ความคิดเห็นที่ 1 มีคนรู้จักอยู่ข้างบ้าน เคยได้คุยกับเขา เขาคุยว่าเขาดูรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เขาเกลียดทักษิณ ทักษิณโกงและกำลังจะขายประเทศถ้าทักษิณอยู่ประเทศไทยต้องล้มจมเหมือนอาเจนตินาแน่  เพื่อนข้างบ้านนี้บูชาและเชือในทุกอย่างที่กะทิพ่นให้ฟังชนิดใครแตะกะทิหรือมีความคิดเห็นค้านไม่ได้เลยแก่จะเถียงแทนกะทิชนิดคอเป็นเอ็นเชียวแหละ และครอบครัวเพื่อนบ้านนี้สามีเขาเล่นหุ้น  ทุกๆวันจะอยู่ที่หน้ากระดานตลาดหุ้น ส่วนตัวเขาเองเพาะพันธุ์สุนัขขาย จากวันนั้นถึงวันนี้ เพื่อนข้างบ้านคนนี้ตอนนี้ประกาศขายบ้าน เลยถามว่าทำไหมต้องขาย เขาบอกตอบมาว่าแฟนของเขาเจ๋งหุ้นและมีหนี้สินนอกระบบ เขาจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ มีเสียงบ่นเบาว่าชักเสียดายทักษิณ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 50 19:28:50 จากคุณ : border - [ 16 มี.ค. 50 19:33:41 A:203.113.44.84 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปลายเดือนนี้ มีประชุมหอการค้าไทย อาจมีรายการวางมวยระหว่างกลุ่มหนุนปฏิวัติ กับกลุ่มเกลียดทหารก็เป็นได้ คิดอยู่ว่าจะโผล่กบาลไปดีไหม ขณะเดียวกันอาจมีการรวมกลุ่มลงขัน หาทุนล้ม รัฐบาลเถื่อนก็เป็นได้  ว่าแล้วอยู่ห่างๆดีกว่า กลัว.... แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 50 19:40:43 จากคุณ : ขยะสังคม - [ 16 มี.ค. 50 19:37:28 A:210.246.81.63 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้ส่งออกทุกคนที่ไม่ได้ทำสัญญา FORWARD หรือ OPTION ไว้ ก็ย่อมขาดทุนเมื่อมีการบันทึกบัญชีตามอัตราแลกเปลี่ยน ในวันที่ ลูกหนี้ขำระเงินเข้้ามาทั้งนั้น รู้อยู่ว่าเงินมันจะแข็ง แต่ไม่ป้องกันความเสี่ยงไว้ ผู้ส่งออกไทยนี่ก็แปลกจัง จากคุณ : เซรุ่มน้ำปลาหวาน - [ 16 มี.ค. 50 19:49:13 A:203.146.82.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 คห.3 คะ ขอความรู้นะคะ การทำป้องกันความเสี่ยงแบบนี้ ทำได้ 100%` หรือไม่คะ ขอเป็นความรู้หน่อยค่ะะ จากคุณ : asterisk - [ 16 มี.ค. 50 20:00:37 A:124.120.183.119 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 http://www.oknation.net/blog/tiger/2007/03/16/entry-5 "คน กับ ปลวก" จากคุณ : พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง - [ 16 มี.ค. 50 20:01:15 A:124.121.35.157 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำอย่าง คห 3 ก็ได้ครับ แต่คุณรู้ไหมต้นทุนทางการเงินมันเพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการรายย่อย ขนาดกลาง ทำไปก็ไม่คุ้มครับ เป็นการเพิ่มต้นทุนทางการเงิน การผลิต มีอย่างเดียวตอนนี้ก็คือ ลดรายจ่าย ถ้าเป็นสินค้าเกษตรก็ต้องกดราคา ชาวรากแก้ว ที่กุดๆ ลงไปอีก ระวังนะครับ เมื่อรากแก้ว ตาย พวกศักดินาทั้งหลายจะเดือดร้อน จากคุณ : หนุมานมาเอง - [ 16 มี.ค. 50 20:10:25 A:222.123.205.