งใจปรับแค่ปีละ 10% ครับ ในกรณีไม่ผิดสัญญา itv ต้องจ่ายค่าสัมปทาน 44% ของกำไรแต่ประกันส่วนแบ่งขั้นต่ำ 1000 ล้าน ในกรณีผิดสัญญา itv ยังต้องจ่ายค่าสัมปทานปกติแต่ต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มอีก 10% itv กำไรมาก สปน.ได้ส่วนแบ่งมาก win win ทั้งสองฝ่ายแล้วจุดประสงค์เดิมของสปน.จะปรับ itv ให้ตายทำไมครับ ปรับแบบเป็นรายวันภายใน 12 วันกำไรที่หามาได้ทั้งหมดก็ต้องยกให้สปน.หมดแล้วครับ ถ้าเกินมากกว่านี้ สปน.และ itv ก็จบทั้งคู่แหละครับ จากคุณ : blackboar - [ 9 มี.ค. 50 00:34:52 A:124.121.106.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ pom แยกแยะให้ออกนะครับ.. อันนั้นคือการรับประกันความเสีย ที่อาจเกิดขึ้น.. เหมือนงานทั่วไป ที่ต้องรับประกัน 1-2 ปี ถ้าเกิดการพังชำรุดเสียหาย ต้องซ่อมแซมให้เรียบร้อย รวมถึงชดเชยค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานหรือบุคคลทั่วไปด้วย.. ส่วนค่าปรับ"กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา" หรือ"ไม่ทันกำหนดตามสัญญา".. มีระบุในระเบียบสำนักนายกฯครับ.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:35:38 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ ลูกแม่โดม ใครเขาจะยกรายงานมาทั้งร้อยหน้าครับ ผมทำลิงก์ให้ก็แฟร์แล้ว ใครสงสัยไปอ่านได้ครับ รัฐบาลนายกทักษิณได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เนการบริหารประเทศเพียงใด http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5189769/P5189769.html จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:37:03 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 เพดาน ช่างฝัน ลองหาลิงค์ให้ผมซิครับ ใครถามอะไรที่ผมอ้าง ผมหาลิงค์ให้ได้ทุกที จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:39:20 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 แต่ที่มีปัญหาตอนนี้ เขาก็คาดไม่ถึง ว่าการทำตามอนุญาโต จะโดนปรับว่าผิดสัญญา --------------------------------- นั่นสิครับ คุณ pom ไม่มีใครคาดถึงหรอกครับ.. ว่าการที่"ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของอนุญาโตฯ" ซึ่งเป็นตามหลักสากลทั่วโลก.. จะมีใครมาหาเรื่องว่าผิด และคิดค่าปรับมหาโหด.. คงมีแต่ สปน. กับรัฐบาลเถื่อนชุดนี้แหละครับ.. ที่สามารถคิดเรื่องนี้มาได้.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:41:22 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ blackboar คุณลองคิดเลขง่ายๆ ค่าปรับเท่ากับครึ่งนาทีของละครน้ำเน่า โกงละครเรื่องเดียว กำไรวันละหลายล้าน แบ่งให้รัฐส่วนหนึ่ง บริษัทก็ได้หลายล้านไปสบายๆ ใครจะออกกฎให้สนับสนุนคนโกง ได้ประโยชน์ผมไม่เชื่อ และความเสียหายที่มากกว่าคนโกงได้กำไร คือการที่ลูกคุณลูกผมต้องมานั่งดูละครน้ำเน่า แทนรายการสาระ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:45:00 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 นี่ครับคุณ pom อ่านจากหน้า 75 ไปถึงประมาณหน้า 90 กว่าๆนะครับ.. http://www.opm.go.th/opmdoccenter/home/asp/srhid.asp?srhid=03001014 . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:45:11 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 คุณเพดาน ช่างฝัน เรื่องศาล ค่าปรับ มาตั้งแต่ยุคนายกทักษิณแล้วนะครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:46:29 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 นั่นสิ ไม่ยกรายงานมา 100 หน้า  แต่ดันมาสรุปเอาเอง ว่าล้มเหลว ทั้งๆที่ในรายงานเค้าสรุปให้เพิ่มววงเงินด้วยซ้ำ   ทีหลังถ้าสรุปอย่างนี้  ก็อย่าอ้างรายงานเลยครับ เขาเสียหาย  เนื้อหารายงานที่ได้ศึกษา เขาทำไว้อย่างดี บอกทั้งข้อดี ข้อเสีย และสิ่งควรปรับปรุง  คุณเล่นสรุปข้อเสียแล้วบอกล้มเหลว  แถมให้กลับไปเริ่มที่เกษตรกรรม  คิดทฤษฎีเองเป็นขั้นๆ   ก็อย่าไปอ้างรายงานเลย  ผมบอกแล้ว  ไม่ต้องถามความเห็นคนอื่น เอาความเห็นของตัวเองล้วนๆ ดื้อๆ ใส่ลงมาแต่แรกในกระทู้เลยครับ   บอกไปเลยว่า  ผมคิดของผมอย่างนี้ ใครไม่เห็นด้วยก็ช่าง   จะได้ไม่ต้องตามแก้ ตามไข กันหลายกระทู้ ปิดไป เปิดใหม่ ปิดแล้ว เปิดอีก   จะอ้างอะไร ก็อย่าตัดตอนเอกสาร  เนื้อหาสำคัญออกไป เอาแต่สิ่งที่คิดตรงกับความคิดตัวเองมา แล้วอ้างว่า ตรงกับรายงาน  ผมเชื่อว่า คุณ Pom.com ก็คงร่ำเรียนมาสูงมากเช่นกัน  แต่ขออย่าบิดเบือนคำพูด หรือข้อเท็จจริง โดยการยกแค่บางส่วน    บอกไปเลยครับ ว่า ผมคิดเอง วิเคราะห์เอง  นั่นล่ะครับ คือ ตัวตนของคุณ คนอื่นๆในราชดำเนินก็รับได้ครับ จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 9 มี.ค. 50 00:47:53 A:124.121.2.145 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 สถานี = เจ้าของตลาด (เก็บค่าเช่าแผง) เม็ดโฆษณาทั้งระบบ =รายได้ผู้เช่าแผงค้า+ค่าเช่าที่ต้องจ่ายให้เจ้าของตลาด ------ สถานี = เจ้าของตลาด (เก็บค่าเช่าแผง)และขายเองเป็นบางส่วน เม็ดโฆษณาทั้งระบบ = รายได้รวมทั้งตลาด = รายได้ผู้เช่าแผงค้า+ค่าเช่าที่ต้องจ่ายให้เจ้าของตลาด ------------- ค่าโฆษณาในแต่ละช่วงเวลา = ทำเลแผงค้าขาย จากคุณ : mcu51 - [ 9 มี.ค. 50 00:49:28 A:124.120.3.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 79 ทุกคนรู้ว่ากรณี itv นี้ไม่มีใครจงใจผิดสัญญาหรอก ส่วน อนุญาโต หึหึหึ ผมเลิกให้ความสำคัญกับคำๆนี้นานแล้วเพราะไม่ได้มีความอะไรกับคู่สัญญาสัมปทาน หากมีความหมาย เรื่องคงไม่ออกมาแบบนี้หรอก   ในเมื่อทั้งศาลทั้งคู่กรณี ก็เห็นอยู่แล้วว่าเรื่องมันเป็นยังงัยผมยังเชื่อในความเป็นคนไทยด้วยกัน ว่าค่าปรับมันคงไม่ออกมาโหดแสนโหด ที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่ต้องทำให้มันดูโหดและอลเวงมันเป็นแค่เกมส์ที่หวังผลบางอย่างของคนบางฝ่ายเท่านั้น ผมว่าคุณ pom เองก็คงเห็นและเข้าใจเหมือนกัน จากคุณ : snoom - [ 9 มี.ค. 50 00:49:51 A:61.7.174.41 X:61.7.174.41, 61.7.174.41 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุณ pom. ศาลปกครองสูงสุด เพิ่งจะตัดสินชี้ขาด เมื่อ ธค.49 ที่ผ่านมา ก็คือหลังการปฏิวัติครับ.. จากนั้น สปน. จึงเสนอเรื่องการคิดค่าปรับย้อนหลัง ตั้งแต่ เมย.47 โดยคิดวันละ 100 ล้านบาท ต่อที่ประชุม ครม... ให้ ครม.ชุดนี้เห็นชอบ.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:52:26 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณ Pom.com อย่าสับสนตัวเลขสิครับ อัตราค่าปรับ+ค่าสัมปทานไม่ได้ระบุตายตัวนะครับ บอกแล้วว่ามันผันแปรตามรายได้ ยิ่งรายได้มาก ส่วนแบ่งก็ต้องมาก ค่าปรับก็มากตาม สมมุติว่า itv ปีนั้นกำไร 10000 ล้าน ส่วนแบ่งให้สปน. 4400 ล้าน ค่าปรับจะเป็น 440 ล้านต่อปีนะครับ มันคงไม่ใช่วันละเกือบ3แสนแล้ว มันปรับเป็นวันละล้านกว่าแล้วครับ แก้ไขตัวเลขครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 00:59:25 จากคุณ : blackboar - [ 9 มี.ค. 50 00:52:32 A:124.121.106.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 ผมคิดอย่างที่ #2 ว่าครับ ว่าควรตามกฎหมาย สำหรับ "ในสัญญามันเขียนว่า 10%ต่อปี โดยคิดเป็นรายวัน" คงต้องถามตัวเราเองๆ กันทุกคนว่า เราคิดว่ามันเป็นต่อปี หรือต่อวัน และใน #11 "แต่ถ้าใครให้เซ็นต่อปี เท่ากับปรับวันละเท่ากับค่าโฆษณาละครน้ำเน่าครึ่งนาที อย่างนั้นคนที่ยอมนะซิครับบ้า" คนยอมรับอาจไม่บ้าก็ได้ครับ เพราะตอนนั้น "ใครเซ็นต์กับใคร" อ่ะครับ ปรับก็คงปรับเล็กน้อย อาจมองอย่างที่ว่า พอดีตอนนั้นคิดว่าผู้ถือหุ้นตอนนั้น ไม่มีปัญหา   แต่ตอนหลังดันถอนตัวไป จากคุณ : แมวหลงทาง - [ 9 มี.ค. 50 00:57:01 A:58.8.44.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตี 1 แล้วครับ.. ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับเพื่อนๆทุกท่าน.. พรุ่งนี้มีประชุมกับลูกค้าตอนเช้า.. ไว้ตอนบ่ายๆ ค่อยมาเสวนากับเพื่อนๆใหม่นะครับ.. ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 9 มี.ค. 50 00:57:33 A:124.120.84.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 คุณ snoom เรื่องค่าปรับนี่ตีความตั้งแต่ยุคนายกทักษิณเรืองอำนาจนะครับ คนตีความเขาก็กลัวผิดละครับ คือมันออกมาเวอร์ทั้ง ๒ ทาง เป็นปีก็ถูกเกินไป ปรับเหมือนไม่ปรับ วันละ ๒แสน เป็นวันก็แพงเกินไป (ในสายตาชาวราชดำเนิน) แต่ถ้าเขาต้องตัดสินว่าข้อไหนเป็นเจตนารมณ์ของสัญญา ผมว่าค่าปรับแพง ยังมีเหตุผลกว่า งานนี้ไม่ใช่การเมือง สิ่งที่ผู้บริหารเดิมควรทำคือฟ้องศาล ยังไงศาลก็ต้องให้ความเป็นธรรม ปรับใกล้เคียงกับกำไรจริงที่เพิ่มขึ้น แต่ที่ผู้บริหารถอดใจ ไม่ใช่ตรงนี้ แต่ถ้ากลับไปที่สัดส่วนเดิม ยังไงก็เจ๊ง ใครจะโง่จ่ายค่าสัมปทานย้อนหลัง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 00:59:28 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ blackboar ปรับตัวเลขยังไง ให้คนโกงกำไร ผมไม่คิดว่าจะมีใครคิดค่าปรับให้จูงใจโกงแบบนั้น จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 01:02:39 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณเพดาน ช่างฝัน ไปนอนแล้วหรือครับ ลิงค์ที่ให้มาเปิดได้หน้าเดียว แต่ผมว่าสัญญาราชการเรื่องนี้ไม่มีกรอบกำหนดหรอกครับ แต่ตอนใส่มั่วเลขเป็นไปได้ แต่คนร่างก็ต้องมั่วให้สูงไว้มากกว่ามั่วให้ต่ำ เพราะจริงๆเรื่องนี้มันไม่ควรผิดได้เลย จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 01:09:48 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 ค่าปรับส่วนนี้คือค่าปรับในกรณีที่ไม่ดำเนินงานตามผังรายการตามที่ระบุไว้นะครับ ถ้า itv ไม่ทำตามผัง สปน.ไม่ได้เสียหายนะครับแต่เป็นเพียงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ผมก็ยังยืนยันว่า itv ปรับผังมีกำไรมากขึ้นยังไงก็ต้องแบ่งให้ สปน.มากขึ้น เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ดั้งเดิมคงไม่ได้จะปรับให้ตายครับ จากคุณ : blackboar - [ 9 มี.ค. 50 01:15:41 A:124.121.106.