อะไรคืออุบัติเหตุทางการเมืองที่จะเป็นข้ออ้างในการปฏิวัติซ้ำ
ความขัดแย้งทางการทหารและการเมือง
เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว
ความขัดแย้งในความแตกแยกของประชาชน
โดยอ้างความไม่สงบจากกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง
สุดท้ายคือ ความขัดแย้งในความสับสนกังวลใจ
ในความแน่นอนที่ชักจะไม่แน่ใจเมื่อการณ์กลับตาลปัตร
โดยอ้างความมั่นคงและความปลอดภัย
ที่ไม่มีใครรับรองได้ทั้งผู้ยึดอำนาจหรือผู้สนับสนุนก็ตามที
หลังจากก้าวลงจากหลังเสือ เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน
จึงเกิดความหวาดระแวง เกิดความกลัวที่จะโดนเช็คบิล
ทั้งจากกลุ่มการเมืองและประชาชนของประเทศ
การทำรัฐประหารซ้ำหรือซ้อนครั้งนี้
จึงไม่สามารถอ้างอีกได้ว่า ทำเพื่อความมั่นคงของชาติ
หรือทำเพื่อประชาชนได้อีกต่อไป
แต่เป็นการทำรัฐประหารเพื่อการแย่งชิงอำนาจ
การคงอำนาจ เพื่อรักษาความอยู่รอดปลอดภัยของชนชั้นปกครอง
ประชาชนส่วนใหญ่ตาสว่างมาตั้งนานแล้ว
เหลือประชาชนส่วนหนึ่งที่เคยหลงผิดคงไม่หลงผิดซ้ำ
ที่จะสนับสนุน ไปมอบดอกไม้ ดอกกุหลายติดปลายปืนซ้อนสองปีควบ
สุดท้ายการทำรัฐประหารจะเป็นแค่ปล่อยข่าวล่อลวง
หรืออาจจะทำจริงในที่สุด "พลังประชาชน" คือ คำตอบ
กำหนดชะตากรรม ชี้อนาคตของคนมีสีทั้งหลายจะเป็นเช่นไร
ส่วน "กฎอัยการศึก" คงไว้หรือยกเลิก ฝ่ายประชาธิปไตยมีแต่ได้
ฝ่ายที่กุมอำนาจมีแต่เสียกับเสีย
ทั้งแรงกดดันภายในประเทศจากฝ่ายต่างๆ
หรือจะเป็นแรงกดดันจากต่างประเทศก็ตามที
ถึงฝ่ายปกครองจะไม่สนแรงเสียดทานต่างประเทศ
แต่ยุคโลกาภิวัฒน์ไม่สนยังไง ก็ต้านไม่อยู่
คล้ายจะปิดประเทศ ก็เป็นความคิดที่โบราณกาลย้อนยุคเก่าคร่ำครึ
อย่าทำตัวเองให้เป็นตัวเร่งเป็นปัจจัยเสริม
ทำให้ประชาชนเริ่มรู้สึกตัวว่า "ตนเองกำลังอยู่ในประเทศที่เป็นเอกราช"
แต่ไม่มีความเป็นไท อิสระ ปราศจากซึ่งสิทธิ และเสรีภาพ
มีแต่การกดขี่ ข่มเหง ระรานน้ำใจกัน
ตกเป็นทาสในเรือนเบี้ย ไพร่ในเรือนจำ
ยิ่งปิดยิ่งโผล่ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งฆ่ายิ่งเกิด
ฆ่าทักษิณตายหนึ่ง เกิดสิบล้านไทยหลอมใจเป็นหนึ่งเดียว
ฆ่าพรรคไทยรักไทยตายหนึ่ง เกิดนอมินีหลายสิบพรรค รวมทั้งพรรคพลังประชาชนที่มีท่านสมัครเข้ามาสานต่อนโยบาย 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง อีกครั้งหนึ่ง
ฆ่าประชาธิปไตยตายหนึ่ง พวกเผด็จการจะต้องตกตายยกแก๊งค์ ยกก๊วน ยกเข่ง
ซึ่งนำไปสู่การปฎวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยอันสำคัญไม่ช้าก็เร็ว
จากคุณ :
นักกวนเมือง
- [
28 ส.ค. 50 14:06:33
A:58.8.192.234 X:
]