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 It is possible to hedge the risks 100%, but the cost of hedging sometimes can be very expensive. For example, if we know for sure that our cost is Baht 80. At the time of export, we quote USD 2. But we would like to be sure that after, say 2 months, we will get paid USD 2 and it will be converted to Baht 80 exactly. We can buy a forward option. However, if during that time, USD is stronger say to USD 1 = Baht 50. Instead of getting Baht 100, we will still get Baht 80. จากคุณ : giuseppe (Giuseppe) - [ 16 มี.ค. 50 20:11:03 A:163.166.137.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตห 4 ครับ ขแบคุณครับ ขอตอบว่า ทำได้เต็มจำนวนครับ ถ้าผู้ส่งออกขอทำ FORWARD ก็แปลว่า ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนขณะที่กำลังทำ ที่เรียกว่าอัตราตลาดอยู่ที่ 36 บาท เขาก็จะคิด PREMIUM คือบวกเพิ่มให้ หรือคิด DISCOUNT คือหักออกจาก เงิน ืั้เป็นฐ่าน 36 นั้น ขึ้นอยู่กับสภาวะอัตราดอกเบี้ยระหว่างตลาดใน และตลาดนอก เรื่อง PREMIUM OR DISCOUNT มันยาว ขอให้ศึกษาข้ามไปว่า เมื่อตกลงทำ FORWARD ก็ต้องมีการทำส่งมอบอย่างแน่นอนตาระยะเวลา หรือภายในช่วงเวลาที่สัญญาไว้ ห้ามเบี้ยว  ดังนั้นไม่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะเหลือ 34.80 เหมือนในปัจจุบัน ก็จะได้รับเงิน 36 บาท บวกลบ เล็กน้อย ส่วน OPTION ที่เรียกว่า OPTION ประเภท PUT  หรือที่้วงการเงินเรียกว่า OPTION PUT คือ OPTION วางขาย USD ในวันข้าหน้าหรือไม่ก็ได้ ถ้าผู้ส่งอออกได้เปรียบ คือตลาดมันอ่อนไปถึง 37 บาท ก็เลือกไม่ต้องใช้สัญญา OPTION ถ้าตลาดมันแข็งอยู่ที่เหมือนปัจจุบัน ก็เลือกใช้สัญญา..เลือกใช้ หรือไม่ใช้ได้ว่าง้าน ส่วนถ้าไม่ได้หป้องกักนอะไรเลิย ก็ต้องลงบัญชีปกติ คือ  DR ลูกหนี้  36.00 บาท เพราะยังไม่จ่าย            CR รายได้จากการสินค้าต่างประเทศ  36.00 เมื่อเขาจ่ายเงินก็ต้อง REV. บัญชีที่ยังไม่แท้ออกคือ    DR. เงินสด              34.80        ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.20                      CR.  ลูกหนี้การค้า    36.00 บาท ถ้าป้องกันก็ไม่ต้องมีขาดทุนเพราะสามารถทราบได้ล่วงหน้า แน่นอนเพราะ FIX หรือมีแต่กำไร กรณี OPTION อย่างนี้แล พวกผู้ส่งออกที่บ่นน่ะ เด็ก ๆ จากคุณ : เซรุ่มน้ำปลาหวาน - [ 16 มี.ค. 50 20:22:39 A:203.146.82.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 การทำป้องกันความเสี่ยงมีต้นทุนทางการเงินอยู่บางส่วนครับ ผมทราบว่าธุรกิจส่งออก กำไรกันไม่มาก 3-5% โดยส่วนใหญ่  ดังนั้น เขาก็คงไม่อยากเสียเงินประกันความเสี่ยงตรงนี้   ก็เหมือนตอนปี 2539 ที่พังกันไปนั่นแหละครับ กู้เงินเป็นหมื่นล้าน ก็ไม่อยากเสียเงินหลักร้อยล้านเพื่อประกันความเสี่ยง พอเงินบาทอ่อนลงไป  สุดท้ายก็เจ๊งกันหมด เหตุผลคือบ้านเราส่งสินค้าที่ไม่มีตรายี่ห้อออกไป เลยต้องแข่งขันที่ราคาเป็นหลัก  ทางแก้ไขคือต้องสร้างตราสินค้า หรือไม่ก็เจาะตลาดพิเศษเฉพาะด้าน  อย่างสินค้า OTOP และอื่นๆ ก็เป็นความพยายามของรัฐบาลก่อนที่พยายามทำเอาไว้ครับ อย่าพูดถึงรัฐบาลนี้เลยครับว่าทำอะไรไว้บ้าง จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 16 มี.ค. 50 20:29:31 A:124.120.74.