ความคิดเห็นที่ 14
1. ผมกลับมองตรงกันข้ามครับ
2. ในช่วงต้น ผมเห็นเองเห็นด้วย และก็เห็นมานานแล้วว่า ท้ายที่สุดแล้วเมื่อหมด พตท ทักษิณ แล้ว คนพรรค์นี้ก็จะหันมาแว้งกัดกันเองราวกับหมูหมาที่แย่งอาหารกันกิน...คนจำพวกที่อยู่ร่วมกันด้วยผลประโยชน์ร่วมกันเฉพาะหน้า ไม่ใช่อยู่ด้วยกันเพราะอุดมการณ์ร่วมกัน มันก็จะฟาดฟันกันเองในท้ายที่สุดแน่นอน
3. ปัญหาคือว่า วันนี้เมื่อคนจำพวกนี้ "แตกคอ" กันด้วยการจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว แล้วเราในฐานะประชาชนคนธรรมดาที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ระบอบเลือกตั้ง...จะต้อง "เข้าข้าง" ข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่?
4. คำตอบผมคือ ไม่จำเป็นโดยสิ้นเชิง...อย่าลืมว่า รากฐาน ของเรา กับของสุรยุทธิ์น่ะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด...ถ้าเราสนับสนุนสุรยุทธิ์เพื่ออะไรก็แล้วแต่...แต่สุดท้ายก็คือ ร่วมกับสุรยุทธิ์เพื่อสู้กับสนธิ (ลิ้ม)...ก็เท่ากับเราเอาตัวไปเป็น "คนจำพวกนี้" ด้วย...เพราะจุดยืนของเรากับสุรยุทธิ์มันต่างกัน แต่มาร่วมกันเพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้า แค่การเลือกตั้ง 23 ธ.ค. ?????
5. เหมือนกับ บังสนธิ, แป๊ะลิ้ม ร่วมกับ สุรยุทธิ์ จับมือกันปล้นประชาธิปไตยไปในวันที่ 19 ก.ย. .....พอมาวันนี้คนกลุ่มนี้แตกคอกัน เราที่ถูกปล้นประชาธิปไตยกลับ "จำต้อง" มาร่วมกับหนึ่งในผู้ปล้นประชาธิปไตย เพื่อสู้กับพวกที่เหลือ เพื่ออะไร? เพื่อให้มีการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. เท่านี้เองหล่ะหรือครับ? สำหรับผู้มีประชาธิปไตยในวิญญาณ...???? ทำไมมันดูอนาถ และหมดทางเลือกในการต่อสู้กับเผด็จการขนาดนี้เลยหรือ?
6. มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรือครับ? ที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะรวมกำลังกันเองเพื่อกวาดล้างพวกโจรทั้งสาม รวมถึง "หัวหน้าโจรสีม่วง" ให้มันหมดไปด้วยกำลังของเราเอง?
7. ประเด็นถัดมาคือ "สามเดือนจากนี้ เผด็จการทหารและสภาเถื่อนจะหมดอำนาจ" ผมเห็นต่างจากคุณ X-CU ว่า ไม่จริงเลยครับ...ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นดอกผลของเผด็จการทหาร และสภาเถื่อนที่ชัดเจนที่สุด...ในทางการทหาร อนุพงษ์ ก็คือ คนของเผด็จการ....ในทางการเมือง กกต, คตส, และสารพัดองค์กรก็มาจากน้ำมือเผด็จการทหาร...พรรคการเมืองเช่นพรรค ปชป ก็มีแนวทางที่สนับสนุนเผด็จการชัดเจน...ในวงการยุติธรรม ทั้งตำรวจ ทั้งผู้พิพากษา ก็อยู่ในแนวทางนี้...ฯลฯ พูดง่ายๆคือ หลังจากวันที่ 23 ธ.ค. องค์กรปกครองส่วนบนก็ยังคงอยู่ในกำมือของเผด็จการ และพรรคพวกทั้งหมด...
8. สรุปคือ ต่อให้เลือกตั้งแล้ว ได้นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งแล้วก็ตาม สุดท้ายก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีอำนาจอะไรในมือ (ซึ่งก็หมายถึงว่า อำนาจของประชาชนก็ยังคงไม่มี นั่นเอง...) กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ที่พร้อมจะหมดอำนาจได้ทุกเมื่อ ถ้า "ไม่สยบยอม" ต่ออำนาจศักดินา-ทหาร และพรรคพวก...เป็นนายกฯที่ง่อยเปลี้ยเสียขา ที่ทำได้เพียงแค่ ทำตามนโยบายของข้าราชการ (เพราะในรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดไว้) ทำตามกลุ่มก๊วนทางการเมือง (เพราะในรัฐธรรมนูญ 2550 ก็กำหนดไว้) และทำตามสิ่งที่ผู้นำกองทัพต้องการ( เพราะ ในฐานะ ผอ. กอรมน.)