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 คุณแมงหลงทาง ถ้ามันเขียนแบบคุณว่าคงง่าย "ในสัญญามันเขียนว่า 10%ต่อปี โดยคิดเป็นรายวัน" แต่ความจริงมันเขียนว่า ต้องปรับชำระในอัตราร้อยละสิบของค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ  โดยคิดเป็นรายวัน จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 01:18:57 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 ถ้า itv ไม่จ่ายค่าสัมปทานนั่นแหละครับ สปน.เสียหาย ตรงนั้นผมว่าเค้าน่าจะให้ความสำคัญมากกว่านะครับแต่กลับปรับแค่ 15% ต่อปีโดยคิดเป็นรายวันครับ ผมไปนอนแล้วครับ.. ไว้เช้าๆจะมาเช็คนะครับ จากคุณ : blackboar - [ 9 มี.ค. 50 01:19:44 A:124.121.106.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 ภาพเป็น tiff ต้องใช้โปรแกรมบ้างตัวที่เปิดดูได้หลาย ๆ หน้าครับ จากคุณ : MAX - [ 9 มี.ค. 50 01:24:23 A:58.8.64.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 แต่ในเรื่องนี้เป็นเรื่องการการจัดจ้าง ที่เอกชนไม่ได้มีผลประโยชน์อีกทอดหนึ่งแบบ itv คงไม่ใช่ข้อกำหนดแบบนี้มาบังคับ หากดูย่อหน้าสุดท้ายตามในรูป เจตนาของการปรับก็คือ ป้องกันไม่ใช่อีกฝ่ายหลีกเลี่ยงไม่ทำตามสัญญาครับ ต่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งให้รัฐเพิ่มขึ้น แต่ถ้าผิดสัญญาไปแล้วได้ประโยชน์หักค่าปรับแล้ว ได้มากกว่าเดิม มันก็ไม่เห็นต้องกลัวค่าปรับน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 01:27:32 จากคุณ : MAX - [ 9 มี.ค. 50 01:25:17 A:58.8.64.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 คุณ blackboar ถ้าถามว่าใจคนร่างคิดอย่างไร ผมไม่คิดว่ามันง่ายแบบที่คุณว่าหรอก ใจดีขนาดนั้น มองแบบผม ถ้าไม่ให้เปลืองตัว ต้องเขียนให้โหด กระแสทีวีคุณภาพแรงมากตอนนั้น แต่ถ้ามองอีกที ผมว่าคงตั้งใจเขียนให้ตีความได้ทั้งสองอย่าง เพราะอะไรคิดเอง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 01:33:34 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 93 ของคุณครับ คุณ MAX จะเห็นว่าที่คุณ เพดานช่างฝัน ยกมาเป็นเรื่องก่อสร้าง เรื่องที่ปรึกษา ซึ่งปรับตามสัดส่วนเงินที่รัฐจ้าง ไม่ใช่เรื่องสัมปทานครับ จะเทียบเคียงไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 02:07:05 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 01:42:01 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 รัฐไม่มีธรรมาภิบาล ตีความกฎหมายแบบอันธพาลหวังตบทรัพย์อย่างกับ กุ๊ยถูกเจ้าพ่อสั่งมา ใช้กฎหมายกันแบบนี้ ระวังบ้างเมืองจะลุกเป็นไฟ จากคุณ : jubjod - [ 9 มี.ค. 50 01:47:58 A:58.64.89.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 95 ลูกแม่โดม คุณไม่อายหรือครับที่มาคอยป่วนกระทู้ จะเถียงอะไร ใช้เหตุผลเหมือนคนอื่นก็หาไม่ ถ้ารำคาญผมนักก็ไม่ต้องเข้ามาในกระทู้ผมก็ได้ เรื่องกระทู้เดิม ผมยกข้อความที่เป็นหลักฐานว่าเงินกองทุนหมู่บ้านถูกนำไปซื้อมือถือ มอเตอร์ไซด์ และเอาเงินไปรีไฟแนนซ์ ซึ่งไม่ใช่เป้าหมาย ประเด็นนี้คนที่เถียงกับผมก็ยอมรับ เพียงแต่เถียงกันต่อว่าสมควรหรือไม่ ส่วนการที่ผมจะสรุปจากข้อความดังกล่าวว่ากองทุนหมู่บ้านล้มเหลว ไม่ควรให้กู้ต่อถ้าไม่ปรับกรอบการให้ทุน ต่างจากรายงานที่เชียร์ให้ทำต่อ มันสิทธิ์ของผม  ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องเห็นตรงกับรายงาน จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 02:04:25 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุณ jubjod รัฐที่ตีความแบบนี้ มันรัฐบาลนายกทักษิณนะครับ ผิดคิวหรือเปล่า จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 02:06:26 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 97 คุณ mcu51 ลองอธิบายผมง่ายๆอีกทีครับ ว่ามีอะไรในตัวเลข เม็ดเงินโฆษณามันก็ต้องเป็นรายได้ของทีวีทั้งหมด ไม่ใช่หรือครับ ไมโครโปรเซสเซอร์ตระกูลนี้ยังใช้อยู่หรือครับ อายุนานจัง ผมใช้ 80C31 ตอนปี 1988 จะยี่สิบปีอยู่รอมร่อ เอามาทำ data logger เก็บข้อมูลลง Smartcard จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 02:15:04 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 ๑. เม็ดเงินโฆษณาราววันละ ๑๖๐ ล้าน ประมาณจากปี ๔๘ เม็ดเงินเดือนละ ๔ พันกว่าล้าน ------------------- ของการโฆษณาทางโทรทัศน์ทั้งระบบ ๒. ช่อง ๓ มีกรอบทำบันเทิงได้ราว ๕๐ เปอร์เซนต์ ไม่ใช่ ๑๐๐ เปอร์เซนต์อย่างที่ใครเข้าใจ ช่อง ๗ ไม่แน่ใจ แต่ก็ต้องทำสาระสนองราชการไม่น้อย และรายการบันเทิงใต้กรอบราชการมีกรอบที่รู้ๆอยู่ ไอทีวีนาทีสุดท้ายก็ราว ๕๐ เปอร์เซนต์ ----------- รู้สึกว่าจริงๆ จะทำสาระ 65เปอร์เซนต์ แต่ต่อให้ ทำ 50 เปอร์เซนต์อย่างที่ว่า ก็จะเห็นได้ว่า รายได้ของไอทีวี ไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้าน แต่เพิ่มแค่ไม่กี่ร้อยล้าน ไอทีวี ทำในสัดส่วนนี้มาเป็นปีๆแล้วนะครับ เป็นข้อเท็จจริง ที่ดูมาจาก ลิงค์ที่คุณ POM เอามาแปะเอง http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userview/DetailPage.jsp?cntry=TL&lang=th&cat=SF&contId=2502 ดูว่าไอทีวีปรับผังปีไหน ไม่จ่ายสัปทานแพงปีไหน แล้วดูสิครับว่า กำไรเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ต่อให้ทำบันเทิง 100 เปอร์เซนต์ก็ใช่ว่าจะ มีรายได้ เกือบ 30000 ล้านได้ ในขณะที่ช่อง 3 อันดับสองของอุตสาหกรรม มีรายได้ 6000 ล้าน ------------------ ไม่เคยมีทีวีช่องไหนบันเทิงได้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ถ้าทำบันเทิงได้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ด้วยมือโปรในแต่ละสาขา ละครน้ำเน่า กีฬาคอพนัน เกมส์โชว์ การแย่งเม็ดเงินวันละ ๘๐ ล้าน จาก ๑๖๐ ล้าน รายได้ปีละ ๒๙,๒๐๐ บาททำได้หรือไม่ แล้วแต่วิสัยทัศน์ --------------- ทำไม่ได้ครับ  ตราบใดที่ยังมีทีวีช่องอื่นอยู่ ถ้าคุณ POM คิดว่า สามารถบริหารสถานีโทรทัศน์ใดๆ ที่มีรายได้ จาก 2000 ล้าน ให้กลายเป็น 30000 ล้านได้ ลองไปเสนอตัวกับผู้บริหารดูสิครับ มองความเป้นจริงด้วยสิครับ ถ้าทำได้แบบนั้น คงรวยกันเละไปแล้ว ๓. ต้นทุนวันละ ๖๐ ล้าน ปีละ  ๒๑,๙๐๐  บาท ใครว่าไม่พอ ก็บ้าแล้วครับ รวมค่าสัมปทานปีละ ๑,๐๐๐  ล้านแล้ว ๔. กำไรวันละ ๘๐ ลบ ๖๐ เท่ากับ ๒๐ ล้าน -------------- ข้อสามข้อสี่ คุณ POM คิดเองเออเองแล้วล่ะครับ มันเป็นไปได้ ในจินตนาการของคุณ แต่เป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง เราอยู่ในโลกของความจริงนะครับ ๕. กำไรจากการผิดสัญญา ๒๐ ล้าน ปรับ ๑๐๐ ล้าน คิดเป็น ๕ เท่า เทียบกับค่าปรับเด็กขโมยหนังสือในร้านหนังสือที่ส่วนใหญ่คิด ๑๐ เท่า ----------------- ทำไมไม่เปรียบกับ สัญญาทั่วไปล่ะครับ เขาคิดกันอย่างไร ความเห้นผมไอ้กำไร 20 ล้านมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อ ปกติ มันรายได้ แค่ 5 ล้าน รายได้นะครับ ไม่ใช่กำไร ลองคิดคร่าวๆ สมมุติ รายได้ 2000 ล้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ เอาไม่รวมค่าสัปทานก็ได้ ราวๆ 1400 ล้าน เหลือกำไร 600 วันละ ไม่ถึง สองล้าน โดยยังไม่ได้ + ค่าสัปทาน เพราะ + แล้วหากเป็นปกติ 1000 ล้าน จะขาดทุนมาทุกปี เอาล่ะ ขณะนี้ ไอทีวี มีบันเทิง 40 หรือ 50 อย่างที่คุณPOM ว่า มีกำไรวันละ 2 ล้าน ถ้าเป็นบันเทิง 100 ต่อให้รายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ก็มีกำไรแค่ วันละ 4 ล้าน จริงอยู่ มันเทียบบรรยัตไตรยาค์ไม่ได้ คนบริหารเก่ง อาจได้ มาก บริหารไม่เก่งอาจได้น้อย แต่ที่คุณ POM ว่า ปรับผังแล้ว มันจะได้กำไร รายได้วันละ 80 ล้าน ปีละ 30000ล้าน กำไร วันละ 20 ล้าน ครึ่งนึงของตลาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลย ธุรกิจมันมีคู่แข่งนะครับ ผมบอกแล้วว่า จะเป้นไปได้ ต่อเมื่อ ปิดทีวีทั้งหมด เหลือไอทีวีช่องเดียว ในเมื่อ ต่อให้ไอทีวี ปรับผังแล้ว เติบโตเท่าตัว ก็ยังมีกำไรแค่ 4 ล้าน   ค่าปรับ 100 ล้านต่อวัน มากกว่า 25 เท่ามันเหมาะสมหรือเปล่า ค่าปรับ 96000 ล้าน ขณะที่บริษัทคุณ มีรายได้ 2000 ล้าน คุณต้องทำบริษัทโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเลย 50 ปี ถึงจะจ่ายได้นะครับ..! สมมุติคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณจะตั้งค่าปรับ เพื่อให้เขาเอาเงินมาจ่าย หรือตั้งค่าปรับ ที่เขาไม่มีทางจ่ายได้ล่ะครับ ลองคิดด้วยสามัญสำนึกทั่วๆไปดู ๖. กำไรจะสูงขึ้นทุกปีตามเม็ดเงินโฆษณาที่โตขึ้นทุกปี ปีนี้กำไรวันละ ๒๐ ล้าน อีกไม่กี่ปี ๑๐๐ ล้าน แต่ค่าปรับไม่ได้ปรับเพิ่มทุกปี หลายปีมานี่คงที่ ๑๐๐ ล้าน โอกาสอนาคตกำไรจะแซงค่าปรับ อันนี้ท่านอื่นตอบไปแล้ว ค่าปรับมันก็เป็นสัดส่วนกัน กับค่าสัปทาน  ค่าสัปทานเพิ่ม ไอ้10 เปอร์เซนต์ ก็เพิ่มไปด้วย ---------------- 36500 ล้านต่อปี ขณะที่ รายได้บริษัท 2000 ล้าน รายได้ทั้งอุตสาหกรรมรวมกัน อยู่ที่ 60000 ล้าน ----------------- คุณบอกว่า แพงไปในสายตาคนราชดำเนิน ผมว่าแพง ในสายตาคนที่มองอย่างเป็นธรรมมากกว่า ยังไงลอง ตั้งกระทู้แบบนี้ ให้ห้องสินธรดูก็ได้ครับ ผมอยากทราบความเห็นของนักธุรกิจเหมือนกันว่า เขาคิดอย่างไร อีกอย่างถ้าคุณPOM มีเวลา รบกวนลองเอาสัญญา โครงการอื่นๆ ที่มีการเขียนในลักษณะแบบเดียวกันนี้ มาลองเทียบเคียงให้ดูหน่อยครับว่า เขาเขียนแบบนี้ และคิดค่าปรับกันด้วยอัตรา รายวันนี้โดยทั่วไป ในโครงการอื่นๆ คือถ้าคุณทำผิดสัญญาเมื่อไหร่ คุณต้องจ่ายค่าปรับ มูลค่าหลายสิบเท่า ของรายได้ทั้งปีของบริษัทคุณ..? ถ้าเขียนแบบนี้ แล้วปรับ ด้วยการคิด รายวันแบบนี้ทั่วไป ผมก็ยอมรับครับ เพราะเขาทำกันเป็นปกติ แต่ผมคงเลิกล้มความคิดจะทำงานอะไร ให้รัฐแน่นอน  ไม่งั้นอาจเป็นหนี้ ไปถึงชาติหน้าก็ใช้ไม่หมด หากเกิดผิดพลาดขึ้นมา แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 02:22:42 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 02:20:48 จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 02:17:57 A:222.123.132.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 "คือถ้าคุณทำผิดสัญญาเมื่อไหร่ คุณต้องจ่ายค่าปรับ มูลค่าหลายสิบเท่า ของรายได้ทั้งปีของบริษัทคุณ..?" คือการที่จะผิดสัญญาได้ ไม่ใช่ทำพลาดแล้วผิดน่ะครับ การเปลี่ยนผังที เค้าก็ต้องวางแผนกันอย่างดีครับ ฉนั้นการผิดสัญญาโดยไม่ตั้งใจ เป็นไปไม่ได้ครับ อย่างถ้าเป็นสัญญาจ้างงานอื่น ๆ เช่นทำถนน ทำสะพาน อาจจะผิดสัญญาส่งมอบไม่ได้ ด้วยหลาย ๆ ปัจจัยเอาง่ายๆ  ครับ เช่นน้ำท่วม อุบัติเหตุ ฯลฯ แต่จะผิดเรื่องผังรายการผิดทำให้สัดส่วนรายการผิดนี่ โดยส่วนตัวแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตั้งใจครับ จากคุณ : MAX - [ 9 มี.