จุดชี้ขาดรับไม่รับรัฐธรรมนูญ หรือไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับ คมช.
ดร.วรเจตน์กล่าวว่า จุดชี้ขาดว่าควรจะรับหรือไม่ ไม่รับรัฐธรรมนูญอย่างไร นั่นก็คือเรื่องของการนิรโทษกรรม อันนี้เรื่องใหญ่ แต่เอามาพูดกันน้อยมาก รัฐธรรมนูญฉบับนี้บอกว่า บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมาย และชอบด้วยรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว ไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ หมายความว่าอย่างไร ต้องอธิบายความแบบนี้ ก่อนวันที่ 19 ก.ย. มีการยึดอำนาจโดยตัวของมันเอง เป็นการกระทำผิดในทางอาญา ถ้าทำไม่สำเร็จก็เป็นขบถ มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต แต่เมื่อทำสำเร็จระบบกฎหมายเราก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ทรงอำนาจในทางความเป็นจริง เมื่อคณะยึดอำนาจ ยึดการปกครองสำเร็จ เขาสามารถออกประกาศต่างๆ ออกมาได้หลายฉบับ แล้วระบบกฎหมายไทยก็ยอมรับให้ประกาศอันนั้นมีค่าเป็นกฎหมาย แม้ไม่ผ่านสภา คนยึดอำนาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ต้องยอมให้เป็นกฎหมาย
จะมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งคือช่วง 19 ก.ย.-30 ก.ย.49 ที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ในช่วงเวลา 10 กว่าวันนั้น คณะผู้ยึดอำนาจครองอำนาจสูงสุด ก็ออกประกาศ ออกอะไรต่างๆ มาหลายฉบับ ผมจะบอกให้การนิรโทษกรรมไปแล้ว มีปัญหาว่า พอหลังจากมีประกาศรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว คมช.ก็จะมีอำนาจทางกฎหมายแล้ว คือ คปค.มาเปลี่ยนชื่อเป็น คมช. เดิมเรียกว่า คปค. ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น คมช. คือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ที่เป็นองค์กรในรัฐธรรมนูญ ทีนี้มันก็มีปัญหาว่าในเวลานี้ คมช.ก็มีอำนาจและก็ดำเนินการอะไรต่างๆ ไป ปัญหามีอยู่ว่าอำนาจที่เขาใช้ไปในเวลานี้มันชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญไหม นี่คือประเด็น และรวมทั้งองค์กรต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการยึดอำนาจด้วย ยกตัวอย่างเช่น คตส. คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ พวกนี้เกิดขึ้นจากการกระทำรัฐประหารทั้งสิ้น
"ถ้าเกิดโหวตรับรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญนี้ผ่านนะครับ สิ่งที่ประชาชนโหวตรับคือ การกระทำทั้งหลายทั้งปวงของ คมช. คตส. ของใครก็ตาม ว่ามันชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฟังให้ดีนะ ผมคิดว่าเป็นไปได้ เดี๋ยวจะหาว่าผมหมิ่นประมาท เป็นไปได้นะว่าการกระทำดังกล่าวนั้นมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายและความชอบรัฐธรรมนูญในเวลานี้ หรืออาจจะไม่มีก็ได้เราไม่รู้ ปัญหาในเวลานี้ เราไม่สามารถทราบได้ว่า คมช. การกระทำใดอันไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า เราไม่ทราบผมก็ไม่ทราบ
"ถ้าตีความในแง่นี้ตามตัวอักษรตามมาตรา 309 แม้หากการกระทำนี้มันไม่ชอบ ก็จะถูกถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ เพราะมาตรานี้เขียนเอาไว้ ถือว่ามันชอบและก็จะอ้างไว้ว่าอันนี้มันผ่านประชามติแล้ว นี่คือปัญหาใหญ่ของรัฐธรรมนูญ ทีนี้มีคนมา บอกว่าการรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้เท่ากับเป็นการยอมรับนิรโทษกรรม ให้กับการกระทำรัฐประหารเรื่องนั้นก็โอเค แต่ว่ามันมากไปกว่านั้น คือไปนิรโทษกรรมการกระทำที่เกิดขึ้นหลังวันประกาศรัฐธรรมนูญนี้ ไปทำอะไรที่ไม่ชอบแล้วทำอะไรไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนว่ามันชอบ มันยังไม่รู้เลยว่าทำอะไรชอบหรือไม่ชอบ นี่คือปัญหาใหญ่ ฉะนั้นมีคนบอกว่ามาตรา 309 เป็นจุดดำหรือเป็นรอยด่างที่สำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมก็เห็นเช่นนั้น และสำหรับผมจุดดำจุดนี้ ในมาตรานี้มันเพียงพอที่จะทำลายความก้าวหน้าบางเรื่องในบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพสำหรับผม แต่สำหรับบางคนบางท่านอาจจะคิดตรงข้ามกันว่า ได้บทบัญญัติเรื่องสิทธิเสรีภาพได้มนุษยธรรม จึงยอมหยวนๆ แต่สำหรับผม ชั่งน้ำหนักแล้วมันไม่คุ้ม ผมก็โหวตไม่รับ
คนเขียน รธน.ทับซ้อนเรื่องตำแหน่งในกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญนี่ก็มีข้ออ่อน เพราะบุคคลที่เขาไปร่วมร่างรัฐธรรมนูญนี้ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องของการทับซ้อนกันในเชิงตำแหน่งอยู่ เช่น บางท่านที่เป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บางคนเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันก็เป็น สสร. และเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและเขียนรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง อย่างนี้มันเป็นการทับซ้อนในเชิงตำแหน่ง ซึ่งไม่ถูกต้องหรือไม่น่าจะถูก และมิหนำซ้ำเดี๋ยวคนที่เป็นกรรมาธิการยกร่างซึ่งเป็นกรรมการเลือกตั้งด้วยยิ่งจะมาเป็นคนจัดประชามติอีก คือในแง่ของตัวบุคคลซึ่งไปทำนี่มันมีความทับซ้อนในเชิงตำแหน่ง และมันอธิบายในกฎหมายมิได้ นี่คือปัญหาในสังคมไทยเรา บางทีเราชี้นิ้วไปที่คนอื่นและเราก็บอกว่าคนคนนี้มีปัญหาทับซ้อนอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คำถามที่เราขาดไปเราไม่เคยชี้นิ้วกลับมาถามตัวเรา
สรุปว่า ถ้าพวกเราเห็นด้วยกับการทำการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 ท่านสมควรกาก"เห็นชอบ"
แต่ถ้าใครที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหารของ คปค. หรือ คมช. ท่านสมควรกาก "ไม่เห็นชอบ"เพราะว่าไม่ว่าท่านจะกากอย่างไร
รัฐบาลต้องจัดให้มีเลือกตั้ง เพียงแต่ว่าจะต้องเอารัฐธรรมนูญฉบับใหนฉบับหนึ่งมาใช้เลือกตั้งไปก่อน แต่รัฐบาลอาจจะลากการเลือกตั้งออกไปอีก
ขอเรียนเชิญทุกๆท่านที่มีสิทธิช่วยกันไปใช้สิทธิแสดงประชามตินะครับ 19 สิงหาคม 2550
การเมืองต้องแก้ไขด้วยการเมือง การตัดสินถูกผิดเป็นหน้าที่ของศาล ขอให้ท่านกลับไปอ่านพระราชดำรัสเมื่อ 25 เมษายน 2549
จากคุณ :
จงเจริญ
- [
วันอาสาฬหบูชา 23:11:04
A:124.121.9.118 X:
]