9. สรุปอีกทีคือ การเลือกตั้ง 23 ธ.ค. นี้ก็หาใช่จะเป็น "จุดชี้ขาด" ในการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตย กับเผด็จการ...เป็นแต่เพียง "อีกยกหนึ่ง" หรือ "อีกสมรภูมิหนึ่ง" เท่านั้นเอง...ต่อให้ได้ชัยชนะในสมรภูมินี้ ก็ยังตกเป็นเบี้ยล่างของฝ่ายเผด็จการอยู่ดี...แล้วทำไมฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องไป "เปลืองตัว" เข้าร่วมปกป้อง "โจร" ที่กำลังต่อสู้กับ "อีกโจร" ด้วย?
10. สำหรับผมแล้ว ยุทธวิธีที่ดีที่สุดก็คือ ปล่อยให้คนจำพวกนี้ต่อสู้กับจนตกตายไปเอง...ข้อดีคือ เมื่อคนจำพวกนี้กัดกันเอง สู้กันเอง ก็เท่ากับ "บั่นทอน" กำลังของฝ่ายเผด็จการ ทำให้ "สงเสริม" พลังฝ่ายประชาธิปไตยโดยทางอ้อม และทางตรง
11. ประการที่สอง เมื่อคนจำพวกนี้กัดกันเอง สู้กันเอง ก็ย่อมจะมีฝ่ายหนึ่งตายจากไป พวกที่เหลือก็ง่อยเปลี้ยเสียขา หรือต่อให้ดีที่สุดก็ง่อยเปลี้ยเสียขาทั้งคู่...เหมาะกับที่ฝ่ายประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะกวาดล้างเสียทั้งหมดทีเดียว หรืออาจจะกวาดได้ถึงตัว "หัวหน้าใหญ่" ด้วยซ้ำไป!
12. ถ้าเราเข้าไปปกป้องสุรยุทธิ์ เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าแค่การเลือกตั้ง 23 ธ.ค. มีข้อด้อยอยู่หลายประการ...ประการแรก อาจจะสู้แพ้ก็ได้ ถ้าแพ้ก็แพ้ไปกับเขายายเที่ยง มันน่าภาคภูมิใจตรงไหนกัน? ประการที่สอง ต่อให้สู้ชนะ ปกป้องสุรยุทธิ์ได้ ก็ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว ถูกคนวิจารณ์ต่อไปอีกว่า เป็นพวก "ฉวยโอกาส" ไม่มีอุดมการประชาธิปไตย...ประการที่สาม ต่อให้ปกป้องสุรยุทธิ์ได้ ต่อให้มีการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. อำนาจของประชาชนก็ไม่มีอยู่ดี...ประการที่สี่ ในภายหลังถ้าจะต้องวิจารณ์กลุ่มสุรยุทธิ์ ในภายหลัง ก็จะเกิดสภาพอิหลักอิเหลื่อ...ประการที่ห้า ต่อให้สุรยุทธิ์หมดอำนาจ ถ้าคณะทหารยังยืดการเลือกตั้งออกไปอีก ก็เท่ากับละเลยต่อกระแสสูงของประชาชนที่ต้องการการเลือกตั้ง ทั้งคณะผู้รักประชาธิปไตย และคณะยามเผาแผ่นดิน...สภาพของพม่าก็เห็นเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว ผมเชื่อว่า คณะทหารเองก็ต้องคิดหนักอยู่แน่ๆ...ประการที่หก ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยเชื่อมั่นในพลังประชาชนอย่างแท้จริงแล้ว ต่อให้เลื่อนการเลือกตั้งไปอีกสิบปี ยี่สิบปี ชัยชนะในบั้นปลายก็มาอยู่เอง ไม่เห็นต้อง "ตื่นตูม" จนต้องไปร่วมกับโจรเลย....ฯลฯ
13. ในสมัยสงครามกลางเมืองของจีน วังจิงวุย นักการเมืองในพรรคก๊กหมิ่นตั๋งเพราะต้องการเอาชนะ เจียงไคเช็ค (เผด็จการทหาร)ที่กุมอำนาจในพรรคก๊กหมิ่นตั๋งในขณะนั้นในทางการเมือง ก็ย้ายไปเข้าร่วมข้างกับโจรญี่ปุ่น....สุดท้ายนอกจากไม่ชนะแล้ว ก็ได้ชื่อว่า เป็นคนทรยศต่อชาติไป...
14. ที่สำคัญ คนจำพวกนี้ทั้งหมด มันก็คือ โจร นี่เอง มั่นใจหล่ะหรือครับ? ว่าปกป้องโจรวันนี้ วันหน้าโจรจะไม่หักหลังเราอีก?
15. จะว่าอย่างไรก็ช่าง ท่านใดเห็นควรจะทำประการใดก็ตามสะดวก เป็นสิทธิ และเสรีภาพ เต็มที่ครับ ผมไม่ก้าวล่วง...สำหรับส่วนตัวผมแล้ว ก็จะยังคงวิจารณ์ "โจร" ต่อไป ไม่ว่าจะโจร คมช หรือ โจร สุรยุทธิ์ หรือ กระทั่งโจรยามเผาแผ่นดิน...ผมจะไม่เอาผลประโยชน์เฉพาะหน้ามาทำลายผลประโยชน์ระยะยาวแน่นอน
จากคุณ :
นายเจ็ดตัวอักษร
- [
30 ก.ย. 50 15:44:00
A:124.120.66.15 X:
]
|
|
|