ค. 50 02:25:55 A:58.8.64.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 100 ครับ อันนั้นกรณีต่างกัน แล้วมีกรณีคล้ายไอทีวี ที่เขียนในสัญญาลักษณะนี้ แล้วคิดค่าปรับแบบเดียวนี้กันนี้โดยทั่วไปไหมครับ ผมไม่ได้ป่วนนะครับ แต่ผมไม่มีความรู้ ท่านใดมีข้อมูล รบกวนยืนยันด้วยครับ หากเขาคิดกันแบบนี้เป็นปกติทั่วไปจริง ผมก็คงไม่มีข้อโต้แย้ง จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 02:28:46 A:222.123.132.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 101 คุณ Ramin&Indra เรื่องยึดตลาด ๕๐ เปอร์เซนต์ เป็นไปได้ไหม ถ้าคุณเป็นคนร่างสัญญา จะตัดโอกาสนี้ทำไมครับ เลขมันก็ไม่ได้มากมายอะไร ถ้าทีวีบันเทิงเต็มรูปแบบ ใครจะไปรู้ จะเอาไอทีวีก่อนปิดมาเทียบได้ยังไงครับ ต้องสมมุติว่ามันยึดตลาดได้ห้าสิบเปอร์เซนต์ แต่ยังไงกำไรก็ต้องต่ำกว่าค่าปรับอยู่ดี ซึ่งผมไม่เคยพูดว่ากำไรจะมากกว่าค่าปรับ เพียงแต่บอกว่าค่าปรับไม่ถึงสิบเท่าของกำไร น้อยกว่าปรับเด็กขโมยหนังสือ ส่วนเรื่องจะให้ผมบริหารงานพิสูจน์ ว่าถ้าทีวีบันเทิงจริง จะยึดตลาดได้ ๕๐ เปอร์เซนต์ คงตลก แต่มืออาชีพคงเอา แต่ต้องพ่วงสัญญาว่ารัฐห้ามปรับสัดส่วนทีวีช่องอื่น สัญญานี้มันว่าไปแล้วต้องโหด เพราะถ้าไม่มีอุบัติเหตุแบบคราวนี้ ไม่มีทางผิดสัญญา ถ้าไม่ตั้งใจ กลับกันถ้าไม่โหด ผิดสัญญา แล้วเอกชนกำไร คนร่างก็มีสิทธิ์ติดคุก สัญญาอื่นที่ไม่โหดเพราะมันพลาดได้โดยสุจริต แต่สัญญานี้ต้องโหดเพราะตอนร่างคิดแต่ว่าถ้าพลาดคือทุจริตร้อยเปอร์เซนต์ คนร่างและเอกชนคงไม่คิดว่าจะพลาดได้โดยสุจริต จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 02:37:03 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 อยากเห็นสัญญาทำนองนี้เหมือนกันครับ ว่าเขียนเหมือนหรือต่างกันแบบไหน แต่ไม่รู้ว่าในประวัติศาสตร์เคยมีใครผิดสัญญาทำนองนี้หรือไม่ แล้วผลเป็นแบบไหน จากคุณ : MAX - [ 9 มี.ค. 50 02:37:57 A:58.8.64.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 103 เรื่องนี้มันสองเด้งนะครับ เด้งแรก ผิดสัญญาโดยสุจริต ทั้งที่คนร่างไม่คิดว่าคนสุจริตจะผิดได้ เด้งสอง ถ้าปกติผิดวันเดียวรัฐก็ต้องโวยวายแล้ว แต่นี่ปล่อยให้ผิดเป็นปี ถึงบอกว่าผิด ทั้งที่เรื่องสำคัญ ค่าปรับโหด งานนี้สู้ตรงๆศาลก็เห็นใจแน่นอน แต่ไม่สู้ เพราะไม่คุ้มที่จะทำต่อเองครับ ตอนนี้หลายคนหลงประเด็น ต่อให้ค่าปรับร้อยล้านต่อปี สัดส่วนเดิม ก็ไม่มีใครเอา เพราะเจ๊งมาตลอด คุณหยุ่นยังไม่รอด จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 02:45:50 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 104 ไปนอนแล้วครับ คืนพรุ่งนี้มาต่อ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 02:47:08 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 105 ผมไม่เห็นด้วย ในประเด็นเหล่านี้ครับ 1.จะเอาไอทีวีก่อนปิดมาเทียบได้ยังไงครับ ต้องสมมุติว่ามันยึดตลาดได้ห้าสิบเปอร์เซนต์ เรื่องนี้ผมไม่เห้นด้วยครับ  เราทำอะไรต้องมองความเป็นจริง  ไม่ใช่ทำงานโดยสมมุติตัวเลขขึ้นมา ตอนร่างสัญญา ผมเชื่อว่าเขาก็ต้องคาดคะเน จากมูลค่าตลาด รายได้ของทีวีช่องอื่นๆ ก่อนหน้านั้นมาคำนวณเช่นกัน คงไม่มีใคร ทำงานคิดด้วยการสมมุติขึ้นมาเป็นแน่ 2.ส่วนเรื่องจะให้ผมบริหารงานพิสูจน์ ว่าถ้าทีวีบันเทิงจริง จะยึดตลาดได้ ๕๐ เปอร์เซนต์ คงตลก แต่มืออาชีพคงเอา แต่ต้องพ่วงสัญญาว่ารัฐห้ามปรับสัดส่วนทีวีช่องอื่น อันนี้ ผมไม่ได้ประชดอะไรนะครับ แค่เปรียบเปรยเท่านั้น เพื่อให้เห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าทำให้เข้าใจผิดก็ขออภัย ส่วนที่คุณบอกคงเอา ถ้าพ่วงสัญญา ทำให้ผมพอเข้าใจตรรกของคุณ ที่คิดข้อกำหนดขึ้นมาเอง แถมเป็นข้อกำหนดที่เป็นไปไม่ได้อีกด้วย เพราะถ้าทำ สปนก็จะโดน ทีวีเจ้าอื่นฟ้อง แข่งขันไม่เป็นธรรม คุณน่าจะเห็นแล้วว่า รายได้ขนาดที่คุณว่า มันจะเป็นไปได้ต่อเมื่อ เราตั้งข้อกำหมด ตั้งเกมขึ้นมาในจินตนาการเท่านั้น เหมือนที่ผมว่า รายได้ขนาดนั้น ถ้าเหลือทีวีช่องเดียวในประเทศ อาจจะเป็นไปได้ เป็นการตั้งข้อกำหนด ในจินตนาการซี่ง แทบไม่มีโอกาสเป็นจริงเช่นกัน ผมเห็นว่า การที่เราคิด จินตนาการตั้งกรอบ อย่างไรก็ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อสรุป ของเรา  มันไม่น่าจะเป็นเหตุเป็นผล และไม่น่าจะเหมาะสมครับ ----------------- เพิ่มเติมความเห็นอีกหน่อย พอดีคุณ POM โพสต่อ เรื่อง ตัวบริษัทไอทีวี ยังไม่จบนะครับ สปนเองก็ยังมีฟ้องเรียก ค่าสัมปทานที่ค้าง รวมทั้งค่าปรับแสนล้านนี้ต่อไป ไอ้ที่ สปน มีปัญหาเรื่องข้อกฏหมาย จนต้องเกือบจอดำ และมีผลกับพนักงาน ก็เพราะกลัวไปพลาดทีหลังในศาลเรื่องคดีบริษัทนี่แหละ และเรื่องนี้พอไปถึงศาล โอกาสศาลเห็นใจมีมาก บริษัทไอทีวีก็อาจมีโอกาสฟ้องกลับอีกด้วย ผมเห็นว่า ตัวบริษัทไอทีวีได้เดินเกมไว้แล้ว ล่วงหน้า ก่อนปล่อยสถานีไป โดยแสดงเจตจำนงจะจ่าย ค่าสัมปทาน แต่ขอให้เลื่อนระยะเวลาส่วนที่เป็นค่าปรับ แต่สปน ไม่ยอม เรียกให้จ่ายทั้งแสนล้าน ผมว่าอันนี้จะเป็นประเด็น เรื่องนี้คงต้องรอดูกันไปยาวๆ อีกหลายปีแหละครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 02:56:30 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 02:52:59 จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 02:47:31 A:222.123.132.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 ยังไง ๆ มันก็คำนวณผิดครับ เพราะสัญญาเขียนว่า ปรับ 10% ของค่าสัมปทานโดยคิดเป็นรายวัน ตามหลักภาษาไทย คำว่า รายวัน นั้นมันขยาย  ค่าปรับ และ ค่าสัมปทาน ด้วย ดังนั้น ค่าสัมปทาน จึงต้องหาร 365 วันก่อน แล้วจึงค่อยคูณด้วยจำนวนวัน   ไม่ใช่เอา ค่าสัมปทานต่อปี คูณจำนวนวัน เมื่อค่าปรับคิดเป็นวันค่าสัมปทานก็ต้องคิดเป็นรายวัน ถ้าพวกคุณคิดว่า การคิดแบบ สปน ถูกต้อง ก็ระวังสัญญาเงินกู้ให้ดี ถ้าเจ้าหนี้เขียนในสัญญาว่า กรณีผิดนัดชำระให้ปรับ 10% ของดอกเบี้ยต่อปี โดยคิดเป็นรายวัน สมมติว่าคุณกู้เงิน  100,000 บาท ดอกเบี้ย 7% ต่อปี ให้จ่ายดอกทุกปี ถ้าคุณผิดนัดชำระ  30 วัน คุณจะต้องจ่ายเท่าไร ? คิดตามแบบ สปน   ค่าปรับ    10% * 7% * 100,000 * 30 วัน = 21,000 บาท ดอกเบี้ย  7% * 100,000 + 7%/12 * 100,000 = 7583 บาท รวมกู้เงิน 100,000 บาท  ระยะเวลา 1 ปี ผิดนัด 30 วันต้องจ่าย  28,583 บาท ยังไม่รวมเงินต้นนะครับ 28,583 บาท คือค่าปรับ+ดอกเบี้ยเท่านั้น ที่นี้คุณหาเงิน 28,583 มาจ่ายไม่ไหว ก็ผิดนัดอีกเจ้าหนี้ก็ปรับคุณเรื่อยๆ วันละ 700 บาท สมมติว่าคุณไม่ไปจ่ายดอกเบี้ย 1 ปี  365 วัน เจ้าหนี้ก็จะรวมค่าปรับเป็น 365*700 =  255,500 บาท คุณคิดว่าการคำนวณแบบ สปน คิดมันถูกหรือเปล่าละ นี่แหละทำไม ITV ถึงได้ ถูกปรับ แสนล้าน ก็เพราะสปน ใช้วิธีคำนวณแบบนี้ ซึ่งวิธีนี้ผมเห็นมีแต่พวก นายทุนหน้าเลือดที่หลอกยึดที่ชาวบ้านจนๆ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 03:11:24 จากคุณ : webkit - [ 9 มี.ค. 50 03:02:45 A:10.177.113.56 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 107 จะเอาทีวีที่ไหนเทียบละครับ ในเมื่อส่วนใหญ่บันเทิงก็ไม่เกิน ๖๐ เปอร์เซนต์ คนร่างก็ต้องคาดคะเนละครับ ส่วนคาดมากคาดน้อยหาข้อสรุปไม่ได้หรอกครับ สมมุติผมให้สิทธิ์คุณคนเดียวเปิดผับได้ถึงตีสี่ ขณะที่คนอื่นได้แค่ตีสอง คุณว่ารายได้ผับนี้จะเท่าไร จะคิดเท่าไซด์เดิมแล้วบัญญัติไตรยางส์ได้หรือ ทำไมไม่คิดว่ามันจะฮิตจนต้องขยายใหม่ใหญ่เท่าสุวรรณภูมิ ใครก็ไหลมา เรื่องพ่วงสัญญานั่นผมเสนอครับ แต่สัญญาที่รัฐร่าง ไม่ต้องไปกลัวเอกชนเสียเปรียบหรอกครับ กระทู้นี้ผมถามว่าคนร่างตั้งใจยังไง ไม่ใช่สัญญาเป็นธรรมไหม คุณเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จินตนาการต้องไปในทางที่ปกป้องรัฐ แค่ยึดตลาด ๕๐ เปอร์เซนต์ไม่ใช่เรื่องเวอร์หรอกครับ ทีวีไม่ใช่ยูบีซีนะครับ จัดโปรแกรมหนังจบพร้อมกันได้พอดี ทั้ง UBC CINEMAX จบช่องนี้สลับไปอีกช่องได้ ทีวีนี่สลับไปมาไม่เต็มเรื่อง ดีจริงล็อกช่องเดียวไปเลย ก็บอกแล้วข้อนี้ทั้งคนร่างคนเซ็นไม่สนใจแต่แรก ใครจะคิดว่ามีการผิดสัญญาข้อนี้ได้จริงๆ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 03:05:58 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 108 คุณ Webkit แต่ความจริงในสัญญามันเขียนว่า ต้องปรับชำระในอัตราร้อยละสิบของค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ  โดยคิดเป็นรายวัน สมมุติคุณไปกู้เงิน เขาเขียนว่าถ้าไม่จ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด จะต้องปรับชำระในอัตราร้อยละสิบของค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ  โดยคิดเป็นรายวัน คุณว่ายังไงครับ ก็ต้องเถียงกันแบบทุกวันนี้ แล้วผมก็ต้องบอกว่าจะมีเจ้าหนี้ที่ไหนโง่ยอมให้เบี้ยวหนี้โดยคิดดอกเบี้ยเพิ่มแค่สิบเปอร์เซนต์ของดอกเดิม แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 03:14:36 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 03:10:52 A:203.107.205.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 109 อัตราร้อยละสิบของค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ  โดยคิดเป็นรายวัน คำว่ารายวัน มันขยาย อัตราร้อยละสิบของค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ   อัตราร้อยละสิบของค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ จึงควรจะ หารด้วย 365 เพื่อให้กลายเป็น รายวัน ก่อน ถ้าคุณไม่เอา ปี ไปหารด้วย จำนวนวัน/ปี  มันจำเป็นรายวันได้ยังไง สมมติ ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในปีนั้น  365 ล้าน 10% ก็เท่ากับ  36.5 ล้าน คิดเป็นรายวัน จึงเท่ากับวันละ 1 แสนบาท ผมว่าโจทย์ข้อนี้ ลองเอาครูคณิตศาสตร์ ซัก 100 คนมาลองทำดูนะครับ คิดว่าจะมีคนคำนวณตามแบบ สปน กี่คน จากคุณ : webkit - [ 9 มี.