PANTIP.COM : P5465102 ว่าที่แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนต่อไป..สำรวจความเห็นครับ. [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 6

กระบวนการ ขั้นตอนล้มล้างคุณทักษิณและพรรคไทยรักไทยมีดังนี้
1. สร้างกระแส แนวร่วม ปลุกปั่นโดยให้นายสนธิเริ่ม โดยใช้รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมฯ สัญจร เพราะนายสนธิเป็นคนมีจิตวิทยาในการพูดชวนเชื่อ โน้มน้าว ชักจูงสูง
2. ให้ผู้มีบารมี นักวิชาการ อาจารย์ต่างๆ พรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งคอลัมภ์นิสต์หนังสือพิมพ์ ผู้จัดรายการวิทยุ โทรทัศน์ เอ็นจีโอ สิทธิมนุษยชน ออกมาโจมตีรัฐบาลไทยรักไทยทั้งทางจัดสัมนา ให้สัมภาษณ์ เขียนบทความโจมตี โดยใช้สื่อต่างๆที่เป็นแนวร่วม และรวมทั้งปลุกปั่นล้างสมองนักศึกษา ลูกศิษย์ในห้องเรียนของสถานศึกษาต่างๆ โดยใช้การขายชินคอร์ปให้สิงคโปร์ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ที่ไม่ต้องเสียภาษีมาบิดเบือนข้อเท็จจริง และโยงไปถึงกรณีการโอนหุ้นให้บุตร และมีการประกาศชูจริยธรรม และเศรษฐกิจพอเพียงฯลฯ
3. เมื่อนายสนธิจัดดำเนินการม็อบติดแล้ว รุกคืบโดยการจัดเวทีประท้วง อย่างต่อเนื่อง มีการดำเนินการเคลื่อนกลุ่มม็อบเพื่อยั่วยุรัฐบาลทักษิณให้ใช้ความรุนแรง โดยมีทีพีไอ แชร์ชาเตอร์เป็นนายทุนใหญ่และนายอภิรักษ์ ผู้ว่า กทม. แอบช่วยอำนวยความสะดวกเงียบๆ
4. ให้พรรคฝ่ายค้านไม่เล่นตามกติกา ไม่ร่วมประชุม หรือภิปรายในสภา แต่ออกมาร่วมปราศัยในเวทีพันธมิตรฯที่สนามหลวง
5. ดำเนินการเซาะพลัง ความเชื่อถือของพรรคไทยรักไทย โดยการให้ผู้มีอำนาจบารมี บีบบังคับให้แกนนำพรรคไทยรักไทย ที่เป็นที่เชื่อถือของสังคม เช่นนายสมคิด นายบวรศักดิ์ นายวิษณุ นายเปรมศักดิ์ฯลฯ ลาออกจากไทยรักไทย
6. หลังยุบสภา จัดให้มีเลือกตั้ง ให้พรรคฝ่ายค้านต่อต้าน ขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ชักชวนให้โนโหวต นักวิชาการอาจารย์ แนวร่วมอื่นๆ กระทำการฉีกบัตรเลือกตั้ง ฯลฯ เพื่อต้องการล้มการเลือกตั้ง เพราะถ้ามีเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยต้องมาอย่างท่วมท้น
7. มีการรุกฆาตโดยบุคลากรศาลเริ่มออกมาร่วมแสดงบทบาทชี้นำสังคมโดยนายจรัล เลขาธิการศาล และหลังในหลวงออกมาแนะนำให้ศาลเป็นผู้จัดการแก้ไขปัญหา โดยรับลูก ออกมาเล่นบทแรง หักด้ามพร้าด้วยเข่าไม่ร่วมกับ กกต. จัดการเลือกตั้ง ตามที่กกต. เสนอมา พร้อมทั้ง ตัดสินการเลือกตั้ง 2 เมษาเป็นโมฆะ และจับ กกต. ขังคุกทันที
