ตามที่คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และกลุ่มสมาพันธ์ต้านรัฐประหาร ที่ประกอบไปด้วย
กลุ่ม 19 กันยา กลุ่มพิราบขาว กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ ได้จัดการชุมนุมชี้แจงข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย
ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม แนวทางพัฒนาประเทศ และรูปแบบของประชาธิปไตย
คือการปฎิวัติรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาบริหาร
ฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 40 ซึ่งเป็นฉบับที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชนไทยทั้งชาติ
ด้วยการชุมนุมโดยสงบ เปิดเผย ต่อเนื่องมานานแรมเดือน โดยปราศจากการกีดขวาง
ความเป็นอยู่โดยปกติสุขของประชาชน ปราศจากการยั่วยุให้เกิดความแตกแยกร้าวฉาน
และปฏิบัติตามกฏหมาย รวมทั้งให้ความร่วมมือ ยกเว้นและหยุดการชุมนุมเป็นระยะ เมื่อ
มีการร้องขอใช้สถานที่ท้องสนามหลวง
แต่ปรากฏว่า ในยามวิกาลต่อเนื่อง เช้ามืดของวันนี้ มีกลุ่มบุคคลแต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงาน
แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเทศกิจกว่า 400 คน บุกเข้ามาที่บริเวณที่ตั้งเวทีของกลุ่มพิราบขาว
ใช้กำลังประทุษร้ายนายนพรุจน์ กับพวก ซึ่งพักผ่อนกันอยู่ที่เต๊นฑ์ดังกล่าวอย่างกักขฬะ หยาบคาย
โดยไม่มีเหตุเร่งด่วนอันควรกระทำในเวลาดังกล่าว และได้ทำการจับกุมนายนพรุจน์ กับพวก
รวม 7 คน พร้อมกับสั่งกองกำลังกว่า 400 นาย รื้อเวทีที่ใช้ทำการปราศรัย อันเป็นทรัพย์สิน
ของกลุ่มพิราบขาว แล้วเอาทรัพย์สินนั้นไปโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย และไม่เป็นไปตามอำนาจ
หน้าที่อันสมควร ทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ว่านายนพรุจน์ และกลุ่มพิราบขาว ได้กระทำการใด
อันจะอ้างว่าเป็นความผิดต่อกฏหมาย และความผิดนั้นร้ายแรงเพียงใด จึงต้องถึงกับยกกำลังจำนวน
มากมาย พร้อมปฎิบัติการจับกุมบุคคลผู้ปราศจากอาวุธ ผู้มีเจตนาชัดแจ้งในการเรียกร้องประชาธิปไตย
แบบป่าเถื่อน รุนแรง ทั้งที่ฝ่ายที่ถูกจับกุมไม่มีทางต่อสู้ขัดขืน และมิได้ต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
เมื่อจับกุมแล้ว กลับไม่ยอมนำไปสอบสวน และควบคุมตัวในสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ คือ
สน.ชนะสงคราม แต่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ กลับพาตัวไปสอบสวนและคุมขังยัง สน.นางเลิ้ง และ
ได้ตั้งข้อหาในการจับกุม อันเป็นเท็จอย่างสิ้นเชิงว่า
1.. ทำร้ายพนักงานเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติงาน
2. ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
การจับกุมอันมิชอบด้วยกฏหมายในยามวิกาล ต่อบุคคลเพียง 7 คน ซึ่งทราบเจตนาชัดเจน
ว่า มาตั้งเวทีชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชน มิได้มีเจตนา
ที่จะกระทำผิดอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใดทั้งสิ้น กลับถูกบุคคลในเครื่องแบบ
บุกรุกเข้ามาในเขตอันเป็นที่ตั้งทรัพย์สินของกลุ่มพิราบขาวในยามวิกาล อันเป็นเวลาที่ไม่
สมควร และปราศจากเหตุผลที่จะกล่าวอ้างใดๆทั้งสิ้น กลับทั้งใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อจับกุม
บุคคล ทั้งยังทำลายทรัพย์สินของกลุ่มพิราบขาวด้วยวิธีการป่าเถื่อน ไม่ชี้แจงแสดงเหตุผล
หากไม่มีการบุกรุกเข้าไปกระทำการอันมิชอบด้วยกฏหมาย ในพื้นที่ที่กันเอาไว้อย่างชัดเจน
เช่นนั้นโดยพลการ และอย่างป่าเถื่อน ก็ไม่อาจจะเกิดการทำร้ายพนักงานเจ้าหน้าที่ และการ
ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างแน่นอน
แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กลุ่มบุคคลป่าเถื่อนที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าพนักงานกว่า 400 ตนนี้
กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยปราศจากการเกรงกลัวกฏหมายบ้านเมือง
ไม่แยแสสิทธิที่ประชาชนจะพึงมีได้ ในการแสดงความคิดเห็น การลุแก่อำนาจเพื่อเอาอกเอาใจ
ผู้ยึดอำนาจ หวังความก้าวหน้าในการงานอันเป็นผลประโยชน์ส่วนตน จนกล้าบังอาจละเมิด
สิทธิอันชอบธรรมของประชาชน เป็นสิ่งที่เลวทรามต่ำช้าอย่างยิ่ง
คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ไม่อาจวางเฉยต่อพฤติกรรมชั่วร้าย ที่ได้กระทำต่อกลุ่มพิราบขาว
โดยนายนพรุจน์ และพวกทั้ง 7 คนนี้ได้ จึงขอประนามพฤติกรรมอันไร้ซึ่งจิตสำนึก ครั้งนี้ และ
ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัว ผู้ถูกจับกุมอันมิใช่ชั่วคราว แต่เป็นการปล่อยตัวโดยเด็ดขาด
ยกเลิกข้อกล่าวหาที่บิดเบือนและเป็นเท็จ เจตนากลั่นแกล้งบุคคลเหล่านี้โดยทันที อีกทั้งให้
คืนทรัพย์สินอันเป็นของกลุ่มพิราบขาว ที่ยึดเอาไปโดยพลการ โดยปราศจากเหตุผลที่เพียงพอ
ในทันทีเช่นกัน
หากมิฉะนั้นแล้ว เป็นสิทธิอันเด็ดขาดและชอบธรรมของกลุ่มคนวันเสาร์ และสมาพันธ์ต้าน
รัฐประหารทั้งมวล พร้อมกับกลุ่มแนวร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วประเทศ จะพิจารณา
ในอันที่จะรวมตัวกัน เดินทางไปเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ประธาน คมช. รวมตลอดถึง
เดินทางไปเรียกร้องต่อประธานองคมนตรี องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จนกว่าข้อเรียกร้องดังกล่าว จะได้รับการปฏิบัติตามอย่างไม่มีเงื่อนไข
ประกาศมาณ วันที่ 15 มีนาคม 2550
กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ
จากคุณ :
ไม่มายด์
- [
15 มี.ค. 50 20:01:58
A:125.25.101.117 X:
]