ความคิดเห็นที่ 1
ข้อความบนกระดาษขาว 1 แผ่นที่สอดมาในซองเอกสารที่ "ท่านพันเอก" ส่งมาให้ ทำให้ผมบรรยายความรู้สึกตัวเอง ที่มีต่อกองทัพ และทหารส่วนใหญ่ ไปจนถึงทหารส่วนน้อย ไม่ถูก
หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ น่ะครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของ "ท่านพันเอก" ดี
ด่าแม่ทัพที่ทำผิด แม่ทัพไม่รู้สึก แต่ทหารทั้งกองทัพกลับสะเทือนใจ
แล้วต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี จะด่าเหมารวม ก็เกรงใจ"ท่านพันเอก" จะด่าเรียงตัว ก็ไม่รู้มีกี่ตัว เอ๊ย กี่คน ที่ทำชั่ว ทำผิด คิดร้ายต่อประชาชน และประเทศชาติ
เรื่องนี้พักไว้ก่อนดีกว่า เอาไว้สมองโปร่งๆ แล้วค่อยคิดว่าจะด่ากันอย่างไร ไม่ให้"ท่านพันเอก" และทหารดีๆ จำนวนมาก ต้องสะเทือนใจไปด้วย
สนใจเอกสารในซองกันดีกว่าครับ
ผมบอกทีมงานว่าเราต้องทำหน้าที่ของเรา ตามเจตนารมณ์ที่ "ท่านพันเอก" ต้อง การให้เป็น คือ
เปิดเอกสารเหล่านี้ให้ประชาชนทราบทั่วกัน
เอกสารชุดแรก ที่นำมาเปิดให้ชมกันในวันนี้ มีชื่อเรียกว่า ชุด การจัดวางกำลังและจัดตั้งงบประมาณ ของกองทัพภาคที่ 1
กองทัพภาคที่ 1 อีกแล้ว แหม....ช่างบัญเอิญแบบพอดิบพอดีกันเสียนี่กระไร
พอเปิดดูเอกสารที่เหลือ อีกกองใหญ่
ผมถึงกับตาเหลือก ตายละวา.... เกือบทั้งหมดในซองนี้ มันเอกสารของกองทัพภาคที่ 1 ทั้งนั้นเลยนี่นา
ผมลงไปหมดนี่ ท่านแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคืองผมแย่หรือนี่
ผมกับท่านก็ไม่ได้เคยมีอะไรต่อกัน รู้จักก็ไม่รู้จัก รักก็ไม่ได้รัก ชังก็ไม่ได้ชัง แต่ทำไมต้องมาเจอกันในสภาวะเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้
เมื่อตาหายเหลือก ก็กลับมาเรียบเรียงเอกสาร ส่งเข้าเครื่องแสกน เพื่อนำขึ้นมาโชว์ กันใหม่ ว่ากันไปทีละเรื่องนะครับ
วันละเรื่องน่าจะพอดีพอเหมาะ กับความแรงของหัวใจที่เต้น ดูที่เดียวหมดนี่ หัวใจจะพาลหมดแรงเต้นเสียเปล่า เพราะฉนั้นสัปดาห์หน้าที่จะมาถึงนี้ เราจะได้มาช่วยกันขยำขยี้ ชี้ประเด็นไม่ชอบมาพากล กันอย่างละเอียดทุดเม็ด ทุกดอก ทุกซอก ทุกมุม
กลับมาที่เอกสารชุดที่ 1 "การจัดวางกำลังและจัดตั้งงบประมาณ" ที่ "ท่านพันเอก" ตั้ง ใจนำเสนอ และ ผมภูมิใจถ่ายทอด
สาระสำคัญของเอกสารชุดนี้ ซึ่งได้บรรยายกันในห้องประชุมกองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน ก็คือ การจัดวางกำลังทหารของกองทัพภาคที่ 1 ให้กำกับเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหว รายงานความผิดปกติ ตลอดจนดำเนินการตามความเหมาะสมเมื่อประสบเหตุและสถานการณ์ต่างๆ
พื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดรอบนอก ก็คือภาคกลางทั้งหมด รวม 25 จังหวัด (ดูรายละเอียดในเอกสารแล้วกัน จะได้เป็นความรู้ด้วยว่า ชีวิตเรา บ้านเรา ตกอยู่ในกำมือของพล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ด้วยหรือไม่)
สาระสำคัญที่น่าสนใจสำหรับผม ในเอกสารชุดนี้ก็คือ เอกสารแผ่นที่ 18 , 19 และ 20 ซึ่งเป็นการกำหนดวงเงินงบประมาณสำหรับการทำงานของทหาร ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ กองทัพภาคที่ 1 (ศปก.ทภ.1) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (ศปก.คมช.) ซึ่งมี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. เป็นผู้อำนวยการศูนย์