8. ย้อนกลับไปทักษิณแต่งตั้ง พลเอกสนธิ เป็นผบ .ทบ . ทั้งๆที่มีคู่แข่งหลายคน เพราะมีหลายคนหนุน และเพราะเป็น สุสลิม คิดและเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัยหาใต้ได้ แต่ตอนหลังมาทักษิณได้ข่าวและรู้ว่าสนธิ และพวกร่วมกับผู้มีบารมี มีการวางแผนล้มตน จึงพยายามปลดสนธิ บุญโดยอ้างความล้มเหลวในการแก้ปัญหาใต้ ทำให้สนธิ บุญไม่พอใจ ช่างลงตัวกับเหตุการณ์ช่วงนั้นสนธิ ลิ้มก็มีการประกาศชุมนุมใหญ่ และมีข่าวว่าคนของไทยรักไทยจะขนม็อบมาปะทะ โดยมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้าร่วม จนมีการตรวจ ยึดอาวุธเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า พอดีกับช่วงทักษิณไปนอก ก่อนปฎิวัติ มีคนรายงานทักษิณที่เมืองนอก ทักษิณชิงออกช่อง 9 ปลดสนธิ บุญ แต่ช้าไป สนธิ บุญเข้ายึดหน่วยงานรัฐไปหมดแล้ว รวมทั้งกรมประชาสัมพันธ์ และช่อง 9 จึงเป็นที่มาให้ ผอ. ช่อง 9 โดยปลด
9 การปฎิวัตินั้นใช้ชื่อว่าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพื่อหวังผลทางจิตวิทยาให้ประชาชนเข้าใจว่าเบื้องสูงเห็นด้วย ซึ่งไม่ถูกต้อง และการปฎิวัตินั้นเป็นระบอบเผด็จการ ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย และมีข้ออ้างในการปฎิวัติ 4 ข้อ
10. หลังปฎิวัติ ซึ่งผู้มีบารมีกล่าวอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่กลับเป็นผู้นำคณะปฎิวัติเข้าเฝ้าในตอนดึก ได้มีการแต่งตั้งผู้ที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทักษิณ เข้ามาเป็น คตส.( ย่อมาจากอะไรไปหาเอาเอง) เพื่อตรวจสอบหาความผิดในเรื่องทุจริตต่างๆ โดยมุ่งเน้นที่คุณทักษิณ ลูก เมีย ญาติพี่น้อง เป็นหลัก ทั้งๆที่ควรดำเนินการกับทุกคน ทุกพรรคการเมือง เช่นนักการเมืองที่ทำให้ประเทศล้มละลาย ปรส. ที่ขายสินทรัพย์ขาดทุนประเทศเสียหายไป 6-7 แสนล้านบาท และหาความผิดทุกเรื่อง ทุกกรณี แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่ได้ ถึงขนาดมีหนังสือราชการมีคำสั่ง เวียนไปหน่วยราชการทั่วประเทศ ให้เสาะหาข้อมูล คำสั่ง ที่บ่งชี้เป็นความผิดของรัฐบาลทักษิณได้มาให้กระทรวง
11 มีการตั้งรัฐบาล โดยแต่งตั้งผู้ที่ต่อต้านรัฐบาลทักษิณมาเป็นนายก ฯ เป็นรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาล้มล้าง ยกเลิก นโยบาย โครงการ แผนงานต่างๆ และหาเหตุความผิดให้สอดคล้องกับเหตุผลการปฎิวัติให้ได้ แต่ เมื่อเข้ามากลับไม่สามารถยกเลิก โครงการ นโยบายต่างๆ ได้ เพราะรัฐบาลทักษิณทำมาดี ถูกทาง ถูกต้องในการแก้ปัญหา ทางสังคม เศรษฐกิจ ของประชาชน ประเทศชาติ จึงยังคงโครงการต่างๆไว้ แต่ทางกลับกัน รัฐบาลสุรยุทธ กลับไม่มีความรู้ ความสามารถในการสานต่อ ต่อยอดโครงการแผนงานต่างๆ จึงทำให้เกิดปัญหาติดตามมามากมาย และเกิดปัญหา การไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากเผด็จการของนานาประเทศ นักลงทุน จึงหนีหายไป เศรษบกิจทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว รุนแรง แม้แต่การแก้ปัยหาเร่งด่วนเช่นน้ำท่วมก็ทำได้ไม่ดี ประกอบกับภาคใต้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นเป็นการตบหน้า คมช. และรัฐบาลว่าทักษิณไม่ได้เป็นสาเหตุให้รุนแรงขึ้นตามที่กล่าวหาเขา นอกจากนี้ผู้มีอิทธิพล หวยเถือ่น ยาบ้า ยาเสพติด หนี้สินนอกระบบ ฯลฯ กลับมาทำร้ายสังคม ประชาชนอีกครั้งแล้ว และที่สำคัญ แต่งตั้งนายชาญชัย อดีตประธานศาลฎีกามาเป็น รมต. กระทรวงยุติธรรม นายจรัล เลขาศาลฎีกา มาเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทั้ง 2 คนนี้เป็นผู้ที่มีบทบาทดำเนินการทางศาล ที่สอดคล้องกับแนวทางของกลุ่มต่อต้านทักษิณและไทยรักไทยมาตลอด