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมครับ ก่อนขอทำควรมีวงเงิน FX LINE ไว้ด้วย นอกจากงเงิน EXPORT พื้นฐานคือ EBP และ P/C แล้ว ค่า FORWARD/ DISCOUNT ให้สอบถามธนาคารก่อนทำสัญญา ถ้าบอกว่า เหรียญละ 5 สตางค์ต่อเวลา 30 วัน กี่วัน ก็เทียบตามบรรญัติไตรญางค์(PRO RATA) ดูเอานะครับ คือให้ 5 สตางค์ต้องดูว่ามันเป็นกี่เปอร์เซนนต์ของ 36 บาท ด้วยครับ อ้อ 5 สตางค์น่ะสมมุตน่รับอาจสูงหรือต่ำก่วานี้ได้ จากคุณ : เซรุ่มน้ำปลาหวาน - [ 16 มี.ค. 50 20:33:03 A:203.146.82.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 โทษครับ SMEs จะเอาปัญญาที่ไหนมาประกันค่าเงินครับ??? แค่ต้องตัดราคาแข่งกับจีน แข่งกับ อินเดีย แค่นี้ ก็อ๊วกแตกอ๊วกแตนกันไปค่อนประเทศแล้วครับ กำไรน้อยเท่าหอยมด ขายเอากำไรกันที่วอลุ่ม ถ้าไม่ได้ทำส่งออกจริง ๆ ไม่มีทางเข้าใจ ภาครัฐไม่ช่วยอะไรเลย ไม่อยากบ่น...มันยาวววว จากคุณ : นายน้ำเหนือ - [ 16 มี.ค. 50 20:39:15 A:124.120.135.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับท่านที่มีกิจการส่งออกก็สามารถขอเปิด บัญขี FCD (FOREIGN CURRENCY DEPOSIT ACCOUNT) คือพอส่งออกไ้ด้ USD1.00 ก็เก็บไว้ในบัญชี  พอจะซื้อวัตถุดิบก็จ่ายเงิน 1USD นี้ออก วิธยี้จะเสียค่าธรรมเนียมทดแทนจากการขาอรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน (IN LIEU OF EXCHANGE COMMISSION) ที่ธนาคารจะเรียกเก็บประมาณ 1/4 เปอร์เซนต์ ทั้งเข้า และออกจากบัญชี จากคุณ : เซรุ่มน้ำปลาหวาน - [ 16 มี.ค. 50 20:41:17 A:203.146.82.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 การจัดทำธนาคารจะแนะนำให้ เราก็แค่คำนวณว่า ไอ้ ห้าสตางค์ ที่เขาบอกน่ะมันเป็นกี่เปอร์เซนต์ของเงิน 36 บาท                 36           =  100     %                    0.5         =  100 x 0.5 หาร 100                              =    1.388 % ต่อ 30 วันของเงิน 36 บาท (แก้ไขตามตัวอย่างห้าสตางค์ต้องเป็น 0.05 ครับ ดังนั้นผลการคำนวณ ไม่ใช่ 1.388 แต่ 0.1388% ต่อ 30 วัน เองครับ)  แก้ไขวันที่ 19 มีนา เวลา 7.26////////////                               เปรียบเทียบดู  แล้วตรวจสอบการชดเชยที่รัฐบาลจะใหว่ากี่เปอร์เซนต์ ้มาผสม อนึ่ง cost อย่างนี้บวกซึมเข้ากับราคาต่อหน่วยได้ถ้าสินค้าเหมาะ บางคราวอาจได้ค่า PREMIUM เพิ่มจากราคาฐานด้วย ส่วนภาษีส่งออกเสีย vat แค่ 0 เท่านั้น ภาษีซื้อต่าง ๆ ได้คืนหมดอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 50 07:27:42 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 50 22:27:52 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 50 21:04:55 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 50 21:00:16 จากคุณ : เซรุ่มน้ำปลาหวาน - [ 16 มี.ค. 50 20:51:47 A:203.146.82.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอวกกลับมาตอบกระทู้ก่อนนะ ส่วนใหญ่จะถามว่า เป็นไง ยอดดีไม๊ ขายเป็นไง แล้วก็ ไม่อยากจะพูดกัน มีแต่เสียงถอนใจ เฮ่ออออ ตอนนี้สินค้าเราก็ดูจะแพงขึ้นในสายตาต่างชาติ มิหนำซ้ำดันโดนอ้างเรื่องระบบเผด็จการอีก เขาก็ไม่อยากคบค้ากับประเทศที่การเมืองยังไม่คงที่ ก็ได้แต่ฟังเสียงถอนใจของเพื่อนฝูง แล้วก็เครียด จากคุณ : ป้าเหมียว - [ 16 มี.