งานนี้นายกทักษิณคงตกข่าว หรือฟังสับสนกับข่าวนักเรียนทุน กรอ. ที่เด็กซึ่งพ่อแม่มีรายได้เกินเกณฑ์ 150,000 บาทต่อปี จะถูกตัดทุนกระทันหันราว 200,000 คน
ส่วนชาวราชดำเนิน ก็ตามสไตล์ ไม่นิยมตรวจเช็คข้อมูล
หลงชื่นชม เลยหน้าแตกตาม
ท่านนายกทักษิณอยากจะแก้ตัว ช่วยให้ทุน นักเรียนทุน กรอ. แทนก็ได้มังครับ อันนี้สิมีปัญหาจริง ช่วยได้ก็ช่วยเถอะครับ รัฐบาลนี้ท่าทางจะช่วยไม่ได้
เด็ก กรอ. ที่พ่อแม่ไม่เข้าเกณฑ์ ท่านให้ทุนค้างไว้ 200,000 คน อุ้มจนจบ สักคนละ 5 แสน แค่ แสนล้านเอง เด็กทำงานมีเงินเดือนสูงพอใช้คืนเมื่อไร ถ้าไม่ชักดาบ วันหนึ่งท่านก็คงได้เงินคืน หรือถ้าให้ดี ให้ทุน กรอ. เด็กรุ่นใหม่ด้วย
ก็อปมติ ครม. 27 กุมภา มาเป็นหลักฐาน
http://www.thaigov.go.th/Download/437_270250.DOC
31. เรื่อง ขออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอดังนี้
1. อนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2550 จำนวน 1,154,035,600 บาท เพื่อดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ระหว่างเดือนมกราคม - กันยายน 2550
2. เห็นชอบในการผูกพันงบประมาณดำเนินโครงการฯ ทั้งรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 2556 เป็นจำนวนเงินงบประมาณ 6,398,287,500 บาท โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ขอตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการฯ ในภาพรวมเป็นรายปีต่อไป
3. เห็นชอบในการเปลี่ยนชื่อโครงการจาก โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เป็น โครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เป็นประธาน และความเห็นของสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาในการดำเนินโครงการนี้ด้วย
กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการศึกษาของนักเรียนทุนตามโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 เฉพาะในส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในวงเงินรวมไม่เกิน 596,698,600 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 นั้นปรากฏว่า ประมาณการ งบประมาณในการดำเนินโครงการฯ จนสิ้นสุดโครงการฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,236,276,426.29 บาท โดยการดำเนิน
โครงการฯ ในเบื้องต้นได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณในการดำเนิน
โครงการฯ ตั้งแต่ปี 2547 2549 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,087,254,726.29 บาท และได้รับงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เบิกจ่ายจากงบกลางฯ อีกจำนวน 596,698,600 บาท จึงยังคงเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าวที่ต้องผูกพันงบประมาณไว้ตลอดโครงการฯ อีกจนถึงปีงบประมาณ 2556 เป็นจำนวน 7,552,323,100 บาท ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการศึกษาของนักเรียนทุนและต่อการดำเนินโครงการฯ ตลอดจนเป็นหลักปฏิบัติสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงศึกษาธิการจึงขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่เสนอดังกล่าว
สำหรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 เกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ นั้น คณะกรรมการโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นได้มีมติในคราวประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 1 / 2550 เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 เกี่ยวกับการปรับปรุงวิธีดำเนินโครงการฯ ดังนี้
1. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานส่วนท้องถิ่นสำรวจความต้องการบุคลากรในสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อรองรับนักเรียนทุนรุ่นที่ 1 และ รุ่นที่ 2 ที่จะสำเร็จการศึกษา และ
เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดสาขาวิชาหรือหลักสูตรให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นในการดำเนินโครงการในรุ่นต่อไป
2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงาน ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจัดระบบการดูแลและติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง สำหรับนักเรียนที่เลือกศึกษาต่อต่างประเทศ หากพบว่าไม่สามารถศึกษาต่อจนจบการศึกษาได้ก็ให้เดินทางกลับมาศึกษาต่อในประเทศไทยทันที ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขระยะเวลาที่กำหนด กล่าวคือ ไม่เกิน 7 ปี นับแต่เริ่มรับทุน
สำหรับการเตรียมความพร้อมแก่ผู้รับทุนนั้น ได้มีการดำเนินการสำหรับนักเรียนทุนในรุ่นที่ 2 แล้ว
โดยสำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้จัดให้มีกระบวนการเตรียมความพร้อมแก่ผู้รับทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยผู้รับทุนที่เลือกศึกษาต่อต่างประเทศจะได้รับการเตรียมความพร้อมด้านภาษา วิชาพื้นฐาน และการเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประเทศที่จะไปศึกษาเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนออกเดินทางไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ
3. สำหรับการดำเนินการในรุ่นต่อไป กระทรวงศึกษาธิการจะนำข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีมาพิจารณาปรับเกณฑ์การคัดเลือกด้วยความรอบคอบต่อไป
จากคุณ :
Pom.com
- [
13 มี.ค. 50 15:54:41
A:210.1.58.8 X:
]