| เห็นด้วยอย่างยิ่ง (3 คน) |
| เห็นด้วย (1 คน) |
| เฉย ๆ (4 คน) |
| ไม่เห็นด้วย (0 คน) |
| ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง (15 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 23 คน |
ในบรรดาผู้ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวต่อต้าน คมช. มีคุณ phongthai นี่แหละ ที่เขียนแบบพยายามใช้คำอธิบายเป็นเรื่องเป็นราวมากที่สุด อย่างกรณี คุณไกรศักดิ์ นี่ คุณ phongthai เขาเสนอว่า พฤติกรรมเข้าข่าย ฝูงชนบ้าคลั่ง และนี่จะเป็นชนวนให้เกิดการนองเลือด
คุณเห็นด้วยกับเขาหรือไม่ (ขอให้อ่านคำบรรยายที่มีรายละเอียดข้างล่างนี้้ด้วยครับ)
ผมไม่ได้มีอะไรต่อต้านคุณ phongthai เพราะเป็นสิทธิของเขาในการจะแสดงความเห็นในสิ่งที่เขาเชื่อ แต่อยากทราบจริง ๆ ว่า คนอ่านราชดำเนิน เห็นด้วยกับแนวคิดแบบนี้หรือไม่ อย่างไร เพราะอะไร (เชิญอธิบายประกอบการโหวตตามสบายครับ)
ขอบคุณครับ
เพียงดิน
==============================================
ข้อความของคุณ phongthai:
ระวัง "ม๊อบศรีธัญญา"
เมื่อวาน...นั่งดูข่าว ม๊อบเคลื่อนพล รุกหนัก! ฝ่าแผงกั้นของตำรวจ จุดมุ่งหมายคือ หน้า กอง บก.ทบ เห็นบรรยากาศ การผลัก, การดัน การทะลายแผงกั้น ด้วยทัพหน้าที่ใช้มอเตอร์ไซด์เป็นตัวปะทะ ตามด้วยฝูงชน ที่จะเรียกว่า บ้าคลั่ง ก็คงไมผิด จากภาพการไล่ทำร้าย และกระทืบ คุณไกรศักดิ์ อดีต สว.โคราช บรรยากาศ "มาคุ" เหล่านี้ ...มันทำให้ผมย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ และกลิ่นคาวเลือด ในยุค 6 ตุลาฯ ก็โชยมาปะทะจมูกแบบอุปทาน!
เท่าที่สังเกตุเห็น ม๊อบต่างๆ โดยเฉพาะทัพหน้า นั้นจะถูกยุยงปลุกปั่นให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว เกรี้ยวกราด จากแกนนำที่อยู่บนรถตลอดเวลา และม๊อบเหล่านั้นก็ดูมีอาการฮึกเหิม และดุดัน ท้าทาย สมเจตนาผู้ปลุกปั่น อยู่ตลอดเวลา...อันนี้ น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
และแม้นก่อนหน้า จะมีการกำหนดจากแกนนำบางคนให้ประกาศ 3 สัญญา คือ ไม่โกรธ, ไม่ตอบโต้, ไม่รุนแรง ก็ตาม แต่ลึก ๆ แล้ว เป็นที่น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างยิ่งว่า ท้ายที่สุด ม๊อบกลุ่มนี้ จะไม่สามารถถูกควบคุมได้จากแกนนำ และที่สำคัญ ตราบใดที่แกนนำบางคน ยังมีพฤติกรรมซ่อนเร้นที่อยากเห็นความรุนแรงจริง ๆ เกิดขึ้น (แอบซ่อนอยู่)
ถ้าจะลองใช้สติทบทวน ไล่เรียงย้อนไปถึงที่มา ที่ไป จนเกิดปรากฎการณ์ ม๊อบเพื่อท่าน ในครั้งนี้ จะเห็นว่า แม้นหลายคน จะมีความพยายามในการ ยกเอาประเด็น "ทวงคืนประชาธิปไตย" จาก เผด็จการทหาร ที่ดูรูปแบบ คล้าย ๆ กับหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ทว่า สิ่งที่แปลกแยก ไปจากข้อเท็จจริงที่เคยปรากฎในอดีตก็คือ มันมีวาระซ่อนเร้น เพียงสองประการคือ
การล้มกระดาน และ
การทวงคืนคุณทักษิณ (มิใช่เพื่อ "ประชาธิปไตย")
แม้จะมี กลุ่มคนที่มีความเป็นนักประชาธิปไตย อย่างแท้จริง ปะปน อยู่และถูกนำรวมเข้าไปเป็นก๊วนเดียวกันแบบ แสวงหาจุดร่วม แต่ก็กลุ่มนี้ ก็แทบจะไม่มีบทบาทใด ๆ เลย เนื่องจากโดยเนื้อแท้แห่งอุดมการณ์...จังหวะ และช่วงเวลานั้น มันยังไม่ใช่