12. ดำเนินการลดความเชื่อถือของคุณทักษิณ และพรรคไทยรักไทย โดยการยกเลิกพาสปอร์ต ไม่ให้คุณทักษิณ ออกมาแก้ข้อกล่าวหา สร้างวอรูม สร้างการประชาสัมพันธ์ เชิงรุก การโจมตีทางสื่อต่างๆ ให้คตส.โดยนายสัก กอแสงเรื่องออกมาพูด จัดรายการทีวีโดย คตส. ปิดเวปไซค์ต่างๆที่เป็นแนวร่วมพรรคไทยรักไทย ปิดกั้น ขัดขวางการชุมนุม ประท้วงรัฐบาล คมช. ของกลุ่มต่างๆ และให้วีรบุรุษอุปโลกออกมากำหราบ ข่มขู่สื่อต่างๆ แต่ก้ไม่ได้ผล เพราะประชาชนเริ่มรู้แล้วว่าอะไร เป็นอะไร เพราะรัฐบาลสุรยุทธ ทำไม่เป็น ทำให้เศรษบกิจของประเทศเสียหายมากขึ้นทุกที ประชาชนเดือดร้อน ข้าวยาก หมากแพง และรู้ตัวแล้วว่าจริยธรรมกินไม่ได้ ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวให้เห็นเสมอว่ากลุ่มผู้ล้มรัฐบาลทักษิณมีการจักสรร แบ่งผลประโยชน์ หน้าที่ ตำแหน่ง เงินค่าตอบแทนกันอย่างน่าเกลียด มุมมาม ทำให้เกิดคำถามว่า ปฏิวัติเพื่ออะไร
13. เกิดกรณีมีกลุ่มธุรกิจที่ล้มเพราะพิษเศรษฐกิจ และหนุนรัฐประหารล้มทักษิณ ต้องการ ท พ อ คืน จึงเรียกร้องบุญคุณ และให้ค่าจ้างผ่านพลเอกวีรบุรุษอุปโลก โดยถ้าประสานให้เจรจากับนายกได้ให้ 20 ล้าน ถ้าทำให้ได้ ทพอ . คืน จะให้อีก 2000 ล้าน วีรบุรุษจึงกล้าบ้าบิ่นแบบเสีสสติ ทำหนังสือ ถึงนายก ให้สั่งการให้ขายหุ้น ทพอ. คืนแก่ กลุ่มธุรกิจเจ้าของเดิมในราคาถูก แต่นายก ไหวตัว ไม่เล่นด้วย เพราะผิดกฎหมายเรื่องนี้ยังอยู่ในศาล และเริ่มรู้สึกแล้วว่าตกเป็นเครื่องมือทหารเลว และนักธุรกิจชั่ว( พร้อมทั้งเริ่มเข้าใจทักษิณแล้วว่าไม่ยอมช่วยนักธุรกิจสนธิและ ทพอ. เพราะเหตุผลอะไร และที่ทักษิณตัดสินใจขายชินคอร์ป เพราะถูกบีบจากผ็ที่ทักษิณไม่สามารถปฎิเสธได้จะเอาหุ้นลม หลายร้อยล้านบาท) ทำให้ คมช. เกิดอาการเกาเหลา ไม่พอใจนายกสุรยุทธ พาลจะหาเรื่องปลดด้วยข้อกล่าวหาเกียร์ว่าง แต่ผู้มีบารมี ไม่ยอม เพราะเป็นลูกรัก ( ผู้มีบารมีหลังเริ่มรู้ตัวว่าถูกวางแผนอย่างลึกวึ้ง หลอกใช้เป็นเครื่องมือจากกลุ่มธุรกิจ จึงเงียบๆไป)
13. กลุ่มผู้ต่อต้าน รัฐบาล คมช. ผู้มีบารมี วางแผนใช้กระบวนการศาลยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการล้มล้างคุณทักษิณและพรรคไทยรักไทย เพราะเป็นวิธีการที่ง่ายและดีที่สุด ที่จะเป็นข้ออ้าง สร้างความถูกต้อง ชอบธรรมแก่กลุ่มตนเองได้ จึงมีการวางแผนแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาโดยใช้อำนาจรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งตุลาการทุกคนมาจากอดีตผู้พิพากาต่างๆที่เป็นปฏิปักษ์ กับทักษิณ และพรรคไทยรักไทยมาก่อนทั้งนั้น และพร้อมกันนี้ได้ออกประกาศคณะปฎิรูป โดยให้โดอนคดีต่างๆที่ค้างในศาลรัฐธรรมนูญเก่าทั้งหมดมา ซึ่งรวมทั้งคดียุบพรรคด้วย และมีการออกประกาศคณะปฎิวัติอีกฉบับให้กรรมการบริหารพรรคต้องเว้นวรรค 5 ปี นี่คือการวางแผนไว้รอวันตัดสินยุบพรรคในวันที่ 30 พ.ค. 2550 ที่มีการปักธงกันไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ในหลวงจะทรงออกมาเตือนสติตุลาการรัฐธรรมนูญอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงธงยุบพรรคไทยรักไทยที่ตั้งไว้ได้