ค. 50 03:20:17 A:10.177.113.56 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คุณ Pom ตามสัญญานะครับ ลูกหนี้ยังไงก็ต้องจ่ายหนี้ครับ ถ้าคุณไม่จ่ายเขาก็ยึดทรัพย์คุณ แต่การที่ลูกหนี้จ่ายไม่ทัน เขาไม่ได้เบี้ยว แต่เพราะอาจจะไม่มีเงินจริงๆ การที่คุณกู้เงิน 100,000 บาท  แต่จ่ายดอกเบี้ยช้า แล้วปรับ ปีละ 250,000 บาท ในระยะเวลา 2 ปี คุณจะเป็นหนี้    รวมเงินต้น + ดอกเบี้ย + ค่าปรับ = 364,000 บาท สมมติว่าถ้าคุณไปกู้โดยเอาทองน้ำหนัก 15 บาท เป็นหลักทรัพย์ คุณจะยอมให้เขายึดทอง หรือ คุณจะจ่ายเงิน 364,000 บาท ถ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้ยุติธรรม ก็ตามใจคุณครับ แต่ผมว่าคนที่ทำแบบนี้ได้มันเลวสิ้นดีครับ จากคุณ : webkit - [ 9 มี.ค. 50 03:31:18 A:10.177.113.56 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ผมเคยคิดว่า จะมีแต่พวกนายทุนหน้าเลือด ขุดเลือดคนยากคนจน คุณคงเคยเห็นนะ  ITV ก็ยังเคยไปทำสกู้ป ที่เกี่ยวกับการกู้นอกระบบ จำนองที่นา แค่ 5,000 บาท  ทบต้น ทบดอก จากหนี้ 5,000 ก็กลายเป็น 50,000  และ โตแบบทวีคูณ จนลูกหนี้หมดปัญญาจ่าย ต้องยอมให้ยึดที่นา จากคุณ : webkit - [ 9 มี.ค. 50 03:36:54 A:10.177.113.56 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ตอบไม่ได้ครับ เพราะถ้าจะตอบจริงๆก็คือ ต้องปรับตามที่สัญญาเขียนเอาไว้ ผมได้ดูสัญญาคร่าวๆตามที่หลายๆท่านนำมาแสดงให้ดู แล้วมันก็ตีความได้ต่างๆนานา อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าค่าปรับวันละ 100 ล้านมันออกจะโหดเกินไป และไม่เป็นการถูกต้อง ซึ่งการจะบอกว่าค่าปรับจะต้องโหดเพื่อไม่ให้ฝ่าฝืนก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะผมคิกว่าถ้าปรับทีหนึ่งถึงขั้นต้องเลิกกิจการ สัญญาที่ทำนั้นคงเป็นสัญญาที่ไม่ดี เรียกได้ว่ารัฐเอาเปรียบคู่สัญญาก็ได้ ค่าปรับน่าจะเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลต่อความผิดนั้นๆ ถ้าถามกลับก็คือ ทำไมกทม.ถึงไม่คิดค่าปรับคนตั้งแผงลอยเสีย 100 ล้านเลยล่ะครับ จะได้ไม่มีคนมาตั้งแผงลอยผิดที่ผิดทาง อย่างไรก็ตาม ค่าปรับ 10 เท่าของมูลค่าสินค้าที่ขโมยที่คุณ Pom.com ยกมาในข้ออ้างที่ 5 นั้น ผมว่าอ้างผิดครับ เพราะการปรับเช่นนั้นเป็นการปรับที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำได้ครับ จากคุณ : Aynap - [ 9 มี.ค. 50 04:17:05 A:58.64.102.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 113 ถ้าเปนสัญญาเงินกู้ ผมคงไปโดดตึกตายดีกว่า จากคุณ : alphaX - [ 9 มี.ค. 50 04:17:16 A:58.64.90.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 114 คห 112  ถูกต้องครับ พวกเซเว่น  นั้น  ปรับแบบผิดกฎหมายครับ  ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ จากคุณ : alphaX - [ 9 มี.ค. 50 04:19:28 A:58.64.90.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 115 จะเขียนอะไร ให้เนียนหน่อย อย่ามั่ว ---------- ปี ----1988---- datalogger ส่วนใหญ่ยังใช้ SRAM ขนาด 8K-64KByte โดยมี แบตตอรี่ backup ข้อมูล และปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเช่นนั้น แต่ความจุสูงขึ้น EEPROM (ใช้ทำSmartcard) ที่มีความจุสูงสุด ปี 1988 คือเบอร์ 24C16 มีความจุ 2KB(2048 BYTE) จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำ datalogger ลงใน Smartcard เพราะความจุน้อย และ ราคาแพงมาก มีข้อจำกัด จำนวนครั้งในการเขียนข้อมูล และการเขียนข้อมูลแต่และ byte หรือแต่ละ page ต้องห่างกันไม่น้อยกว่า 5-10 mS ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่มีอยู่ใน SRAM ------------- อีกอย่างเมื่อคุณใช้ 80C31 ก็ต้องต่อ ROM ภายนอก ซึ่งวงจรส่วนใหญ่ก็จะต่อ SRAM ขนาด 8-32KByte ไปด้วยอยู่แล้ว แล้วจะเก็บข้อมูล ใน Smartcard ขนาด 256 - 2048byte ไปทำไม --- 1KB = 1024 byte 64 KByte = 65,536  byte ปี 1988ราคา SRAM 8KB  เบอร์ 6264 ราคาตัวละ 200-300 บาท -- ปี 1988 หน่วยความจำ DRAM ขนาด 640KB มีราคา 3000-4000 บาท http://www.simson.net/clips/1989/1989.BCS.HIGH-PRICE-DRAMS.pdf -------------------------- MCS-51 ยังใช้อยู่อีกหรือ...???  -- หัดใช้ GOOGLE ให้เป็นประโยชน์ --- ____อย่าใช้คำถามอวดเบ่ง โดยไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง____ MCS-51(80C31) = Microcontroller ไม่ใช่ Microprocessor(ไมโครโปรเซสเซอร์) หาอ่านได้ที่ Microcontoller vs. Microprocessor http://homepages.wmich.edu/~r0gottip/ece251web/lectures/Lecture1-Introduction.pdf -------------------------- ----- แถมสีเหลืองที่ขีดไว้คือ   เม็ดเงินโฆษณาใน**สื่อTV**  != เม็ดเงินโฆษณาใน **สถานีTV** เม็ดเงินโฆษณาใน**สื่อTV** = (เม็ดเงินโฆษณาใน **สถานีTV**) + (ตัวแปรXYZ) คุณรู้ อยู่แล้ว ว่าคำนวณผิด แต่ยังยืนกระต่ายขาเดียว ----- แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 05:49:22 จากคุณ : mcu51 - [ 9 มี.ค. 50 05:47:58 A:124.120.3.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 116 เรื่องค่าปรับ สน อัยการ สูงสุดตีความนี่ครับ ส่วนศาลแค่สั่งให้ คำสั้งอนุญาโตฯ เป็นอันยกเลิกให้กลับไปใช้สัญญาเดิม แล้วไปทำตามสัญญา จากคุณ : Clarinet Bb - [ 9 มี.ค. 50 06:19:50 A:124.120.115.155 X: ]

ความคิดเห็นที่ 117 มันก็ต้องมีหลัก ในการคิดแหละครับ ถ้าร่างมา โดนสมมุตินั่นสมมุตินี่จริงๆ ด้วยการคิดเอาเองจริงๆ โดยไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ก็ถือว่าแย่มากครับ ทำงาน ด้วยการสมมุติ ใช้ไม่ได้เลย เช่นอยู่ๆ คนร่างสมมุติว่าไอทีวี หากผิดสัญญาจะ มีรายได้สามหมื่นล้าน ตัวเลขมาจากไหนไม่รู้ นอนฝันสมมุติขึ้นมา   ขณะที่ ช่องอื่นๆ เช่น  สามกับ ห้ารวมกัน ยังไม่ถึงหมื่นล้าน อะไรก็สมมุติ คิดเอาเองไปเสียหมด แบบนี้แสดงว่า บ้านเมืองเรา ไม่มีหลักเกณฑ์ให้ยึดถือเลยหรืออย่างไร วันดีคืนดี หากคนร่างสัญญาใช้วิธีดูจากเจตนาตัวเอง อยากปกป้องรัฐ หรืออยากอะไร แล้วสมมุติวอะไรแปลกๆ ขึ้นมาอีกคงแย่แน่ครับ --------- คุณ ความเห็น 116 รบกวนอธิบายรายละเอียด เพิ่มเติมหน่อยครับ สำนักอัยการสูงสุด ตีความว่าอะไร มีให้อ่านไหมครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 06:52:33 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 06:51:45 จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 06:49:42 A:222.123.132.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 118 เป็นค่าปรับที่มหาโหดมากเลยนะคะ คิดแบบนี้เจ้าของกิจการหมดตัวกันเลย ทำให้คิดไปได้ว่าจะยึดเข้าเป็นกิจการของรัฐ จำได้ว่าเคยมีรายการทางช่อง 5 ตอนเช้า ๆ เมื่อนานแระเค้าพูดถึงกรณีนี้จำได้คร่าว ๆ ว่า การที่คู่กรณีตัดสินความกันไม่ได้และมีการตกลงใน สัญญากันไว้ก่อนว่าจะให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด ( ไอทีวีกับรัฐ(สปน.))ก็ให้ถือว่าสิ้นสุด ประเด็นเรื่องนี้คือผลของอนุญาโตตุลาการต่างหากที่ชี้ขาด ยืดหยุ่น แล้วเรื่องของเรื่องคือทางภาครัฐ(สปน.)ไม่ได้แจ้งหรือ รายงานให้ ครม.ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นการเปลี่ยน แปลงจากสัญญา ทำให้ผลการพิจารณาไม่สมบูรณ์หรือ เหมาะสมอะไรทำนองเนี้ยค่ะ   คือนักวิเคราะห์เค้ามองว่าเป็นความผิดของภาครัฐกึ่งหนึ่ง ด้วย !!!!!! แต่พอเจอคำตัดสินของศาล(ยุคหลังปฎิรูป)ให้ผลการพิจารณาของ อนุญาโตตุลาการที่ผ่านมานั้นเป็นโมฆะ มันเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมหรือการพิจารณา คดีความต่าง ๆ ใครทราบรายละเอียดเคสนี้ถ้าช่วยขยายจักขอบคุณค่ะ อยากทราบลึก ๆ เหมือนกันค่ะ . ... แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 07:08:40 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 07:05:53 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 9 มี.ค. 50 07:03:55 A:124.120.218.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 119 มีท่านหนึ่งให้ความเห็นไว้ในสินธร เห็นว่าน่าสนใจเลยยกมาครับ ความคิดเห็นที่ 15   การคิดว่า ยอมจ่ายค่าปรับวันละไม่เท่าไหร่ แล้วก็ทำผิดสัญญาได้ โดยเพิ่มรายการบันเทิงให้เกินคุ้ม เหมือนพวกห้างสรรพสินค้าที่ก่อสร้างต่อเติมผิดแบบ แล้วยอมจ่ายค่าปรับรายวันนั้น ITV ไม่สามารถกระทำได้ เห็นได้จากเมื่อศาลปกครองตัดสิน ก็ยอมปรับผังรายการให้เป็นไปตามสัญญาทันที เหตุผลก็คือ ธุรกิจทีวีแตกต่างจากห้างสรรพสินค้า  ธุรกิจที่มาจากการรับสัมปทาน ย่อมต้องกลัวการถูกยึดสัมปทาน โดยส่วนตัว ไม่ทราบว่าค่าปรับจะคำนวณออกมาได้เท่าไหร่ ไม่ได้ศึกษาสัญญาในรายละเอียด แต่เชื่อว่าไม่มีทางที่ศาลจะให้ ITV จายค่าปรับตามที่ สปน.เรียกร้องแน่นอนที่สุด จากคุณ : Mr.Foreveryoung  - [ 8 มี.ค. 50 22:23:56 ] จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 07:13:58 A:222.123.132.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 120 ดันทุรังไปทุกกระทู้ จะเอา 100 ล้านบาทต่อวันให้ได้ แกล้งโง่หรือแกล้งฉลาด จากคุณ : คำฝอย - [ 9 มี.ค. 50 08:20:28 A:202.44.139.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 121 คุณ mcu51 แซวไปหน่อย มาเป็นชุด ขอนอกเรื่องเบรคอารมณ์ ปี ----1988---- datalogger ส่วนใหญ่ยังใช้ SRAM ขนาด 8K-64KByte โดยมี แบตตอรี่ backup ข้อมูล และปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเช่นนั้น แต่ความจุสูงขึ้น EEPROM (ใช้ทำSmartcard) ที่มีความจุสูงสุด ปี 1988 คือเบอร์ 24C16 มีความจุ 2KB(2048 BYTE) จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำ datalogger ลงใน Smartcard เพราะความจุน้อย และ ราคาแพงมาก มีข้อจำกัด จำนวนครั้งในการเขียนข้อมูล และการเขียนข้อมูลแต่และ byte หรือแต่ละ page ต้องห่างกันไม่น้อยกว่า 5-10 mS ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่มีอยู่ใน SRAM ------------- ตอบ ผมทำ data logger เองครับ ใช้ smartcard (static ram card) mitsubishi รุ่น 512k ซึ่งในภายหลัง Fluke ได้ทำ data logger ซึ่งใช้ card ตัวนี้เช่นกัน อีกอย่างเมื่อคุณใช้ 80C31 ก็ต้องต่อ ROM ภายนอก ซึ่งวงจรส่วนใหญ่ก็จะต่อ SRAM ขนาด 8-32KByte ไปด้วยอยู่แล้ว แล้วจะเก็บข้อมูล ใน Smartcard ขนาด 256 - 2048byte ไปทำไม --- 1KB = 1024 byte 64 KByte = 65,536  byte ปี 1988ราคา SRAM 8KB  เบอร์ 6264 ราคาตัวละ 200-300 บาท -- ปี 1988 หน่วยความจำ DRAM ขนาด 640KB มีราคา 3000-4000 บาท http://www.simson.net/clips/1989/1989.BCS.HIGH-PRICE-DRAMS.pdf EPROM ที่ใช้ 64 k เอาไว้ใส่โปรแกรมถาวร ส่วน smartcard 512 k สามารถถอดเข้าออกจาก datalogger ได้ เพื่อถอดเข้าออกไป writeคำสั่ง และ Read ข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ ในกรณีที่ไม่ต้องการเคลื่อนย้าย datalogger -------------------------- MCS-51 ยังใช้อยู่อีกหรือ...???  -- หัดใช้ GOOGLE ให้เป็นประโยชน์ --- ____อย่าใช้คำถามอวดเบ่ง โดยไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง____ แหมแซวเล่นนะครับ ไม่ได้อวดเบ่ง ถ้าจะใช้จริงๆ เก่ายังไงก็ใช้ได้ครับ ผมเองเลิกเล่นไปตั้งแต่ยุค 90 กลางๆ ตอนนั้นขยับจากตระกูล 8051 ไปที่ 68000 MCS-51(80C31) = Microcontroller ไม่ใช่ Microprocessor(ไมโครโปรเซสเซอร์) หาอ่านได้ที่ Microcontoller vs. Microprocessor http://homepages.wmich.edu/~r0gottip/ece251web/lectures/Lecture1-Introduction.pdf -------------------------- 80C31 เป็น microprocessor ครับ ไม่เป็นยังไงครับ ----- แถมสีเหลืองที่ขีดไว้คือ   เม็ดเงินโฆษณาใน**สื่อTV**  != เม็ดเงินโฆษณาใน **สถานีTV** เม็ดเงินโฆษณาใน**สื่อTV** = (เม็ดเงินโฆษณาใน **สถานีTV**) + (ตัวแปรXYZ) คุณรู้ อยู่แล้ว ว่าคำนวณผิด แต่ยังยืนกระต่ายขาเดียว จะคำนวณผิดยังไงครับ เม็ดเงินก็คือเม็ดเงิน มีวันละ 160 ล้านในตลาด สถานีดึงมาได้ 80 ล้าน ก็เป็นรายได้ 80 ล้าน ลองอธิบายตามตัวเลขนี้ซิครับ ว่ารายได้มันจะไม่ครบ 80 ล้านยังไง คงต้องกลับมาตอบค่ำๆครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 08:51:51 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขออภัย ถ้าจะเอาละเอียดๆ ผมเข้าไปดูใน สัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ ระบบ ยู เอช เอฟแล้ว ข้างในระบุว่า จะต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่สำนักงาน ในอัตราร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปี  โดยคิดคำนวณเป็นรายวันตามจำนวนวันที่ชำระค่าตอบแทนล่าช้า ร้อยละ 15 ต่อปี  นั่นหมายถึงต่อปีไม่เกินร้อยละ 15 ไม่งั้นหน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชนใดๆ ก็ตามที่ทำสัญญา ร่วมกันแบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เวลามีปัญหาเอกชนจะชนะ แต่ข่าวมักไม่ค่อยออก และจะให้อนาคตรัฐต้องจ่ายแบบนี้ ถ้ามีการอ้างอิงถึง เรื่องนี้  ผมว่ามีปัญหาแน่ๆ และที่คุณเขียนว่า ร้อยละ 10 ต่อวันเอามาจากที่ไหนครับ จากคุณ : แมวหลงทาง - [ 9 มี.ค. 50 09:47:47 A:127.0.0.1 X:203.150.232.110 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เทียบกับค่าปรับเด็กขโมยหนังสือในร้านหนังสือที่ส่วนใหญ่คิด ๑๐ เท่า ก๊ากกกกกกกกกกกกกก นี่หรือความคิด เทียบได้แค่นี้จริง ๆ หรือ..โธ่!! จากคุณ : Mr.DogGie - [ 9 มี.ค. 50 10:05:01 A:58.9.124.41 X: ]

ความคิดเห็นที่ 124 กรูหละเชื่อเล้ยยยยย จากคุณ : L RULES - [ 9 มี.ค. 50 10:10:21 A:125.25.202.244 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125 สิทธิ์ของเจ้าของกระทู้ ที่จะสรุปอะไรตามใจที่ตัวเองคิด  แล้วบอกว่าฟังเหตุผล  นี่ละที่เรียกว่าแถ ค่าปรับที่แพงกว่าดอกเบี้ยแขก    แล้วยังเป็นการปรับจากศาล เขาเรียกว่า ปรับมรึงออกไป มากกว่าที่จะปรับเพื่อเยียวยาความเสียหาย แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 11:06:04 จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 9 มี.ค. 50 10:12:28 A:124.121.4.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 126 ยาวมากอ่านไม่ครบทุก คคห. บอกก่อนผมไม่ใช้นักกฎหมาย แค่วิศวะแก่ๆคนหนึ่ง ดูสัญญาแล้ว ถ้ามีการผิดสัญญาอะไรให้ปรับ 10%ของค่าตอบแทนโดยคิดเป็นรายวัน คิดเป็นรายวันโดยมีฐาณค่าปรับ10%มาจากรายปีของปีนั้นๆเท่านั้น 1000ล้าน ก็เท่ากับ 100ล้าน/ปี คิดเป็นรายวันให้นักบัญชีคิดเอาเองแล้วกัน คิดแบบดอกเบี้ยทบต้นก็ไม่น่าเกิน200ล้าน/ปี จะคิดเป็นรายวันหรือรายปีที่ไม่ยอมจ่ายก็ตกปีละไม่เกิน200ล้านแน่ๆ ไปดูสัญญาเต็มเอากันที่นี่ ก็ได้มาจากในนี้แหล่ะครับ. http://www.savefile.com/files/540061 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 17:32:40 จากคุณ : ฅนไท. (thai.man) - [ 9 มี.ค. 50 10:28:47 A:124.121.184.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 127 ต่ออะไรก็ช่างจะยึดซะอย่าง จากคุณ : noi01 - [ 9 มี.ค. 50 11:44:42 A:125.25.25.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 128 คุณฅนไท. (thai.man) ขอขอบคุณที่หาสัญญาตัวจริงมาอ่าน ผมว่าหลายคนยังสับสน ที่เอาการปรับในลักษณะที่เขาปรับดอกเบี้ยมาปนกับเรื่องนี้ การปรับดอกเบี้ย มันใช้สำหรับเวลาที่ผิดสัญญาว่าจะส่งรายได้ แล้วส่งช้า อันนี้มันมีหลักการที่ใครก็รู้ ว่าค่าปรับดอกเบี้ย จะเกินสมควรกว่าดอกเบี้ยเงินกู้มากไม่ได้ เพราะความเสียหายชัดเจนว่าก็มีแค่ค่าดอกเบี้ย คนส่งช้าก็กำไรได้แค่ดอกเบี้ย ใครที่เอาการปรับการก่อสร้างมาปน ก็สับสนอีก ก่อสร้างช้ามันเกิดความเสียหายต่อคนจ้าง คนก่อสร้างสร้างช้าส่วนใหญ่ก็เสียหายเหมือนกัน ค่าปรับก็จะไม่มากนัก เพราะปรับมาก ก็ต้องเพิ่มค่าความเสี่ยงในการประมูลมาก ทำให้ต้นทุนสูง เอกชนจ้างเอกชนด้วยกันเองยังไม่คิดค่าปรับสูง แต่กรณีสัมปทานทีวี ค่าปรับจะเกิดต่อเมื่อผิดสัญญา ซึ่งถ้าไม่ซวยสุดๆแบบคราวนี้ ถ้าไม่ตั้งใจผิดสัญญาจะไม่มีทางผิดสัญญาเลย และถ้าผิดสัญญาก็ชัดเจนว่าผู้ผิดสัญญาจะต้องได้กำไรแน่ๆ ดังนั้นค่าปรับกรณีนี้ว่าไปแล้วจะโหดเท่าไรก็ได้ เพราะถ้าไม่ตั้งใจผิดสัญญา ก็ไม่มีทางเสียค่าปรับ ยกเว้นกรณีนี้ที่ไม่มีใครคาดคิด ค่าปรับอันนี้ไม่จำเป็นต้องบวกค่าความเสี่ยงในการลงทุนเลย จะเห็นว่าสัญญากำกวม นักนิติศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าต้องใช้ศาลตัดสิน ซึ่งสุดท้ายศาลก็ต้องไล่เบี้ยเจตนารมณ์ และเหตุผลจากผู้ร่างสัญญา ถ้าใครว่าค่าปรับโหดไม่มีเหตุผล ลองตอบผมซิครับว่า ค่าปรับต่ำ 2 แสนกว่าต่อวันเข้ารัฐ ขณะที่ผิดสัญญาแล้วมีรายได้เพิ่มหลายล้านต่อวัน  มันมีเหตุผลตรงไหน แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 12:38:25 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 12:27:08 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 129 คุณ  แมวหลงทาง จะเห็นว่าสัญญาที่คุณยกมา มีความแตกต่างจากที่คุณฅนไท.ยกมามาก ที่คุณยกมาเป็นค่าปรับที่ส่งเงินช้า ไม่มีอะไรกำกวม แล้วที่คุณว่ามั่วหรือเปล่าครับ "ไม่งั้นหน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชนใดๆ ก็ตามที่ทำสัญญา ร่วมกันแบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เวลามีปัญหาเอกชนจะชนะ แต่ข่าวมักไม่ค่อยออก" ภาครัฐที่ไหนจะปัญญาอ่อนไปฟ้องเอกชนครับ สัญญาค่าปรับดอกเบี้ยธรรมดา ชัดเจนอยู่แล้ว จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 12:33:05 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 130 Microcontoller vs. Microprocessor http://homepages.wmich.edu/~r0gottip/ece251web/lectures/Lecture1-Introduction.pdf http://www.nxp.com/pip/P80C31SBAA.html http://www.google.com/search?hl=en&q=80C31&btnG=Google+Search จากคุณ : mcu51 - [ 9 มี.ค. 50 12:34:55 A:124.120.3.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 ๑๖๐ล้านนี่ทั้งระบบครับ ผมบอกว่าถ้ามีทีวีที่โกงสัญญา ทำบันเทิง ๑๐๐ เปอร์เซนต์ (ยังไม่เคยมีใครทำ) โอกาสที่จะกินส่วนแบ่งตลาด ๕๐ เปอร์เซนต์ เป็นไปได้ หรือคุณเถียง จากคุณ : Pom.com ...ไม่ขอเถียง...แต่ขอค้านนะ... ...เพราะไม่มีใครทำ บันเทิง  100 % แล้วจะมีโคษณาได้เต็ม ...และ  ก็ไม่มีใครคิดจะดู บันเทิงได้  ทั้งวันทั้งคืน.... ....อีกทั้ง สินค้าในประเทศไทย  มันไม่ได้มีเหลือเฟือขนาดที่ว่า...อีกทั้งประชาชนคนไทย  มีข้อจำกัดในการซื้อ  ...ขืนบ้าโฆษณา ทั้งวัน คืน  ตามกล่าวแล้ว   ..ยังขายสินค้าได้เท่าเดม  ...สินค้าก็เจ๊ง..จะเอาเงินที่ไหนมาโฆษณา..... ....มิฉะนั้น  ช่องเคเบิล  บันเทิง  ก็รวยเละไปแล้ว.... ...ไม่เชื่อลองทำดูก็ได้นะ  ไม่มีใครว่า. จากคุณ : รักแดนไทย - [ 9 มี.ค. 50 12:36:55 A:58.136.48.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 132 คุณ mcu51 ต้องขอโทษ ผมจำผิด 20 ปีมาแล้ว ผมตั้งใจหมายถึง 8039 ไม่ใช่ 8031 ส่วนตระกูล 68000 ผมไม่เคยพูดว่าเป็นอะไร ตัวที่ผมใช้เป็นไมโครคอนโทรลเลอร์ ที่มี  เอทูดี กับ มัลติเพลกเซอร์ ในตัว จำเบอร์ไม่ได้แล้ว บอกผิดเดี๋ยวโดนอีก ส่วน Smart card ผมอาจทำให้คุณสับสน ยุคผมอะไรที่ขนาดบัตรเครดิต บาง 2 เซนต์ ใช้แบตตารี่บางๆต้องเปลี่ยนทุกปี เขาก็เรียกว่า Smartcard แบบที่ใส่ใน Fluke Hydra Datalogger ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนเรียกเป็น memory card หรือยัง ส่วนรุ่นที่ผมใช้รู้สึกจะผลิตปี 1987 ผลิตได้ปีเดียว ก็ส่งมาให้ผมยืมวิจัยที่อังกฤษ ในปี 88 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 13:21:29 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 12:48:52 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 12:42:20 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 133 ผมเองเป็นแค่รากหญ้าคนหนึ่ง(ไม่รู้ว่ายังเป็นรากหญ้าได้อยู่อีกหรือเปล่า)ที่สนใจและติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่เหมือนกัน ในกรณีนี้ เท่าที่ผมติดตามดูกระทู้นี้(รวมถึงกระทู้ก่อนหน้านี้ของคุณ Pom.com ==>  ค่าปรับ 100 ล้านต่อวัน ถือว่าถูกมาก http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5204048/P5204048.html) ผมคิดของผมเองนะ การคำนวนค่าปรับของคุณ Pom.com หน่ะถูกต้อง100% ไม่มีปัญหาอะไร การคิดคำนวนรายได้จากจากโฆษณาจะสัดส่วน 50:50 หรือ 70:30 หรือ 100:0 ก็ตามคุณ Pom.com ก็คิดคำนวนได้ถูกต้องเช่นกัน และทฤษฎีของคุณPom.com ก็น่าจะพอถูไถได้ มั้ง?!? ผมเองก็งงจริงๆว่าทำไมทุกๆคนถึงคิดไม่ได้แบบคุณ Pom.com ทั้งๆที่ผมเองก็เดาว่าทุกคนในที่นี้คงมีความรู้ความสามารถไม่น้อยไปกว่ากัน พอผมคิดได้ดังนี้ ปัญญาก็เลยเกิด ปัญหาทุกอย่างมันอยู่ที่ แหล่งข้อมูล คุณ Pom.com ใช้แหล่งข้อมูลเม็ดเงินโฆษณาจาก http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userview/DetailPage.jsp?cntry=TL&lang=th&cat=SF&contId=2502 ในการคิดคำนวนรายได้และกำไร แต่เพื่อนๆคนอื่นๆใช้ข้อมูลรายได้และกำไรจากไหนเอ่ย??? ลองคิดกันดูนะครับ ข้อมูลจากไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน คุณ Pom.com ครับ ไม่ลองหันมาใช้ข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้อย่างที่เพื่อนๆเขานำมาให้ดูบ้างหล่ะครับ เผื่อจะค้นพบความจริงอีกด้านอย่างที่เพื่อนๆเขา สรุปกรณีนี้มันอยู่ที่ ความน่าเชื่อถือของคน(ผลงาน) อยู่ที่ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล จากคุณ : Moomba - [ 9 มี.