งบประมาณที่ตั้งไว้ แบบตั้งใจผลาญ ก็ไม่มากไม่มาย (ในสายตาของท่านแม่ทัพ) ใช้เงินภาษีประชาชน แค่ 319,100,000 บาท เท่านั้น (อ่านว่าสามร้อยสิบเก้าล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) แบ่งเป็นงบประมาณสำหรับการปฏิบัติการ 3 ส่วน ตามลักษณะการดำเนินงาน
1. กรุงเทพฯ วงเงิน 64,900,000 บาท สำหรับปฏิบัติการในชุมชน ชุมชนละ 35,000 บาท
2. ต่างจังหวัด วงเงิน 212,300,000 ล้านบาท สำหรับปฏิบัติการในหมู่บ้าน หมู่บ้านละ
13,000 บาท
3. งบอำนวยการ สำหรับการประสานการปฏิบัติงาน กำกับดูแล จัดทำห้องปฏิบัติการ
อีก 41,900,000 บาท
รวมแล้วเป็นเงิน 319,100,000 บาท พอดิบพอดี
เงินจำนวนนี้ เป็นงบประมาณพิเศษ สำหรับกองทัพ ที่ คมช. สั่งแบบขอร้องให้รัฐบาลจัดหามาให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อติดตามหาข่าว และสกัดกั้นกลุ่มอำนาจเก่า หรือ คลื่นใต้น้ำ ไม่ใช่งบประมาณปกติ
พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ถ้าไม่มีรัฐประหาร ประชาชนก็ไม่ต้องจ่ายภาษีเพื่อให้กองทัพ นำไปใช้เพื่อปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะมาลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั่นเอง และอาจจะลุถกลามบานปลายไปถึงขั้นใช้เงินจำนวนนี้ปลุกระดมประชาชนให้ฆ่าฟันกันเอง ก็เป็นได้
แทนที่รัฐจะนำเงินภาษีประชาชนไปให้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศด้านอื่นๆ ไปสงเคราะห์คนชรา ให้ทุนการศึกษาเด็กนักเรียนยากจน ช่วยคนปัญญาอ่อน ผ่อนหนี้ต่างประเทศ หรือทำอะไรก็ได้ ผมเชื่อว่าก็น่าจะดีกว่า เป็นประโยชน์กว่าที่นำไปให้กองทัพ ใช้กับการปฏิบัติการพิเศษ แบบนี้
ที่สำคัญคือ งบประมาณจำนวนนี้ ก็ไม่แตกต่างจากงบลับ คือ ใช้แล้วหมดไป โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งๆ ที่จะตรวจสอบกันจริงๆ ก็ตรวจสอบได้ เพราะเป็นการจ่ายเงินให้กำลังพล และชาวบ้านที่มาร่วมกิจกรรมกับกองทัพ หรือเป็นแนวร่วม ต้องมีรายชื่อ และลงลายมือชื่อรับเงิน แต่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ยุคนี้ มีหรือจะกล้าตรวจสอบการใช้งบประมาณของกองทัพ
นี่เฉพาะรายการค่าใช้จ่ายของกองทัพภาคที่ 1 นะครับ หมดไปแล้ว 319,100,000 บาท แล้วอีก 3 กองทัพภาค ละครับ กองทัพภาคที่ 2 เฝ้าระวังพื้นที่ภาคอีสาน กองทัพภาคที่ 3 เฝ้าระวังพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งถูกสั่งให้จับตา และปฏิบัติการชุมชน เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นฐานเสียงสำคัญของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พรรคไทยรักไทย จะต้องใช้จ่ายมากมายกว่านี้อีกเท่าไร กองทัพภาคที่ 4 ก็ต้องใช้ไม่น้อย กับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
รายละเอียดของแผนปฏิบัติการเป็นอย่างไร จ่ายค่าอะไรกันบ้าง ใครเป็นคนรับ ใครเป็นคนจ่าย ใครเป็นคนได้ เหลือเศษ (งบอำนวยการ) เก็บไว้กับใคร อ่านกันได้ ตรวจสอบกันให้ดี จากเอกสารที่ "ท่านพันเอก" ส่งมาให้นี่ล่ะครับ
ผมเห็นแล้ว พูดไม่ออก บอกไม่ถูก มันพะอืดพะอม ครับ
นั่งดูเอกสารมาถึงตรงนี้ ผมถึงร้องอ๋อออกมาทันที ไอ้งบจำนวนนี้ เงิน 319,100,000 บาท นี่แน่ๆ เลย ที่เป็นปัจจัยในการระดมมวลชนนับแสนคน มาเป็นพลังเงียบให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรัฐประหาร เอาไว้คุยโม้โอ้อวด คุยใหญ่คุยโต คุยข่มไปทั่ว ว่ามีพลังมวลชนนับแสน ให้การสนับสนุน