ค. 50 21:12:13 A:203.118.101.58 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบจากทุกท่าน จากคุณ : asterisk - [ 16 มี.ค. 50 21:19:35 A:124.120.183.119 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ที่คุณป้าเหมียวพูดก็มีส่วนถูกนะคะ แถวบ้านดิฉัน มีโรงงานการ์เมนท์อยู่โรงงานหนึ่ง มีพนักงานประมาณ 250 คน ปกติเห็นที่นี่ทำงานทั้งวันทั้งคืน อย่างน้อยก็เลิก 3 ทุ่ม นี่คือร็วสุดนะคะ ถ้าช่วงงานเร่งๆ ซึ่งเมื่อก่อนก็น่าจะ 4-5 เดือน ต่อปี ไม่มีการนอนเลยค่ะ เร็วสุดปิดเที่ยงคืน แต่ทำจนสว่างนี่บ่อยมาก ตอนนี้ลดพนักงานแล้ว จาก เมื่อเดือนที่แล้วเหลิอ 20 คน ตอนนี้เลิกจ้างหมดค่ะ แต่ลูกจ้างก็เข้าใจเจ้าของโรงงานนะคะเพราะแกเป็นคนดีมาก แกบอกว่า ไปจ้างที่ลาว กะละ 40 บาท ที่นี่ 190 แล้วค่าเงินแบบนี้ ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แกจำเป็นต้องทำจริงๆ ส่วนอีกซอยถัดไป มีอยู่ 2 หรือ 3 โรงงาน เลิกจ้างมาก่อนนี้แล้วค่ะ น่าเห็นใจนะคะ จากคุณ : asterisk - [ 16 มี.ค. 50 21:51:59 A:124.120.183.119 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ประเมินจาก 3 โรงงานนี้ คิดว่าน่าจะมีคนถูกเลิกจากเกอน 500 คน บางคนได้งานที่ใหม่แต่ค่าจ้างถูกกว่า บางคนยังไม่ได้ ผลกระทบที่ตามมาคือ ร้านค้าที่เคยขายของให้คนพวกนี้ ตอนนี้รายได้ก็ลดลงไปด้วย เมื่อก่อนเคยมีรถมาเร่ขายของ ขายอาหารทุกวัน ตอนนี้เงียบกริบ เห็นภาพแบบนี้แล้วหดหู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : asterisk - [ 16 มี.ค. 50 21:54:58 A:124.120.183.119 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมนำเข้าก็ร้องเหมือนกัน แย่แค่ไหนช่วงนี้ จากคุณ : I.Brother - [ 16 มี.ค. 50 21:58:28 A:58.8.191.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอ้าไหน  ปีที่แล้ว ใครเดินตามธิ ไปสนามหลวงบ้างยกมือขึ้น เย้ จากคุณ : pockz - [ 17 มี.ค. 50 02:01:41 A:125.25.189.139 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 บางบริษัท ลดคนแล้วค่ะ บางบริษัท ลดเงินเดือน บางบริษัท ก็ปิดไปแล้ว ข่าวจากแวดวงเพื่อนฝูงที่คุยกัน ไปเรียนสนธิ มากู้ชาติเถอะค่ะ จากคุณ : มือปราบแมว - [ 17 มี.ค. 50 13:45:37 A:137.8.4.12 X:203.152.50.194 ]

ความคิดเห็นที่ 22 555 ( หัวเราะทั้งน้ำตา เพราะตอนนี้บริษัทที่ทำงานก็เจอกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ) จากคุณ : คน4จังหวัด - [ 17 มี.ค. 50 17:33:06 A:124.157.227.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณ ทุกท่านที่มาแสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์   เท่าที่อ่านจากทุกคน   ได้ความรู้สึกว่าพวกเรากำลังประสบภัยทางเศรษฐิจ  กำลังคุกคาม รุกคืบมาแล้ว    มีปรากฏการณ์ ปิดบรืษัท  ปลดคนงาน.. สินค้าขายไม่ได้..หรือขายได้น้อยลง ปล..ให้กำลังใจ  คุณ 22  ที่บอกว่า หัวเราะทั้งน้ำตา พวกคนชุดเขียว  ชุดเทา ชุดกากี  เขาจะรู้ไหมนะ จากคุณ : OverPerfect - [ 18 มี.ค. 50 20:44:53 A:58.9.162.228 X: ]