ค. 50 13:09:13 A:203.113.76.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 134 http://www.cpu-world.com/Arch/8048.html http://www.google.com/search?hl=en&q=MCS-48&btnG=Google+Search จากคุณ : mcu51 - [ 9 มี.ค. 50 13:22:15 A:124.120.3.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 135 คุณ Moomba มาถึงตอนนี้คนที่แย้งว่าเม็ดเงินการตลาดมีต่ำกว่า 160 ล้านต่อวันไม่ค่อยมีหรอกครับ แต่ที่ยังแย้งคือไม่เชื่อว่าจะมีทีวีช่องไหนสามารถกินส่วนแบ่งโฆษณาได้ถึงครึ่ง ผมก็บอกว่าเจ้าหน้าที่รัฐเขาก็ต้องประมาณในสิ่งที่อาจเป็นไปได้ เขาก็เถียงว่าประมาณเวอร์ไป คุณว่ายังไงละครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 13:26:52 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 136 แก้ข้อความที่ผิด  คคห 134 "MCS-48(8039) เป็นต้นตระกูล MCS-51 และอ้างหน่วยความจำโปรแกรม ได้ สูงสุด 8 KByte เท่านั้น เป็น microcontroller" ----- MCS-48(8039) เป็นต้นตระกูล MCS-51(8031,...) และอ้างหน่วยความจำโปรแกรม ได้ สูงสุด 4 KByte เท่านั้น เป็น microcontroller จากคุณ : mcu51 - [ 9 มี.ค. 50 13:34:05 A:124.120.3.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 137 ขออภัยครับ ไม่ติดใจล่ะ ขออ่านอย่างเดียวดีกว่า แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 14:17:23 จากคุณ : แมวหลงทาง - [ 9 มี.ค. 50 14:00:31 A:127.0.0.1 X:203.150.232.110 ]

ความคิดเห็นที่ 138 คุณ mcu51 คำว่า microcontroller นี่แต่ละตำรา แต่ละคนสอนก็ไม่เหมือนกัน ส่วนHandbook ทางการค้า ผมไม่เอามาเป็นสาระ 6800 ที่มี I/O Port นี่ ตำราสมัยผม ถือว่าเป็น microprocessor ยุคนั้นตำรา microprocessor application ใช้ 6800 อ้างทั้งนั้น แต่ถ้าตามลิงก์คุณก็ถือว่าเป็น microcontroller ผมเองเห็นว่านิยามของ microcontroller น่าจะต้องหมายถึงชิบที่มี ROM ในตัว เสมือนมีสมองในตัว แต่ถ้าไม่ตรงกับตำราสมัยใหม่ก็ยอมรับว่าล้าสมัย แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 14:02:07 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 14:00:44 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 139 คุณ Pom.com คนอื่นๆอาจจะไม่ติดใจเรื่องแหล่งข้อมูลของคุณ Pom.com หรืออาจจะหลงประเด็นตามที่คุณ Pom.com พยายามนำเสนอ ผมเพียงแค่อยากจะให้ Pom.com ลองเปิดใจรับแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้จากแหล่งอื่นๆดูบ้างและลองนำกลับมาใช้ในทฤษฎีของคุณ Pom.com เองดู และลองดูผลลัพธ์ดูว่าจะออกมาเหมือนหรือแตกต่างจากความคิดดั้งเดิมของคุณอย่างไรและลองพิจารณาดูด้วยว่า ข้อมูลจากไหนที่น่าเชื่อถือมากกว่ากัน สำหรับประเด็นที่ Pom.com ต้องการนำเสนอนั้นผมตอบให้หน่อยก็ได้ว่า ทางรัฐบาลสามารถคิดหรือประเมินได้ในทางทฤษฎีที่โทรทัศน์ช่องหนึ่งจะสามารถรวบส่วนแบ่งทางตลาดมาได้ 100% แต่ในทางปฏิบัติหรือในความเป็นจริงมันคงเป็นไปไม่ได้แต่หากรัฐยืนยันที่จะคิดแบบนั้นใครๆก็คงห้ามไม่ได้ และมันก็จะกลับมาสู่ประเด็นของผมที่ว่า แล้วทางรัฐหรือ Pom.com จะคิดรายได้หรือกำไรของสถานนีโทรทัศน์อย่างไร และใช้ข้อมูลจากไหนเอามาเป็นบรรทัดฐานในการการประมาณหรือประเมินรายได้และกำไร จากคุณ : Moomba - [ 9 มี.ค. 50 14:07:06 A:203.113.76.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 140 ถ้าไม่ต้องสมมุติ ดูตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง Net profit 2002 - 2006 2002 ขาดทุน (770) 2003 ขาดทุน (660) เริ่มกำไรเพราะไม่ได้จ่ายสัมปทานเต็มเหมือนก่อน และปรับผัง จาก 70/30 อนุญาโตให้ 50/50 แต่ ไอทีวี ปรับประมาน  60/40 2004 กำไร 205 2005         410 2006         469 กำไร คือส่วนที่เข้ากระเป๋าไอทีวีจริงๆ ค่าปรับ ถ้าเป็นปีละ 100 ล้าน โดยประมานจะเท่ากับสัดส่วน 1/2 1/4 และ 1/5 ของกำไร มากหรือน้อย  แล้วแต่ แต่ละท่านจะคิดครับ ค่าปรับ ถ้าเป็นปีละ 36500 ล้าน ลองคิดดูแล้วกันครับ ว่าจะเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ มากหรือน้อย  แล้วแต่ แต่ละท่านจะคิดครับ ดูจากสัดส่วนแล้ว รายได้วันละ 5 ล้าน จะมีกำไร ล้านกว่าๆ หรือ สองล้าน เอาว่าเป็น 2 ล้าน ค่าปรับ วันละ 100 ล้าน หรือ ปีละ 36500 ล้าน เท่ากับว่า เป็นอัตรา 50 เท่า ถ้าวันละล้าน ก็เป็นอัตรา 100 เท่า ของเม็ดเงินกำไร ที่ไอทีวีได้จริง นี่คือปีเดียว ถ้ารวมค่าสัปทาน แสนล้าน ขณะที่ไอทีวี มีกำไร 500 ล้าน 500/100000  1/2000 ไอทีวีต้องใช้ กำไรเป็นเวลา 2000 ปีมาจ่าย ถ้ากำไรมาขึ้นเท่าตัว 1000 ล้าน ไอทีวีต้องใช้ กำไรเป็นเวลา 1000 ปีมาจ่าย ถ้าเรารายได้ทั้งหมด ปีละ 2000 ล้านมาจ่าย (ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นจริง เพราะ ไอทีวีจะไม่มีเงินในการดำเนินการ) ไอทีวีต้องใช้เวลา 500 ปีในการจ่าย ถ้าไอทีวีมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว 4000 ล้าน ไอทีวีต้องใช้เวลา 250 ปี ในการจ่าย หรือต่อให้ไอทีวี มีรายได้เป็นอันดับ 1ของประเทศ ปีละ 10000 ล้าน ก็ต้องใช้เวลา 10 ปี ในการเอารายได้ทั้งหมดมาจ่าย และถ้ามีกำไร 20% คือ 2000 ล้าน ก็จะใช้เวลา ราวๆ 500 ปี ถ้าเอาเฉพาะกำไรมาจ่าย มากหรือน้อย  เป็นธรรม เหมาะสมหรือไม่ แล้วแต่ แต่ละท่านจะคิดครับ ----------------- ที่สำคัญอย่าลืมว่า โอกาสที่ไอทีวี จะทำผิดสัญญา เพื่อหวังกำไรส่วนต่าง ค่าโฆษณา ซึ่งมากกว่าค่าปรับนั้นไม่น่าจะทำได้ เพราะอาจถูกยึดสัมปทาน ซึ่งตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เมื่อศาลยกเลิกคำสั่งอนุญาโต ไอทีวี ก็รีบเปลี่ยนผังทันที ไม่ได้ฝืนทำต่อ เพื่อกินส่วนต่าง ของค่าปรับ และ กำไรแต่อย่างใด ซึ่งนี่ไม่ใช่การ สมมุติ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น... แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 15:09:52 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 15:01:31 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 14:51:38 จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 14:46:04 A:124.157.203.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 141 ค่าปรับที่เราเถียงกันอยู่นี้ ไม่ใช่แค่ 10 หรือ 100 เท่านะครับ  แต่มันเกินจริงถึง  365 เท่า  เพราะเขาให้คิดเป็นรายวัน แต่ท่านเอา  10% ของ ค่าตอบแทนรายปี x จำนวนวัน ซึ่งมันควรจะเป็น 10% ของ ค่าตอบแทนรายวัน x จำนวนวัน  เพราะสัญญามันบอกชัดว่า ให้คำนวณเป็นรายวัน เพื่อคำนวณง่ายๆ ผมจะสมมติว่าในสัญญาให้จ่ายค่าตอบแทนปีละ 1,000 ล้าน นะ คุณปรับ 100,000 ล้าน มีค่าเท่ากับ ค่าตอบแทน 100 ปี สปน ถ้ายืนยันค่าปรับนี้ ก็ให้ระวังเมื่อหมดอำนาจ จะโดนฟ้องได้ว่า ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบ เพื่อกลั่นแกล้งบริษัทเอกชน จากคุณ : webkit - [ 9 มี.ค. 50 14:52:05 A:10.177.112.154 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 142 คุณ Pom.com ก็ลองใช้วิธีนั้นในการเขียนสัญญาธุรกิจของตัวเองล่ะกันนะครับ ไอ้การ "ปรับโหดเท่าไหร่ก็ได้"น่ะ เวรตะไลแท้ๆ แต่ผมคนนึงล่ะที่ไม่ขอทำธุรกิจกับคุณแน่ ถ้าคุณเขียนสัญญาแบบนี้ จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 9 มี.ค. 50 14:59:25 A:124.121.60.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 143 คุณ Moomba นอกจากตัวเลขสมมุติที่คุณ mcu51 ให้มาก็ไม่มีใครเสนอตัวเลขอะไรมาให้ดูนี่ครับ ส่วนสมมุติฐานของผมนี่แย่งส่วนแบ่งการตลาดได้ 50 เปอร์เซนต์ครับ ไม่ใช้ร้อย ร้อยนี่เวอร์ไป และต่อให้ตัวเลขผมพลาด ก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะค่าปรับนี่มีไว้ใช้สำหรับคนเลว ที่ตั้งใจผิดสัญญาแบบโจ่งแจ้ง ถ้าไม่เลวและโง่ ตามหลักการแล้ว ไม่ต้องกลัว ไม่มีทางเสียสักสลึง เหมือนที่ฟุตบอล จะออกกฎว่าถ้าเอานักบอลที่เล่นให้ทีมอื่นในฤดูกาลนี้มาเล่นในบอลยุโรป จับได้จะปรับแพ้ กฎแบบนี้โดยหลักการไม่มีทางได้ปรับใคร ใครจะเลวและโง่ขนาดนั้น ส่วนความผิดพลาดที่เป็นเรื่องเป็นราวนี้จะโทษไอทีวีไม่ได้ ถ้าไม่มีประเด็นแฝงกับอนุญาโต มันเป็นอุบัติเหตุทางกฎหมาย ฟ้องศาล ศาลคงเห็นใจลดค่าปรับ เหลือเท่ารายได้ส่วนที่เพิ่มโดยมิชอบ แต่จะมาโมเมเรื่องค่าปรับไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่าถ้าคิดแบบต่อปี ปรับวันละสองแสนกว่า ไอทีวีจะกำไรจากการปรับผังผิดกฎหมายวันละร่วมล้าน ซึ่งผิดหลักนิติธรรม จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 15:18:38 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 144 คุณ Ramin&Indra จะเอารายได้ไอทีวีปัจจุบันได้ยังไง เขาไม่ตั้งใจโกง ปรับผังเป็นบันเทิงหมด คนคิดค่าปรับ สมมุติฐานข้อแรกคือต้องคิดว่าถ้าโกงเต็มที่ผลจะเป็นยังไง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 15:22:12 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 145 คุณ เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) คุณwebkit สัญญาโหดยังไงครับ ถ้าไม่มีกรณีพิเศษแบบนี้ ต้องโง่จริงๆถึงจะผิดสัญญา เขาจะเขียนเวอร์ยังไงก็ได้ วันละพันล้านก็ยังได้ เพื่อแสดงเจตจำนงของทีวีที่มาจากเลือดเนื้อประชาชน ไม่กระทบใครถ้าไม่โง่ (ยกเว้นกรณีพิเศษนี้) กลับกันถ้าเขียนต่ำ แบบที่ใครจะแถให้ตีความเป็นรายปี ทำผิดสัญญา ถูกปรับสองแสน ได้กำไรวันละล้าน แบบนี้ไม่เรียกว่าค่าโง่หรือครับ สปน.ก็ต้องว่าไปตามสัญญา แต่ขึ้นศาล สปน.