จับตาความเคลื่อนไหวของบรรดานักการเมืองที่แยกตัวออกมาจัดตั้ง พรรคการเมืองขั้วที่ 3 หวังเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ประชาชนที่วางตัวเป็นกลางและเบื่อหน่ายการทะเลาะ เบาะแว้งในบ้านเมือง แต่เอาเข้าจริง พรรคทางเลือกที่ 3 ก็แตกคอแยกตัวออกเป็น 2 ขั้วเสียแล้ว คือ ทางเลือกที่ 3.1 พรรคเพื่อแผ่นดิน และทางเลือกที่ 3.2 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา!!!............
เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคทางเลือกที่ 3 ก็ไม่สามารถเป็น โซ่ข้อกลาง ที่มีพลังตามแนวคิดของ บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่สามารถรวมตัวกันจนมีกำลังเหนือพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ได้ พรรคทางเลือกที่ 3.1 กับ 3.2 ก็เลยเป็นได้แค่ พรรคเติมเต็ม ของขั้วใดขั้วหนึ่งเท่านั้น แต่หาก พลังประชาชน หรือ ประชาธิปัตย์ ฟีเวอร์พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ทางเลือกที่ 3 ก็จะเป็น ได้แค่ ส่วนเกินที่ไร้ค่าทางการเมือง เท่านั้นเอง!!!............
สำหรับ เห่าไฟ บอกตามตรงว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพรรคทางเลือกที่ 3 เลยแม้แต่น้อย เพราะปัญหา วิกฤติ ของชาติบ้านเมือง ที่เกิดจาก ปัญหาเสียงข้างน้อยไม่ยอมรับเสียงข้างมากนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยพรรคทางเลือกที่ 3 ตามที่มีการอวดอ้างแต่อย่างใด!!!............
หากพ่อแม่ พี่น้องประชาชนลองทบทวนให้ดี จะพบว่าวิกฤติของบ้านเมืองนั้น เกิดจาก คนบางกลุ่ม ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ของสังคมต่างหาก เห็นได้จากตอนนั้นมีการใช้เสียงข้างน้อย หักล้าง เสียงข้างมาก และใช้กำลังทางทหาร หักล้าง อำนาจประชาธิปไตย!!!............
เมื่อมีการสร้างแบบอย่างที่ ไม่ถูกต้อง เอาไว้เช่นนั้น บ้านเมืองก็ก้าวเดินต่อไปลำบาก เพราะคนที่สร้าง มาตรฐานผิดๆ เอาไว้ จะมาบอกให้ ประชาชนทำในสิ่งที่ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตยได้อย่างไรกัน ลองคิดดูเถิดว่า ใครจะไปเชื่อมั่นเชื่อถือ!!!............
โดยเฉพาะคนที่เคย ลาก รถถัง ออกมายึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายก็ทำท่าจะมาลงเลือกตั้งเสียเอง ทั้งที่เป็นคนคุมการเขียน กติกา ทั้งหมด ด้วยตัวเอง พฤติกรรมอย่างนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะบอกว่า เป็นระบอบทักษิณ แต่มาวันนี้ กลับไม่เคยพูดเลยว่า เป็นระบอบ คมช. นี่คือความยุติธรรมใช่ไหม!!! ............
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้เห็น ธาตุแท้ ของพรรคการเมืองบางพรรคที่เสแสร้ง มาตลอดว่า ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย แต่สุดท้ายก็แปลงร่างออกมาเป็น มารร้ายใจแคบ ยอมก้มหัวให้ อำนาจนอกระบบ เข้ามาทำลายรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคู่แข่งของตัวเอง เพื่อจะได้วิ่งลิ้นห้อยไปอยู่แถวหน้ารอรับ ปลอกคออำนาจ มาสวมใส่ไว้อย่างเต็มใจ เห็นแล้วน่าอนาถจริงๆ พับผ่า!!! ............
เห่าไฟ เขียนอย่างนี้ หลายคนคงนึกว่า อยากให้ ทักษิณ กลับมาถึงจะพอใจใช่หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่จำเป็นเลย ทักษิณกลับหรือไม่กลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ หลักการประชาธิปไตยของบ้านเมือง จะต้องถูกดำรงรักษาเอาไว้เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าใครจะมาทำให้เกิด ความมัวหมอง ไม่ได้เด็ดขาด เนื่องจากจะมี ผลกระทบ ต่อสังคมไทยอย่างรุนแรงเหมือนที่เป็นอยู่เวลานี้!!! ............
และ หลักการที่ถูกต้อง ตามครรลองประชาธิปไตยก็คือ ถ้าคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไม่พอใจรัฐบาล จะต้องใช้วิธี รณรงค์ ให้ประชาชนไปเลือกตั้งเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น หากใครไม่ยอมรับผลเลือกตั้งก็ต้อง ติดคุกสถานเดียว ปัญหาทุกอย่างจึงจะมีข้อยุติ สังคมก็จะ ร่มเย็นเป็นสุข ไม่ร้อนรุ่มเหมือนทุกวันนี้!!!............
เห่าไฟ อยากถาม คมช.ว่า จะรู้สึกอย่างไร ถ้าหลังลงประชามติรัฐธรรมนูญแล้ว 10 ล้านเสียงไม่ยอมรับ 14 ล้านเสียง เพราะหาว่า โกงคะแนน บ้านเมืองจะสงบสุขได้หรือไม่ 14 ล้านเสียงจะยอมอยู่นิ่งๆปล่อยให้ 10 ล้านเสียงประท้วงหักล้างหรือไม่ ถึงตอนนั้น แผ่นดินไทยจะไม่วุ่นวายโกลาหลไปกันใหญ่หรอกหรือ!!! ............
ฉันใดก็ฉันนั้น การใช้กำลังยึดอำนาจจาก รัฐบาลเสียงข้างมาก ที่กำลังอยู่ในความนิยมของประชาชน ก็จะเป็นแบบเดียวกัน ประชาชนนับสิบล้านเสียง ที่สนับสนุนพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็กำลังรอคอยให้ถึงวันหย่อนบัตรลงคะแนนเร็วๆ เพื่อจะได้ประกาศให้รู้โดยทั่วกันว่า สิทธิ ของเสียงส่วนใหญ่ตามระบอบประชาธิปไตยเป็น อมตะ อำนาจนอกระบบไม่สามารถลบล้างได้!!!............
และด้วยเหตุนี้ กระแสความนิยม ทางภาคอีสานและเหนือ ที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับ รัฐบาลทักษิณ อาจโถมซัดอดีต ส.ส. ทั้งหลายให้ต้องทำตัวลู่ตามลม ไม่งั้นมีหวังสอบตกกันเป็นแถว แม้แต่ สุวิทย์ คุณกิตติ ที่ว่าไปอยู่พรรคทางเลือกที่ 3 แน่ๆ ก็อาจทนเสียงเรียกร้องจากคนอีสานไม่ไหว ต้องย้อนกลับไป พรรคพลังประชาชน ในที่สุด!!!.....
"เห่าไฟ"
ที่มา นสพ.ไทยรัฐ 16 ก.ย.2550
http://www.thairath.co.th/society.php?content=61197
จากคุณ :
tinulong
- [
16 ก.ย. 50 08:39:26
A:125.26.45.97 X:
]