........หลังจากนั้นเป็นต้นมา ศัตรูทางการเมืองซึ่งประกอบด้วยกลุ่มทหารที่สูญเสียอำนาจและพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ก็สบโอกาสในการเริ่มแผนโค่นล้มฝ่ายประชาธิปไตย บดขยี้ทำลายนายปรีดีให้ย่อยยับ โดยการกระจายข่าวไปตามร้านกาแฟและสถานที่ต่าง ๆ ตลอดจนตามหน้าหนังสือพิมพ์ แม้กระทั่งส่งคนไปตะโกนในโรงหนังว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง" สภาพการณ์ไม่ต่างจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่นายปรีดีถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่ครั้งนี้ดูจะรุนแรงร้ายกาจยิ่งกว่า.........
http://www.geocities.com/pbanomyong/articles_th/sarakadee07.html
*** กลุ่มทหารผู้สูญเสียอำนาจก็คือจอมพลป.พิบูลย์สงคราม พรรคการเมืองฝ่ายค้านครั้งนั้นก็คือปชป. คนที่ไปตะโกนในโรงหนังก็คือส.ส.พรรคปชป. *****
****************
...รัฐบาลนี้มีความเสียใจที่พรรคประชาธิปัตย์บางคนได้ฉวยโอกาสเอาพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพสักการะมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ในระหว่างที่พระองค์มีพระชนม์อยู่ ในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์บางครั้งได้แอบอ้างว่า ในหลวงรับสั่งอย่างนั้นอย่างนี้ จะขอยกตัวอย่างว่าในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ศกนี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกพฤฒสภาที่พรรคประชาธิปัตย์ลวงไปร่วมประชุมก็คงจะจำได้ว่า วันนั้นใครอ้างพระนามในหลวงไปพูดในที่ประชุมว่าอย่างไรบ้าง ซึ่งพระองค์เองไม่ทรงทราบเรื่องอะไรเลย พระองค์ทรงบำเพ็ญพระองค์เป็นกลางและเป็นที่สักการะโดยแท้จริง.....
*** 60 ปีไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ ********
http://www.geocities.com/pbanomyong/articles_th/sarakadee07.html
จากคุณ :
agrotech
- [
14 พ.ย. 50 00:18:42
A:124.121.142.107 X:
]