นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า บุคคลที่แสดงความตั้งใจในการต่อสู้อย่างมั่นคงมาโดยตลอด อย่าง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร จะต้องตกเป็นเป้าของการตรวจสอบอย่างไม่ต้องสงสัย พล.อ.สพรั่งและบุคคลอื่นๆในรัฐบาล และ คมช. ต้องแสดงความพร้อมที่จะถูกตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง อย่าหลงไปทะเลาะเบาะแว้งกับฝ่ายต่างๆ และต้องไม่ทำอะไรที่เหมือนกับกลุ่มคนที่ตนเคยกล่าวหาไว้อย่างเด็ดขาด อย่างไรเสีย รัฐบาลนี้ก็มีอายุจำกัด เหลืออยู่เพียงไม่กี่เดือน แต่บ้านเมือง ประเทศชาติ สถาบันหลัก ความสงบสุข ต้องรักษาไว้ตลอดไป เมื่อไม่ถอดใจแล้ว ก็รวบรวมกำลังใจของทุกฝ่ายที่ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง หยุดยั้งสภาพความเสื่อมถอยในปัจจุบัน และคลี่คลายปัญหาความเสี่ยงต่างๆโดยเร็ว"
.
จากไทยรัฐ
ผมฟังคุณอภิสิทธิ์พูดให้กำลังใจพล.อ.สะพรั่ง หรือ"พี่เปย"ของผมแล้ว บอกตรงๆรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลยกับคำพูดวกไปวนมา..เหมือนหวังดี
ดูๆก็เป็นความปรารถนาดีของนักการเมืองที่มีต่อเผด็จการที่นายอภิสิทธิ์สนับสนุนมาแต่ต้น คงรู้สึกสงสารรัฐบาลและ คมช.ที่ยังเป็นมือใหม่หัดขับ ทำงานสะเปะสะปะปราศจากเป้าหมาย..โดยเฉพาะพล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร
จับประเด็นคำพูดของคุณอภิสิทธิ์แล้ว สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ สั่งสอน อบรม ตักเตือน พล.อ.สะพรั่ง หลักๆมีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน คือ
1.ให้ทุกคนใน คมช.ยื่นบัญชีทรัพย์สินเพื่อให้ตรวจสอบทั้งหมด
2. ให้ทุกคนในคมช.ยุติการการใช้วิวาทะ หรือทะเลาะเบาะแว้งกับทุกฝ่าย
3. อย่าทำอะไร เหมือนๆกับที่ได้กล่าวหารัฐบาลชุดก่อน
ผมไม่เห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ใน 3 กรณีนี้เท่าไหร่ มองไม่เห็นถึงสาเหตุที่ คมช.จะต้องไปทำอะไรอย่างที่นายอภิสิทธิ์แสดงความเห็น
-กรณียื่นยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ ปปช.หรือ ปปง.ตรวจสอบ
คมช.นั้น ไม่ใช่ผู้บริหารประเทศ แต่เป็นเพียงผู้ควบคุมผู้บริหารประเทศอีกทีหนึ่ง หรือเป็นคณะบุคคลพิเศษแห่งชาติ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และความซื่อสัตย์สุจริตมาแต่ต้น และเป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่วไป
ซึ่งนายอภิสิทธิ์ต้องให้เกียรติ ให้ความเชื่อถือ คมช.ในประเด็นนี้ด้วย
เพราะถ้าหากมีการตรวจสอบทรัพย์สินของ คมช. ก็เท่ากับว่าเป็นการล้วงความลับคณะบุคคลพิเศษ และที่สำคัญไม่มีฝ่ายใดจะมีอำนาจที่จะเข้าไปตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพราะ คมช.เป็นบุคคลผู้เหนือกฎหมายของรัฐ อีกทั้งจะไม่เป็นผลดีในด้านความน่าเชื่อถือต่อคมช. และภาพรวมของประเทศ
-กรณีทะเลาะกับฝ่ายต่างๆ
ผมถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเริ่มต้นของ คมช.ก็มาจากการทะเลาะกับรัฐบาลชุดก่อนอยู่แล้ว เมื่อเป็นคนละฝ่ายก็จำเป็นต้องทะเลาะ หรือเกิดวิวาทะกับทุกกลุ่มที่ไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ของ คมช. เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อมูลที่แท้จริง...
มันเป็นความจำเป็นอย่างที่สุดที่ คมช.ต้องคอยพูด คอยอธิบายให้ประชาชนฟัง เพราะหลายๆอย่างประชาชนก็ไม่เข้าใจ จึงต้องอธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้ภาพออกมาดูเหมือนทะเลาะกัน... ก็เหมือนนายอภิสิทธ์นั่นแหละ ที่เวลาถูกคนอื่นกล่าวหา ก็ไม่เคยเห็นนายอภิสิทธิ์นิ่งเฉยสักครั้ง เห็นเรียงหน้ากันออกมาถล่มกลับฝ่ายตรงข้ามอย่างถึงพริกถึงขิงทุกครั้ง
-กรณีอย่าทำอะไรเหมือนกับที่กล่าวหาคนอื่น
บอกแล้วว่าสำหรับ คมช.ทุกอย่างเป็นข้อยกเว้นครับ โดยเฉพาะพล.อ.สะพรั่ง การทำตามหรือไม่ทำตาม ทำเหมือนหรือทำต่างมิใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่าทำเพื่ออะไร เพื่อใครเท่านั้น ถ้าท่านยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ท่านก็ไม่ต้องจำเป็นจะต้องไปสนใจใคร ถึงพลพรรค ทรท.อยากจะตรวจสอบ ก็อย่าไปให้ความสำคัญ
อย่าไปหลงเชื่อคุณอภิสิทธิ์เลยครับ...ผมว่างานนี้เขามีเจตนาซ่อนเร้น ผมแนะนำว่า..ถ้าฟังคนประชาธิปัตย์พูด ต้องเอาร้อยหาร และตะแกลงร่อน ถึงจะพบความจริง
ท่านเดินถูกทางแล้ว !!!
จากคุณ :
ปลายอ้อกอแขม
- [
13 มี.ค. 50 15:53:22
A:58.64.113.9 X:
]