ความคิดเห็นที่ 1 เงื่อนไขอีกประการ นายกสโมสรสมาคมฯ คนปัจจุบันคงไม่ยอมง่ายจนกว่าจะตายจากลาโลกหรือถูกปลดออกซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกเหมือนกัน จากคุณ : นักกวนเมือง - [ 14 ต.ค. 50 13:42:37 A:58.8.203.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 กลับมาได้ซิคับท่านทักษิณเป็นคนไทยไม่ใช่นักก่อการปฎิวัติ....พวกเผด็จการเวรกรรมเริ่มวิ่งตามแล้ว.... จากคุณ : ionic09 (ionic09) - [ 14 ต.ค. 50 13:49:43 A:124.120.164.81 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอาไว้ให้กลับมาก่อน ค่อยหาทางแก้ไข จะดีกว่า วัวหาย แล้วล้อมคอก หรือ ล้อมคอก หลังวัวหาย อยากจะทำอย่างไหนก็แล้วแต่ จากคุณ : tkl1982 - [ 14 ต.ค. 50 13:49:58 A:58.9.51.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันหนึ่ง ขงจื๊อ เมธีจีน พร้อมศิษยานุศิษย์เดินทางรอนแรมลี้ภัยการเมืองอยู่กลางป่า พอได้เวลาอาหาร ลูกศิษย์เตรียมตักข้าวใส่จานพร้อมสำรับอาหาร ขณะกำลังตักข้าวอยู่ห่างๆนั้น ท่านขงจื๊อ สังเกตเห็นว่าลูกศิษย์หยิบข้าวจากจาน ของท่านขึ้นมาใส่ปากเคี้ยว ท่านจึงสอนและชี้ให้เห็นว่า การหยิบอาหารจากสำรับของครูบาอาจารย์มารับประทานก่อนได้รับอนุญาตนั้น แสดงถึงความ "อนารยะ" ที่น่าตำหนิอย่างยิ่ง ลูกศิษย์จึงขอโอกาสชี้แจง "อาจารย์ครับ.....ที่กระผมหยิบข้าวจากจานของอาจารย์ขึ้นมารับประทานก่อนหาใช่กระทำไปด้วยความเขลาหรือขาดคารวะก็หาไม่แต่ที่เป็นเช่นนั้น เพราะในจานข้าวของอาจารย์มีผงถ่านสีดำปนเปื้อนข้าวอยู่ครั้นจะยกมาให้อาจารย์เลยก็เกรงว่าคงไม่เหมาะจะหยิบข้าวที่เปื้อนนั้นทิ้งก็เสียดายเพราะข้าวหายากและจำเป็นมากสำหรับการอยู่รอดในยามวิกฤติกระผมก็เลยหยิบข้าวที่เปื้อนนั้นขึ้นมารับประทานเสียเองขอรับ" แววตาที่ฉายแววดุของผู้เป็นอาจารย์ ค่อยๆ ทอประกายอ่อนโยนด้วยเมตตา ก่อนเอ่ยวาจาขอโทษผู้เป็นศิษย์อย่างไม่ถือตัว บ่อยครั้งที่เรามักตัดสินอะไรผิดพลาดอย่างง่ายดายจนเสียทั้งคน เสียทั้งงาน และบางทีก็เสียผู้เสียคน เสียเกียรติภูมิที่สู้สั่งสมมาทั้งชีวิตในชั่วพริบตา เพียงเพราะเราเชื่อในสิ่งที่สายตารายงาน ขณะที่บางด้านของความจริงกลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง สามีทะเลาะกับภรรยา พ่อแม่ทะเลาะกับลูก นายเข้าใจผิดลูกน้อง เพื่อนแตกจากเพื่อน คนรักหันหลังให้กันทั้งที่ต่างฝ่ายก็แสนดี เพียงเพราะต่างก็เชื่อใน "สิ่งที่ตาเห็น" แต่ละเลยการ "เมียงมอง" อย่างพินิจแยบคายโดยใช้ "ปัญญาจักษุ" อันสุขุม เราจึงติดอยู่ใน "ภาพลวงตา" อันเป็นมายาคติ พลอยทำให้หลงลืม "ความจริง" ที่เป็นจริงอีกด้านหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย จงมองด้วย "ตา" แล้วปล่อยให้ "ปัญญา" เป็นผู้วินิจฉัย สิ่งที่ตาเห็นกับสิ่งที่ปัญญาประจักษ์ ไม่แน่ว่าจะสอดคล้องกันเสมอไป จงใช้ตานอกสำหรับ "ดู" แล้วจงใช้ตาในสำหรับการ "เห็น" บางสิ่งที่อยู่ในใจ..อาจไม่ได้แสดงออกมา ไม่ทำตาม... อย่าตีความหมายว่า...ดื้อ ไม่ยึดถือ... อย่าตีความหมายว่า...เมินเฉย ไม่ใส่ใจ... อย่าตีความหมายว่า...ละเลย คำพูด..ที่ยังไม่เฉลย ก็ใช่ว่า..ไม่อยากเอ่ย..มันออกไป นิ่งเงียบ... อย่าตีความหมายว่า...ไม่คิด ยอมรับผิด... อย่าตีความหมาย...อย่างที่เห็น แม้ว่า... จะถูกโจมตี..ด้วยวาจา..ที่สาดกระเซ็น ก็ใช่ว่า..เจ็บไม่เป็น อย่างเช่น...คุณเข้าใจ ไม่ถาม... อย่าตีความหมายว่า...โง่ ไม่ตอบโต้... อย่าตีความหมายว่า...ยอมแพ้ แม้ว่า... หลายคน..อาจจะมองดูว่า..อ่อนแอ แต่..ที่ปล่อยให้เป็นไป.. เพราะเห็นแก่..ใครบางคน????? จากคุณ : หลออ้าย - [ 14 ต.ค. 50 13:55:24 A:125.25.72.192 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงตามเงื่อนไขบนโต๊ะเจรจาว่า สามารถหาข้อยุติตกลงเจรจายอมความกันได้หรือไม่ ตามข่าวเอเซียไทม์ที่คุณขนมต้มลิงก์มาให้ แต่ก็อย่างว่า "ที่ปรึกษา" ผมว่าน่าจะเป็นมือที่สาม สวมรอยปูดข่าวชิ้นนี้เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองในทางร้าย มากกว่าที่จะให้ข่าวอย่างธรรมดา สังเกตจากการวิเคราะห์ ที่ให้ผลประโยชน์เอียงเอนไปทางฝั่งหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด เพื่อจงใจให้อีกฝ่ายเข้ามาอ่านแล้วต้องทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ข่าวชิ้นดังกล่าวนี้ถ้าไม่ปูดจากฝั่งหัวหน้ายามฯ ก็ต้องเป็นค่ายโป๊งเหน่ง มากกว่า "ที่ปรึกษาของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ที่อ้างกล่าวแต่ประการใด จากคุณ : นักกวนเมือง - [ 14 ต.ค. 50 14:02:14 A:58.8.203.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฮึ ฮึ  เขียนมาตั้งเยอะ  สรุปก็คือ หนีคดี นั่นแหละ  ผู้ต้องหาหนีดคีก็มีข้ออ้างได้สารพัด   ไม่มีอะไรแปลกใหม่ จากคุณ : นิธิพจน์ - [ 14 ต.ค. 50 15:56:53 A:124.121.62.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 แบบเดียวกับหนีทหารหรือเปล่าจ๊ะ จากคุณ : kitutd17 - [ 14 ต.ค. 50 20:06:51 A:202.47.239.194 X: ]