เองก็อาจร่วมขอความเห็นใจแทนไอทีวี แต่ถ้ามาลดค่าปรับนอกศาล ก็คุกซิครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 15:31:26 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 146 ไม่อยากจะตอบในนี้เลยคงไม่มีใครอ่านจะแตกประเด็นดีไหมเนี่ย ไว้ก่อนแล้วกันถ้ามีประเด็นนี้อีกทีผมค่อยตั้งกระทู้ ในฐานะที่ผมเป็นิติกรของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมีหน้าที่ทำสัญญาต่าง ๆ ไม่อยากพิมพ์มาก คคหที่ 146แล้วคงไม่ค่อยมีใครอ่าน ในสัญญาต่าง ๆ นั้น จะมีข้อกำหนดในสัญญา หากไม่ทำตามนั้น ให้ถือว่าฝ่ายนั้นผิดสัญญา อีกฝ่ายหนึ่งยกเลิกสัญญาเรียกค่าเสียหายได้ และจะมีการกำหนดค่าปรับไว้ด้วยซึ่ง ต้องแยกกันมอง เมื่อมีการผิดสัญญาคู่สัญญาอีกฝ่ายจะกระทำได้ดังนี้ 1. ยกเลิกสัญญา 2. เรียกค่าเสียหาย 3. เรียกค่าปรับ ค่าปรับในที่นี้ไม่ใช้การขู่แบบที่คุณเข้าใจหรอกครับ ค่าปรับเป็นแค่องค์ประกอบที่ใช้เยียวยาความเสียหายเมื่อมีการผิดสัญญา แล้วคู่สัญญาไม่ต้องการยกเลิกสัญญาต่างหาก เพราะหากคู่สัญญาฝ่ายที่ทำผิดไม่ยอมทำให้ถูกต้องตามสัญญา อีกฝ่ายหนึ่งก็สามารถเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้อยู่ดี ไม่ใช่ว่ากำหนดค่าปรับไว้แทนค่าเสียหาย โดยปกติแล้วให้คุณไปเปิดสัญญาที่ไหนดูก็ได้ กรณีที่เป็นสัญญาเล็ก ๆ ค่าปรับจะคิดเป็นวัน วันละ 500 1,000 10,000 หรือ 100,000 บาทแล้วแต่กรณีของสัญญาว่าหากมีการทำผิดสัญญาแล้วจะเกิดความเสียหายแค่ไหน เท่าที่เคยทำสัญญามากว่า 100 ฉบับ ไม่เคยมีฉบับไหนเลยที่ จะเรียกค่าปรับแบบที่ว่าผิดสัญญาครบ 10 วันต้องจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมด ถ้ามีสัญญานั้นจริง ๆ ผมคิดว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมอันอาจถูกบอกเลิกได้นะครับ คราวนี้มาดูว่า ITV ผิดสัญญาโดยมีเจตนาหรือไม่ซึ่งเรื่องนี้ควรวินิจฉัยก่อนที่จะมีการคิดค่าปรับด้วยซ้ำ ITV ได้ทำการปรับผังรายการ และจ่ายค่าสัมปทานให้แก่รัฐตามคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ เมื่อคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ ถูกศาลปกครองยกเลิก ITVก็ต้องปรับผังรายการให้เท่าเดิมและ จ่ายเงินค่าสัมปทานในส่วนที่ขาดคืนแก่รัฐให้ครบ โดยจะคิดค่าปรบย้อนหลังไม่ได้(อันนี้ความเห็นส่วนตัว)เพราะITVมิได้มีเจตนาในการทำผิดสัญญาเป็นการกระทำผิดเพราะสำคัญผิด พิมพ์ไปพิมพ์มาไหงมันเยอะจังงะ ยังไงถ้ามีการถกเรื่องนี้อีกรบกวนใครก็ได้เอาไปตอบให้แทนที่แล้วกันนะครับ จากคุณ : Natelo - [ 9 มี.ค. 50 16:12:22 A:61.90.138.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 147 ความคิดเห็นที่ 138   คุณ mcu51 คำว่า microcontroller นี่แต่ละตำรา แต่ละคนสอนก็ไม่เหมือนกัน ส่วนHandbook ทางการค้า ผมไม่เอามาเป็นสาระ 6800 ที่มี I/O Port นี่ ตำราสมัยผม ถือว่าเป็น microprocessor ยุคนั้นตำรา microprocessor application ใช้ 6800 อ้างทั้งนั้น แต่ถ้าตามลิงก์คุณก็ถือว่าเป็น microcontroller ผมเองเห็นว่านิยามของ microcontroller น่าจะต้องหมายถึงชิบที่มี ROM ในตัว เสมือนมีสมองในตัว แต่ถ้าไม่ตรงกับตำราสมัยใหม่ก็ยอมรับว่าล้าสมัย แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 14:02:07 จากคุณ : Pom.com  - [ 9 มี.ค. 50 14:00:44 A:210.1.58.8 X: ] ----------------------------------------- มาดู datasheet  ยุคปี 198x ว่า MC6800 มี I/O port หรือไม่ http://www.alldatasheet.com/view.jsp?Searchword=MC6800 http://www.alldatasheet.com/view.jsp?Searchword=MC6801 MC6800,6502,Z80,8080,8085 เป็น MPU(microprocessor) 8bit ในยุคปลายปี 70 ->ต้น ปี 80 MCS-48,MCS-51 เป็น MCU 8bit ในยุคปลายปี 70 ->ต้น ปี 80 จากคุณ : mcu51 - [ 9 มี.ค. 50 16:27:41 A:124.120.3.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 148 คุณ Pom.com ครับ ผมเอาตัวเลขมาให้คุณแล้วครับ ผลประกอบการของ ช่อง 3 http://www.settrade.com/S13_FastQuote.jsp?txtBrokerId=IPO&txtSymbol=BEC&selectPage=3 ผลประกอบการของ ช่อง 9 http://www.settrade.com/S13_FastQuote.jsp?txtBrokerId=IPO&txtSymbol=MCOT&selectPage=3 ผลประกอบการของ ITV http://www.settrade.com/S13_FastQuote.jsp?txtBrokerId=IPO&txtSymbol=ITV&selectPage=3 แหล่งข้อมูลจาก www.settrade.com คุณ Pom.com คลิ๊กเข้าไปดูเอาเองนะ คงไม่ต้องให้ผมเซฟรูปมาโพสให้คุณนะ คุณจะเห็นว่าข้อมูลรายได้และกำไรของแต่ละช่องนั้นแท้จริงมันเท่าไหร่กันแน่ สำหรับประเด็นของคุณนั้น หากรัฐจะเลือกปรับแบบไหน รายปีหรือรายวันนั้น มันก็เป็นเรื่องของรัฐที่จะเลือก(ส่วนรัฐเลือกแบบไหน ถูกหรือผิดนั้น ผมไม่ก้าวก่ายแล้วกัน) แต่สำหรับทฤษฎีของคุณนั้น มันไม่น่าจะถูกเลยแม้แต่น้อย(ลองใช้ตัวเลขจากลิ้งที่ผมให้ไปคำนวนดูสิ) คราวนี้ลองกลับไปดูกระทู้เริ่มต้นของคุณเอง ผมไม่ขอพูดถึงข้อ1-3 นะเพราะมันเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ต่างคนก็ต่างคิดกันไปได้และคงหาข้อสรุปไม่ได้ง่ายๆ ผมยกข้อ 4 มาพูดเพราะ มันพิสูจน์กันได้ ๔. กำไรวันละ ๘๐ ลบ ๖๐ เท่ากับ ๒๐ ล้าน ตามหลักฐานข้อมูลจาก www.settrade.com มันไม่มีสถานีไหนที่เป็นอย่างที่คุณพูดเลย กำไรวันละ 80 ล้าน ผมเห็นแต่ช่อง 3 กำไรปีละไม่เกิน 1700 ล้าน ช่อง 9 กำไรปีละก็ไม่เกิน 1600 ล้าน ช่อง ITV กำไรไม่ต้องพูดถึง มีแต่ขาดทุนสะสม สรุป ผมมองไม่เห็นว่า กำไร วันละ 80 ล้านมาจากไหน สรุปอีกที ประเด็นของผมคือ ข้อมูลคุณมั่วทำให้บทสรุปของคุณอาจจะไม่ถูกต้องเท่าที่ควร ดังนั้นคุณน่าจะเปิดใจและลองรับมูลอื่นๆดูบ้าง ขอแถมนิดนะ เรื่องของ อนุญาโตตุลาการ ถ้าจำไม่ผิดจากที่ได้รับข้อมูลมา 10 พ.ค.2549 ศาลปกครองครองกลางชี้ว่าคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี จึงเป็นเหตุให้ศาลปกครองสูงสุดตัดสินยกเลิกคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการไม่ใช่เหรอ จากคุณ : Moomba - [ 9 มี.ค. 50 16:38:28 A:203.113.77.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 149 คุณ Moomba คุณจะเอากำไรในปัจจุบันของทีวีทุกช่องมารวมกันไม่ได้หรอกครับ ทุกช่องที่คุณเอามาเวลานี้มีสาระไม่ต่ำกว่า 40 เปอร์เซนต์ ใครจะไปรู้ครับว่าถ้าสาระลดลง รายได้จะมากขึ้นเท่าไร กำไรจะมากขึ้นเท่าไร เอากันจะๆเลยก็ได้ อัตราค่าโฆษณาในช่วงไพร์มไทม์ ตอนนี้นาทีละ 5 แสน ถ้าทำช่องบันเทิงทั้งคืน 6 ชั่วโมง โฆษณาชั่วโมงละ 10 นาที ได้คืนละ 30 ล้าน ช่วงกลางวัน 12 ชั่วโมง ทำบันเทิงดีๆ หรือวิเคราะห์ข่าวมันๆ ตอนหกโมงเช้าถึงแปดโมงกับบ่ายสี่ถึงหกโมงดึงค่าเฉลี่ย ขอเฉลี่ยนาทีละ 3 แสนห้า ชั่วโมงละ 10 นาที ได้ 42 ล้าน กลางวันบวกกลางคืนก็ 82 ล้านแล้ว กินเม็ดเงินมาครึ่งหนึ่งของตลาด จ่ายสัมปทาน 44 เปอร์เซนต์ 36 ล้าน เหลือ 46 ล้าน ต้นทุนทีวีมีสาระทั้งปี 1500 ล้าน วันละ 4 ล้าน ทำรายการบันเทิงให้ต้นทุนกระโดดเป็นวันละ 26 ล้าน ก็เหลือกำไร 20 ล้าน (ผมไม่เคยบอกว่ากำไร 80 ล้านนะครับ) ถึงต้องคิดค่าปรับ 100 ล้าน 5 เท่าของกำไร มันก็สมมุติทั้งนั้นละครับ แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกินเลยตรงไหน ตัวเลขค่าโฆษณา ค่าสัมปทาน ค่าต้นทุน เม็ดเงินในตลาด เป็นจริงได้หมด ที่เถียงอยู่อันเดียวคือจะทำทีวีให้ฮิตขนาดนี้ได้แค่ไหน ส่วนใหญ่ไม่มีใครคิดว่าได้ แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้เกินเลยความเป็นไปได้ ถ้าเป็นทีวีบันเทิงร้อยเปอร์เซนต์ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 17:48:34 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 17:25:53 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 150 คุณ Ramin&Indra จะเอารายได้ไอทีวีปัจจุบันได้ยังไง เขาไม่ตั้งใจโกง ปรับผังเป็นบันเทิงหมด คนคิดค่าปรับ สมมุติฐานข้อแรกคือต้องคิดว่าถ้าโกงเต็มที่ผลจะเป็นยังไง ----------- งั้นยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ เพราะคนร่างก็ต้อง คิดโดยคำนึง จากความเป็นจริง ของรายได้สถานีโทรทัศน์ ในขณะที่ ร่างสัญญา ซึ่งรายได้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ย่อมน้อยกว่าที่ผมยกตัวอย่างเป็นแน่ ค่าปรับ ย่อมจะยิ่งไร้เหตุผลกว่าเดิม เมื่อเอามาเปรียบเทียบกัน -------- ตามที่คุณบอกว่า คนคิดค่าปรับ สมมุติฐานข้อแรกคือต้องคิดว่าถ้าโกงเต็มที่ผลจะเป็นยังไง โกงเต็มที่แล้ว ผลก็ไม่ควรออกมาเป็นตัวเลข ที่เหนือจริงอย่างที่ว่า   โดยเฉพาะยิ่งเมื่อคิดถึง ความเป็นไปได้ จากตลาดโฆษณาโทรทัศน์เมื่อสิบปีก่อนด้วยแล้ว ค่าปรับจำนวนนี้ ยิ่งไม่สมเหตสมผล เพราะไม่มีความเป็นไปได้เลย ที่หากโกงสูงสุดเต็มที่แล้ว จะมีรายได้ มหาศาลอย่างที่คุณว่าครับ จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 17:28:55 A:124.157.203.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 151 คุณ mcu51 6800 ที่มี I/O Port ผมก็หมายถึง 6801 ที่ผมใช้เรียน วันหลังจะไปค้นว่าตำราตอนนั้นมันเรียกว่าอย่างไร แต่ขอปิดเรื่องนอกประเด็นแค่นี้ ขอบคุณที่ช่วยให้รื้อสมอง 20 ปี จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 17:42:26 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 152 คุณ Ramin&Indra ตัวเลขนะเป็นไปได้ ลองดูกระทู้ 149 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 17:44:18 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 153 ผมว่า คุณ POM อาจจะเข้าใจเรื่องช่วงไพร์มไทม์ผิด ช่วง ไพร์ม ไทม์คือช่วง 18.00 - 22.30 เพราะเป็นช่วงที่คนทำงานกลับมาบ้าน พักผ่อน มีคนจำนวนมาก ใช้เวลาในการดูทีวีมากที่สุด ดังนั้นต่อให้คุณ ทำบันเทิง 100% แต่เวลาไพรม์ไทม์ เวลาที่คนพักผ่อนอยู่บ้าน มันไม่ได้งอกขึ้นมาด้วย นอกจากคนส่วนใหญ่ในประเทศ จะทำงาน ตามใจฉัน อยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นไม่ว่าปรับผังอย่างไร เวลาไพรม์ไทม์ที่คิดราคา แพงได้สูงสัด ก็ยังมีเท่าเดิมอยู่ดีครับ ส่วนเวลาอื่นๆ อาจทำรายการที่คนสนใจดูมาก ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้ แต่ก็ไม่มีทางเทียบกับเวลาไพรม์ไทมได้ ดังนั้นการคิดรายได้โดยเอาไพรม์ไทม์ มาตีรวม ว่าถ้าคิดเท่านี้หมด จะเป็นไปได้ ในความเป็นจริง มันไม่ได้หรอกครับ ละครเช้า ละครเสาร์อาทิตย์ ละครตอนเย็น กับ ละครหลังข่าว ทำไมราคาค่าโฆษณาต่างกัน ทั้งที่บันเทิงเหมือนกัน ก็เพราะหากคนดูไม่มาก  ไม่คุ้มค่าเงิน ก็ไม่มีสปอร์นเซอร์ ยอมจ่ายค่าโฆษณาแพงๆแน่ แล้วคนดูจะมากได้อย่างไร ในเมื่อรายการนั้น ให้บันเทิงสุดยอดอย่างไรก็ตาม