14 . ในการแถลงสรุปในตอนท้ายก่อนคำประกาศยุบพรรค จะเห็นว่า ทุกประเด็นนั้นมุ่งเน้นความผิด ข้อกล่าวหา ที่ตัวบุคคลคือคุณทักษิณ หัวหน้าพรรคไทยรักไทย อันจะทำให้พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาคุณทักษิณในแนวเดียวกันกับกลุ่มผู้ต่อต้านทุกคน สมาพันธ์ ฯ รัฐบาล คมช. และคตส. อย่างไม่น่าเชื่อ
และในการพิจารณาคุณทักษิณ ไม่ได้นำผลงาน คุณประโยชน์ต่างๆที่ทำไว้กับแผ่นดินไทย ประชาชนไทยมาประกอบด้วยเลย ทำให้แปลกใจว่าคุณทักษิณเป็นนายกมานั้นในสายตาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลงานที่เป็นประโยชน์ เป็นคณูปการณ์ ต่อแผ่นดิน ต่อประชาชนไทยเลยหรือ คนเราเป็นถึงนายกรัฐมนตรี จะมีแต่ความเลว ไม่มีความดีเลยหรือ ? แล้วอานิสงค จากการปลดหนี้ IMF การแก้ปัญหาประเทศล้มละลาย โครงการต่างๆที่ยังคงไว้ ฯลฯ ที่ประเทศ ประชาชฃนได้รับผลประโยชน์ และมีคงอยู่ในปัจจุบัน เป็นของใคร พรรคไหน ? ซึ่งแตกต่างกับพรรค ปชป. ที่ศาลตัดสินให้ขาวสะอาดทุกประการ พรรค ปชป. ไม่ได้มีความผิดอะไรสักนิดเลยหรือ ?
นี่คือสิ่งที่ผมวิเคราะห์จากเหตุการณ์ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้และสรุปมาให้อ่านรับรู้กันว่า ไทยรักไทยถูกวางปักษ์ธง เอาไว้แต่แรกแล้วว่าต้องยุบ เพื่อป้องกันทักษิณกลับมาเป็นใหญ่ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พวกต่อต้านกลัวว่าจะถูกเช็คบิลอย่างหนัก แม้แต่กรรมการพรรคก็ไม่ให้เกิดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อปิดประตูตาย ลั่นดานการเป็นนอมินี่แก่ทักษิณ
ต่อไปติดตามดูการพิจารณาตัดสินคดีต่างๆของทักษิณ พรรคพวก ลูกเมีย ญาติ พี่ น้อง ให้ดี รับรองทักษิณเจ็บแน่ แต่ยังดีที่เป็นกระบวนการศาลยุติธรรมที่ต้องต่อสู้กัน 3 ศาล และมีโอกาส เวลา และมีทนายช่วยในการพิจารณาตัดสินว่า ความ
บทสุดท้าย พรรคไทยรักไทยต้องตั้งใหม่ แม้จะเป็นชื่อใหม่ และประกาศรับสมาชิกพรรคแบบปูพรหม และต้องหาหัวหน้าพรรคที่เก่ง มีความรู้ ความสามารถ มีบารมี เพื่อสร้างความเชื่อถือแก่ฐานเสียง ที่สำคัญ กรรมการพรรคที่ถูกยกเว้นต้องรวมกันให้แน่นหนาไว้ อย่าได้แตกกระจายเป็นอันขาด และออกช่วยหาเสียงอย่างพร้อมเพรียงทุกพื้นที่ เสียงสนับสนุนยังแน่นหนาไม่เสื่อมคลาย และต่อกรกับคมช. พรรคฝ่ายค้าน ได้ เชื่อ และรับรองไทยรักไทยจะกลับมา และจะได้รับความนิยมอย่างเดิม เผลอๆจะมากว่าเดิมเพราะรัฐบาลปัจจุบันทำให้ประชาชนทุกข์เข็ญกันทั่วหน้า

จากคุณ : คนชุดขาว (คนชุดขาว) - [ 1 มิ.ย. 50 12:30:20 A:172.17.48.213 X:61.19.199.143, 61.19.199.143, 61.19.199.143 ]