เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 มีนาคม พ.ต.ต.เฉลิม ยิ่งคง สารวัตรเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพในบ้านพักเลขที่ 81 ม.1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายเครื่องดื่มและสุรา ตั้งอยู่ริมถนนสายยี่งอ-รือเสาะ ที่เกิดเหตุพบศพนายชรินทร์ เงานอ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่หน้าตู้เย็น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 2 นัด อีกศพคือนางระเบียบ เงานอ อายุ 68 ปี ภรรยา นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ประตูเข้าบ้านพัก มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ที่บริเวณศีรษะ 2 นัดเช่นกัน

ต่อมาในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหาหลักฐานอยู่ภายในบ้านพักจุดเกิดเหตุ พบวัตถุต้องสงสัยบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบหูหิ้วสีดำวางอยู่ใกล้ศพนางระเบียบ ทางเจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังออกมาจากที่เกิดเหตุ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าระเบิดได้ทำงานขึ้นก่อนที่จะเข้าตรวจสอบ ทำให้ศพของนางระเบียบ ถูกสะเก็ดระเบิดซ้ำจนร่างกายฉีกขาดแหลกเหลว จากนั้นจึงเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุไว้ในท่อพีวีซี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 3 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 2 กิโลกรัม จุดชนวนระเบิดด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ลูก ที่คนร้ายประกอบไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล แอบนำไปวางไว้ในกระติกน้ำแข็งสีเขียวหน้าบ้านพัก จึงได้เข้าทำการเก็บกู้ จนสามารถเก็บกู้ได้ทันก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น โดยพบว่าภายในกระติกดังกล่าว คนร้ายได้ทิ้งจดหมายไว้ด้วยจำนวน 1 ฉบับ เขียนเป็นข้อความภาษาไทย มีใจความว่า "เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของคนกลุ่มรัฐปัตตานี"

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน มาจอดที่หน้าบ้านพัก ซึ่งเปิดเป็นร้านขายเครื่องดื่มและสุรา โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย 2 คน เดินเข้ามาทำทีขอซื้อสินค้า เมื่อสบโอกาสคนร้าย 1 ใน 2 คน ได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงที่ศีรษะของผู้ตายทั้งสองคน คนละ 2 นัดเสียชีวิตคาที่ โดยก่อนที่จะหลบหนีไป คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องจำนวน 2 ลูกวางไว้ในบ้านพักและบริเวณหน้าบ้าน เพื่อสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเห็นก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น 1 ลูก และเก็บกู้ไว้ได้ทันอีก 1 ลูก ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วม กลุ่มอาร์เคเคที่ต้องการแก้แค้นให้กับสมาชิก ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวไปจำนวนหลายรายในพื้นที่ อ.ระแงะ



http://www.komchadluek.net/scripts/hotnewskcl.php?newsid=251395