แต่ฉายในเวลาที่คนส่วนมากนอน หรือคนส่วนมากไปทำงาน อย่าคิดว่าค่าเวลามันจะแพงไปเสียหมด เรตที่เห็นๆนั้นเป็นแค่คร่าวๆ เป็นเรตทางการ เพื่อไม่ให้เสียเกรด รายการช่วงหลังเที่ยงคืนหรือ ช่วงสายๆ ค่าโฆษณา ที่ขายกันจริงๆ ในเอเจนซี่ เป็นหลักไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้นเอง ขายแบบเหมายกชุดบ้าง ลดแลกแจกแถมบ้าง ผมยืนยันว่า การคำนวณ แบบสมมุติของคณPOM มันเกินความจริงไป จริงๆครับ ผมว่า ถ้าไม่อคติจนเกินไป ดูรายได้ ดูกำไร ที่เป็นอยู่จริงๆ ในปัจจุบัน ก็น่าจะเข้าใจ พอมองเห็น ตัวเลข ที่น่าจะพอเป็นไปได้ได้มากกว่า การสมมุติตัวเลขสูงสุด ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริงมา ถ้าการทำแบบที่คุณ POM ว่าจะทำให้โทรทัศน์ช่องนั้น มีรายได้สูงสุด ถึงหลัก สามหมื่นล้านต่อปีจริง ผมเชื่อว่า คงมีคนทำไปแล้วล่ะครับ ไม่ต้องแบ่งสัดส่วน ให้รายการประเภทอื่น เพราะ ในความเป็นจริง คนเราไม่ได้ติดตาม ดูทีวี เพราะบันเทิงเพียงอย่างเดียว โทรทัศน์ที่มีแต่บันเทิงอย่างเดียว ไม่ได้หมายความว่า จะดึงดูดเม็ดเงิน ได้มากกว่า โทรทัศน์ที่มีสัดส่วนรายการ ประเภทต่างๆอย่างเหมาะสม ถ้าทำบันเทิงแล้วมีรายได้ระดับบริษัมมือถือ แบบนั้นได้จริง ต้องมีคนทำให้เห็นแล้วครับ ถึงแม้ไม่ได้เท่าคุณ POM ว่าก็ต้องมีที่ใกล้เคียง ใครๆก็อยากได้เงินทั้งนั้น   เราคงไม่ต้องมาสมมุติกันเหมือนเดี๋ยวนี้ ที่ไม่มีให้เห็น เพราะ มันแทบไม่มีโอกาส เป็นไปได้นั่นเอง กำไร หลัก 20 ต่อวัน เท่ากับกำไร 7300 ล้านต่อปี ในขณะที่ ข้อมูลในความเป็นจริง มันแค่ระดับ 1600 ล้าน ต้องใช้ทีวี สามสี่ช่องรวมๆกัน ถึงจะได้กำไรขนาดนั้นกระมั่ง กำไร 7300 ล้าน มันมากกว่า รายได้ทั้งปีเสียอีก   แค่ปรับเปลี่ยนผัง เปลี่ยนวิธีการบริหาร ฐานผู้ชม ฐานโฆษณา ยังคงเดิม ผมไม่เห็นว่า จะเป็นไปได้เลย แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 18:07:02 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 17:52:29 จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 17:45:48 A:124.157.203.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 154 คุณ Ramin&Indra แค่ผมขยายไพร์มไทม์ จาก 4 ทุ่มครึ่ง เป็นเที่ยงคืน คุณว่าเป็นไปไม่ได้หรือครับ ทุกวันนี้ส่วนใหญ่คนย้ายไปดู ยูบีซี เวลานั้นมากมาย ยังไม่หลับหรอกครับ ส่วนเวลากลางวันผมคิด 70 เปอร์เซนต์ของไพร์มไทม์  มันก็เป็นไปได้ ตอนเช้านี่เผลอๆบางช่องตอนนี้ใช้เรทไพร์มไทม์ด้วยซ้ำ ที่ทีวียังไม่รวยเท่ามือถือ เพราะตอนนี้ที่เขาทำไม่ได้ มันติดกม.ครับ ช่องสามก็ถูกคุมบันเทิงไว้ที่ 60 เปอร์เซนต์ ไม่ได้มีอิสระอย่างที่คุณเข้าใจ ตอนนี้บางช่องถึงฮั้วกัน สลับสาระ กับบันเทิง ไม่ให้ตรงกัน เอาคนจัดเกมส์โชว์คนเดียวกัน ไปทั้งสองช่อง แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 18:01:10 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 17:58:16 จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 17:55:13 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 155 เอาเถอะครับ เรื่องความคิดของแต่ละคน ที่เชื่อว่าเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่าคุยกันมาพอแล้ว ถือว่าที่โพสๆมาเป็นข้อมูล ให้คนอื่นๆที่สนใจ ได้คิดตามทั้งสองด้าน แล้วตัดสินใจเองแล้วกัน ไว้ถ้ามีประเด็นใหม่ๆอีก ค่อยคุยกันต่อแล้วกันครับ คุณ POM ปล. ผมว่าเรื่องนี้ ถ้าได้ความเห็นของ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์จริงๆ น่าจะดี ว่า รายได้ระดับที่คุณ POM ว่า จะเป็นไปได้ไหม หากปรับผังบันเทิง100% แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 19:49:55 จากคุณ : Ramin&Indra - [ 9 มี.ค. 50 18:12:20 A:124.157.203.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 156 ผมสงสัยจริงๆว่าคุณ Pom.com เนี๊ยะเป็นญาติกับลุงบางคนที่ พันทิป หรือเปล่าครับ รู้สึกว่าช่างแถจริงๆ ผมเองก็แค่เสนอว่าข้อมูลตั้งต้นของคุณนั้นมันไม่น่าจะถูกต้อง 100%อย่างที่เพื่อนๆในที่นี้ได้แจ้งเอาไว้ แต่คุณก็ไม่ยอมเชื่อ จนผมไปหาตัวเลขมายืนยันได้ คุณก็แถไปเรื่องเสกยืดเวลา ไพร์มไทม์ ซะงั้น ยืนยันในทฤษฎีของคุณเหลือเกินว่าสามารถทำเงินได้มหาศาลขนาดนั้น เอาเถอะครับ ผมก็ได้แต่หวังว่าข้อมูลที่ผมนำมาแบ่งปันให้คุณได้รับนั้น คงจะมีประโยชน์ต่อคุณบ้างไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณครับ จากคุณ : Moomba - [ 9 มี.ค. 50 18:43:25 A:203.188.10.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 157 รายได้ของเมืองไทย โทรทัศน์ไม่มีทางได้แบบที่ คุณ POM คำนวนหรอก ความเป็นจริงแค่ทำกำไร หาเงินจ่ายค่าสัมปทาน ปีละ 1 พันล้าน ยังทำไม่ได้เลยครับ คำนวณรายได้ ITV ตอนก่อนจะถูกยกเลิกสัญญา ปรับแสนล้าน ให้ ITV ทำงานใช้ 200 ปี ก็ไม่หมด เพราะ ค่าสัมปทาน แล้วต้องมาจ่ายค่าปรับอีก ซึ่งอยากเก่งก็คงจะจ่ายได้ แค่ ปีละ 1500 ล้าน รวมๆ แล้ว ก็คง  200 ปี ถึงจะหมดหนี้ จากคุณ : webkit - [ 9 มี.ค. 50 18:53:31 A:10.177.113.56 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 158 จำได้ว่า มีกฏหมายกำหนด ไม่ให้การคิดค่าปรับ ดอกเบี้ย หรือ ค่าธรรมเนียมต่างๆ  รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15% มะใช่เหรอ  พอเรื่องถึงศาล เรื่องค่าปรับที่เกินกำหนดน่าจะเป็นโมฆะ นะ หุหุ จากคุณ : Force-X - [ 9 มี.ค. 50 19:05:01 A:58.136.194.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 159 น่าแปลกใจมากๆ ว่า ทำไม เฒ่าแคน ไม่ยอมมาร่วมเสวนาด้วยนะ คงได้แง่มุมเยี่ยมๆอีกเยอะเลยละ  น่าเสียดายจริงๆ ขาดอรรถรสไปเยอะ 5555 จากคุณ : อาหนวด - [ 9 มี.ค. 50 19:36:03 A:124.120.118.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 160 คุณ Moomba ตัวเลขที่คุณหามา แล้วผมไม่ใช้ เพราะคุณเอาตัวเลขกำไรมาพูด ขณะที่ตัวเลขที่ไม่มีใครแย้งผมลง คือตัวเลขเม็ดเงินในการใช้จ่ายโฆษณา ซึ่งมันคนละเรื่องคนละราว เหมือนคุณเอาตัวเลขมาว่าร้านอาหารห้าร้าน ร้านแรกกำไรวันละร้อยบาท... ร้านสุดท้ายมีรายได้วันละ ๓ พัน กำไรวันละพันบาท ขณะที่ผมบอกว่า ผมมีตัวเลขว่า เงินค่าอาหารของลูกค้ามีรวมวันละหมื่นบาท ตัวเลขของทั้งคุณ ทั้งผมไม่มีใครผิด แต่จะให้ผมเชื่อคุณว่า ร้านที่จะเปิดใหม่ ไม่มีทางมีรายได้เกิน ๔ พัน กำไรได้อย่างมาก ๑๓๐๐ บาท เพราะข้อมูลคุณบอกว่าร้านที่เก่งที่สุดตอนนี้ทำกำไรได้แค่ ๑๐๐๐  บาท ผมคงยอมรับไม่ได้ เพราะผมมั่นใจว่าอภิสิทธิ์ที่ร้านผมมีต่างจากร้านอื่น ผมน่าจะแบ่งตลาดมาได้ครึ่งหนึ่ง คือห้าสิบเปอร์เซนต์ หรือมีรายได้วันละ ๕ พันบาท น่าจะได้กำไรวันละ  ๑๗๐๐ บาท พอจะเข้าใจหรือยังครับว่าข้อมูลของคุณไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เพราะมันเทียบกันไม่ได้ จะว่าใครแถคิดให้ดีก่อนนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าตัวเอง จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 21:34:50 A:203.107.204.127 X: ]

ความคิดเห็นที่ 161 คุณ Force-X ค่าปรับที่คุณว่านั่นมันใช้เฉพาะการชำระเงินล่าช้าครับ ความเสียหายของผู้รับชัดเจน ประโยชน์ของผู้ชำระเงินล่าช้าชัดเจน สามารถเอาดอกเบี้ยมาตรฐานมาอ้างอิงได้แล้วบวกอีกนิดหน่อย แต่กรณีนี้คนละเรื่องครับ ผิดสัญญามีรายได้เป็นล้านต่อวัน จะปรับจิ๊บจ๊อยวันละสองแสนได้ยังไงครับ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 21:39:36 A:203.107.204.127 X: ]

ความคิดเห็นที่ 162 คุณ webkit ผมบอกกี่ทีแล้วว่าค่าปรับมันยังไงก็มากกว่ากำไร อย่างน้อย ๕ เท่า แต่เลขนี้มีตรงไหนเป็นไปไม่ได้แน่ๆ แล้วเอากำไรไอทีวีตอนนี้มาพูด ก็วนไปวนมา ผมบอกแล้วค่าปรับเขาต้องคิดว่าแหกกฎเต็มตัว ไอทีวีที่ผ่านมาแหกกฎไปได้แค่ขาข้างเดียว บันเทิงยังต่ำกว่าช่อง ๗ เลย ช่อง ๗ ตอนนี้บันเทิง ๗๐ เปอร์เซนต์รายได้ราวหมื่นห้าพันล้าน ถ้ามีทีวีที่บันเทิง ๑๐๐ เปอร์เซนต์ แล้วไม่ตกอยู่ในระบบราชการแบบช่อง ๗ จะทำรายได้ ๓ หมื่นล้านไม่ได้เชียวหรือ จากคุณ : Pom.com - [ 9 มี.ค. 50 21:46:49 A:203.107.204.127 X: ]

ความคิดเห็นที่ 163 rating ดีจริงๆ ดารานำคนใหม่เนี่ย จากคุณ : รักหวานในวันวาน - [ 10 มี.ค. 50 02:39:35 A:124.120.162.38 X: ]

ความคิดเห็นที่ 164 อย่าเถียงกันเลยค่ะ  เพราะพวกคุณไม่ได้อยู่ในวงการโฆษณา  ตัวเลขที่คุณ Pom.com เอามาก็ไม่ผิดหรอกค่ะ  แต่ที่เอามาเป็นตัวเลขของราคาโฆษณาก่อนหักส่วนของโฆษณาทั้งระบบ คือ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร บิลบอร์ด ฯลฯ เข้าใจว่าคงจะไปเอาตัวเลขของ AC Nielsen นะคะ  แต่ขอให้ทความเข้าใจใหม่ด้วย  แล้วไอ้ที่คุณว่าละครน้ำเน่าขายโฆษณาได้นาทีละ 500,000 น่ะ  ดิฉันทำงานโฆษณามา 20 ปี ยังไม่เคยจ่ายใครราคานี้เลยนะคะ  แม้แต่กระทั่งช่อง 7 เอง  เอ หรือคุณ Pom.com ดูผิดสถานี  ไปดูของ CBS ที่อเมริกาหรือเปล่า ตอนช่วงที่เขาถ่ายทอดออสการ์  แต่นั่นก็ถูกไปนะคะ  เพราะซื้อโฆษณาถ่ายทอดสดออสการ์เนี่ย ถ้าจำไม่ผิด เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า ประมาณ 10 ล้านบาท ต่อนาที  แต่คนดูทั่วโลกนะ พอคิดค่าเฉลี่ยต่อคนดู 1 คนแล้ว น่าจะตกประมาณคนละ 40 บาทค่ะ จากคุณ : เผือกทอด - [ 13 มี.ค. 50 00:05:18 A:58.136.228.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 165 อย่าเถียงกันเลยค่ะ  เพราะพวกคุณไม่ได้อยู่ในวงการโฆษณา  ตัวเลขที่คุณ Pom.com เอามาก็ไม่ผิดหรอกค่ะ  แต่ที่เอามาเป็นตัวเลขของราคาโฆษณาก่อนหักส่วนลดของโฆษณาทั้งระบบ คือ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร บิลบอร์ด ฯลฯ เข้าใจว่าคงจะไปเอาตัวเลขของ AC Nielsen นะคะ  แต่ขอให้ทำความเข้าใจใหม่ด้วย  แล้วไอ้ที่คุณว่าละครน้ำเน่าขายโฆษณาได้นาทีละ 500,000 น่ะ  ดิฉันทำงานโฆษณามา 20 ปี ยังไม่เคยจ่ายใครราคานี้เลยนะคะ  แม้แต่กระทั่งช่อง 7 เอง  เอ หรือคุณ Pom.com ดูผิดสถานี  ไปดูของ CBS ที่อเมริกาหรือเปล่า ตอนช่วงที่เขาถ่ายทอดออสการ์  แต่นั่นก็ถูกไปนะคะ  เพราะซื้อโฆษณาถ่ายทอดสดออสการ์เนี่ย ถ้าจำไม่ผิด เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า ประมาณ 10 ล้านบาท ต่อนาที  แต่คนดูทั่วโลกนะ พอคิดค่าเฉลี่ยต่อคนดู 1 คนแล้ว น่าจะตกประมาณคนละ 40 บาทค่ะ จากคุณ : เผือกทอด - [ 13 มี.ค. 50 00:08:03 A:58.136.228.49 X: ]