แต่เมื่อพินิจในความเป็นม๊อบเหล่านี้ ....สิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งก็คือ กระบวนการสร้างลัทธิความเชื่อผู้นำ แบบใหม่ ที่นับเป็นครั้งแรกในเมืองไทยก็ว่าได้
เมืองไทย ถูกทำให้เชื่อและยึดติดในความเป็น "แบรนด์" จาก "กลุ่มนักขายสินค้า" ผ่านระบอบการเมืองในนามอดีต พรรค ทรท. มีวิธีการทางการตลาด โดยใช้รูปแบบ การขายสินค้า มากกว่า การใช้นโยบาย
พวกเค้าขายสินค้าแบบ ลด แลก แจก แถม และใช้วิธีการแบบเมมเบอร์เคาะประตู..จนทำให้มีลูกค้ามากมายมหาศาล
ผลพวงของ เจ้าของสินค้า และลูกค้ามหาศาล ได้ขยายฐานจนไปสู่ ความเชื่อฝังลึกแบบงมงาย
เรื่องความเชื่อแบบฝังลึก นี้ มิได้ปรากฎแต่ในประเทศกำลังพัฒนา หรือ ประเทศในโลกที่สามเท่านั้น แม้นในสังคม หรือประเทศที่เรียกว่า พัฒนาแล้ว พัฒนาอีก อย่าง ในสวิตส์ฯ กลุ่ม solar temple ก็พร้อมตายเพราะเชื่อในลัทธิ, กลุ่มประตูสวรรค์ ที่ฆ่าตัวตายในอเมริกา, สาธุคุณ จิม โจนส์ พามวลเหล่าสาวกฆ่าตัวตายด้วยไซยาไนท์ ตายกัน 900 ศพ, นาย Koresh เจ้าสำนักลัทธิดาวิเดียนในอเมริกา พาสาวกเผาตัวตายร่วมกันดำเป็นตอตะโก 80 ศพ หรือแม้แต่ในเอเซียอย่าง โอมชิริเกียว ฯลฯ
เหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าวิตก กังวล โดยเฉพาะ คนไทย...ม๊อบไทย ที่จะต้องใช้สติ และปัญญาในการพิจารณาว่า... อยู่ในข่ายใช้ปัญญาพิจารณา หรือ ถูกคนใช้เล่ห์ปัญญามาหลอกใช้
พระเปรมศักดิ์ ท่านให้สติว่า ไม่มีนักการเมืองหน้าโง่ คนไหนยอมตายเพือประชาชน...แต่เค้าพร้อมที่จะพาประชาชนมาตาย
อีกไม่นาน นับแต่นี้ไป เมืองไทย ก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ..ประเทศจะกลับเข้าสู่ ฟ้าสีทองผ่องใส กรรมเวรที่บุคคลใดก่อ ก็ต้องรอรับชดใช้..... อดทนกันซักนิด จะเป็นไรมี
ก่อนจบ มีสิ่งให้ท่านลองไปทบทวนว่า ตัวเองกำลังตกอยู่ในสภาวะ จิตเป็นทาสลัทธิ หรือไม่
"มูลนิธิครอบครัวอเมริกัน" (เอเอฟเอฟ) เป็นองค์กรในสหรัฐที่ศึกษาเรื่องอันตรายของลัทธิต่างๆ อย่างจริงจัง และได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลัทธิอุบาทว์เอาไว้คร่าวๆ ว่า
1. จะยกย่องบูชาตัวผู้นำลัทธิอย่างสุดขั้ว ห้ามสาวกตั้งคำถามต่อตัวผู้นำโดยเด็ดขาด
2. ชักจูงให้มีการหาสาวกใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
3. ผู้นำลัทธิจะออกคำสั่งกำหนดวิธีคิด รวมทั้งพฤติกรรมทุกอย่างของสาวก ไม่ว่าสาวกจะทำอะไรก็ตามต้องขออนุญาตจากผู้นำ
4. ลัทธิจะเชิดชูกลุ่มของตนว่ามีความดีงาม โดดเด่นเหนือกว่าคนนอกลัทธิ
5. ผู้นำลัทธิคือความจริงสูงสุด ไม่อยู่ใต้อำนาจใดๆ
6. สาวกต้องหาเงินเข้าลัทธิและยอมสละเวลาอย่างไม่จำกัดให้ลัทธิ
7. คำสอนของลัทธิจะชักจูงว่า เราทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ (Ends Justify Means) เช่น ตั้งมูลนิธิลวงโลกเพื่อนำเงินมาทำบุญกับลัทธิเป็นเรื่องถูกต้อง
8. สาวกจะถูกชักจูงให้คบหาแต่เฉพาะกับคนพวกเดียวกันในลัทธิเท่านั้น
9. ผู้นำลัทธิจะทำให้สาวกรู้สึกละอายในตัวเอง เพื่อที่จะควบคุมได้ง่าย
..................................อยากให้ลองนำไปพิจารณากันดูเถิด ........................................
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 50 12:52:10
จากคุณ :
piangdin
- [
11 มิ.ย. 50 11:04:32
A:149.159.2.79 X:
]