ไม่รอช้า ผมรีบติดต่อถึง "ท่านพันเอก" ทันที คำตอบที่ได้รับคือ ผมคิดเหมือน คิดตรงกับแม่ทัพภาคที่ 1 ไม่ผิดเพี้ยน
เงินจำนวนนี้คือ เงินที่กองทัพนำไปสร้างฐานมวลชน จริงๆ ลอกรูปแบบ เลียนวิธีการมาจากการจัดตั้งหัวคะแนนของนักการเมือง นั่นเอง
พระเจ้าช่วย... ไม่ได้สิ คิดอีกที ใครก็ได้ช่วยที
กองทัพบก กำลังจะกลายเป็นพรรคการเมืองไปแล้วหรือนี่
ใช้เงิน 319,100,000 บาท จัดตั้งฐานเสียง สร้างพลังมวลชน ปลุกระดมประชาชน ทั่วทุกหมู่บ้านในต่างจังหวัด ทั่วทุกชุมชนในกรุงเทพฯ
ถามสักคำเถิดท่านแม่ทัพ ท่านจะเอาพลังมวลชนไปทำอะไร
ไปต่อสู้กับข้าศึก อริราชศัตรู ผู้รุกล้ำทำลายอธิปไตยของชาติไทยที่ไหนหรือครับ
ในเมื่ออธิปไตยของคนไทย ชาติไทย ท่านได้ทำลายย่อยยับไปกับมือของท่านเองหมด แล้ว
เห็นเอกสารแล้ว มึนครับ มึนจริงๆ ไม่ได้แกล้งมึน เขียนอะไรไม่ถูกแล้วครับ
ให้ท่านผู้อ่านเขียนให้ผมอ่านบ้างดีกว่า
วันจันทร์นี้ พบกับเอกสารชุดที่ 2 ครับ ผมตั้งชื่อเอกสารชุดที่ 2 ว่า "ปฏิบัติการนปอ."(ดูเอกสารตัวอย่างคลิ๊ก ที่นี่)
ชุดที่ 2 นี้ จะทำให้ท่านทราบว่า กองทัพบก ได้ทำการแบ่งกรุงเทพ เป็น 3 ส่วนแล้ว คือ ส่วนพื้นที่สีแดง ส่วนพื้นที่สีเขียว ส่วนพื้นที่เหลือง แต่ละสีบ่งบอกความเข้มข้นอย่างไรแค่ไหน ท่านคงพอเดาได้
"ปฏิบัติการนปอ." จะเฉลยให้ท่านทราบว่า ใครบ้างที่ตกเป้าหมายของนปอ. มีการโชว์ภาพตัวอย่างบุคคลเป้าหมายไว้ครบถ้วน บ้านพักอาศัย ที่ทำการพรรคการเมือง พื้นที่หาข่าวของของทหาร อยู่ตรงไหน
สำคัญที่สุดคือ "ปฏิบัติการนปอ." จะเป็นหลักฐานให้ทุกท่านได้รับทราบว่า คณะรัฐประหาร ปิดกั้นสื่อ อย่างไร
ทำไมเราจึงไม่ได้รับทราบข่าวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากสื่อต่างประเทศ ในขณะที่ สื่อต่างประเทศให้ความสนใจติดตามและรายงานข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ตลอด ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันนี้
พบกันใหม่วันจันทร์ ครับ
ปล. เอกสารที่ "ท่านพันเอก" ส่งมาให้นี้ อันที่จริงผมก็อยากให้นายทหารที่เกี่ยวข้อง ช่วยชี้แจงด้วยว่าชื่อย่อแต่ละชื่อ ศัพท์ทางทหาร แต่ละคำแปลว่าอะไร แต่ขอร้องว่าอย่าปฏิเสธแบบเหมารวม โดยไม่อ่านรายละเอียด เพราะยังมีเอกสารอีกหลายชุด ไว้ให้ท่านชี้แจง
นายทหารที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ทราบว่าคืออะไร ช่วยให้ความรู้แก่ชุมชนแห่งนี้ ก็ไม่ผิดกติกา และจะเป็นพระคุณยิ่ง
อีกประการหนึ่งก็คือ เอกสารชุดนี้ และชุดต่อๆไปที่จะนำเสนอ อาจจะกระทบความมั่นคง แต่ก็เป็นความมั่นคงของคมช. ไม่ใช่ความมั่นคงของชาติ เพราะว่า คมช. ไม่ใช่ ชาติ ดังนั้น จึงอย่าใช้เหตุ หรือ อ้างเหตุความมั่นคของคมช. ปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน นะครับ
ประชาชนจำเป็นต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและพฤติการณ์ของกองทัพ เนื่องจากว่าเป็นปฏิบัติการที่กระทบถึงสิทธิมนุษยชน และสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
ประดาบ http://www.hi-thaksin.org/contentdetail.php?ParamID=35323
จากคุณ :
ไม่หวั่นแม้วันมามาก
- [
4 พ.ค. 50 22:47:58
A:61.91.35.108 X:
]
|
|
|