ไม่ง่ายนักที่นาทีนี้ ยังมีมนุษย์ภาคเอกชน กล้าเปลืองตัว
เพื่อชาติแบบนี้อีก ทั้งๆที่รู้ว่า 1 ปีผ่านมาใครทำเศรษฐกิจ
ชาติดิ่งเหวแค่ไหน และถ้าได้เป็นรัฐบาลจะต้องถูกรุมกิน
โต๊ะจากพลังมืดต่างๆอีกเพียบ.....
นับถือใจคุณจริงๆ "มิ่งขวัญ"
........................................................................
ตอนแรกผมก็คิดว่าจะกลับมาทำงานเอกชนอีกหรือไม่ เพราะมีบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศเสนองานมามาก แต่สิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศ กำลังเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง จาก 2 ปัจจัย คือ มาจากปัจจัยระดับโลกและภูมิภาค ซึ่งมีปรากฏให้เห็นชัดว่า เทอมเศรษฐกิจเที่ยวนี้ มันได้ย้ายจากอเมริกา ยุโรป เข้ามาสู่เอเชีย เพราะยุคนี้เป็นยุคที่เอเชียรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ผมกล้าพูดเลย ขณะที่ปัจจัยในประเทศ เราควบคุมไม่ได้เลย โดยเฉพาะ น้ำมัน
ด้วยเหตุนี้ ผมเลยมานั่งเขียนยุทธศาสตร์ชาติ ช่วงนั้นผมเขียนเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องค่าเงิน เรื่องส่งออก การท่องเที่ยว เรียงลำดับไว้ พร้อมทั้งเขียนทาง แก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไร ตอนเขียนก็ตั้งใจจะเขียนวิเคราะห์ปัญหา ด้วยความเป็นนักยุทธศาสตร์ เพื่อจะหาทางออก คิดว่าถ้าใครเป็นรัฐบาลผมก็จะเอาแผนนี้ไปยื่นให้
บังเอิญกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน(พปช.) คุยกัน แล้วมีมติพรรคมาเชิญผมไปร่วมงาน ตอนแรกผมไม่อยากทำ แต่ก็มี 2 เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจรับคือ
1. ตามลักษณะวิธีคิด ที่พรรค พปช.เน้นประชานิยม ซึ่งผมชอบ โดยเฉพาะประชานิยมรากหญ้า ซึ่งก็เป็นวิธีคิดเดียวกัน ผมดูว่า นโยบายของพรรคที่ยึดหลักเรื่องประชานิยมสู่รากหญ้า ผมคิดว่าน่าจะทำและสานต่อเพื่อจะได้ช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ แต่ผมยังเห็นว่ายังให้น้อยไป และคิดว่าถ้าบริหารประเทศจะหารายได้อย่างไร เพราะผมจะถนัดทางหารายได้เข้าองค์กร นี่จึงเป็นที่มาของยุทธศาสตร์ 3 เรื่อง คือ ประชานิยมสูตรต้นตำรับ ประชานิยมสูตรพิเศษ และการสร้างรายได้ให้ประเทศ
ส่วนเหตุผลที่ 2 ก็คืออยากให้ผมเข้ามาช่วยดูแลเศรษฐกิจทั้งระบบ ผมก็คิดว่า สมมติว่าได้เข้ามาทำ นโยบายก็น่าสนใจก็อยากจะทำ ซึ่งเราจะต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่หมด
เขาอธิบายถึง เหตุผลในการตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพปช.เพื่อปฏิเสธกระแสที่ว่า เขาเข้ามาเพราะ ใบสั่งนายหญิงจากลอนดอน
สำหรับหลักการบริหารจัดการของเขา ไม่ว่าจะอยู่องค์กรใด มิ่งขวัญ บอกว่าเขาใช้ยุทธศาสตร์ 3 ข้อนี้เป็นจุดยืนมาตลอด นั่นคือ
1.Totally Change คือการคิดใหม่หมดทั้งกระบวนทัศน์ ไม่ติดอยู่ในกรอบวิธีคิดเดิม หรือเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หัวจรดเท้า
2.JR มาจากกรณีศึกษาการรถไฟญี่ปุ่น Japan Railway ที่จับต้องได้ ซึ่งญี่ปุ่นเอาเข้าประเทศพร้อมไทย เคยเจ๊งทั้งคู่ แต่พอเขาเปลี่ยนโค้ดเป็น JR เขาเปลี่ยนตัวผลิตภัณฑ์หลัก เอาชินกันเซน หรือรถไฟความเร็วสูงลง มันก็พลิกสถานภาพจากคนนั่งเครื่องบิน เปลี่ยนมานั่งรถไฟ เช่น โตเกียวไปนาโงยาเหลือ 2 ชั่วโมง คอนเซปต์นี้บอกเลยว่า กทม.-เชียงใหม่ 3 ชั่วโมง จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
3.ประพฤติพรหมจรรย์ แปลว่า เราจะไม่แตะต้องผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น นี่คือจุดยืนของผม
จากคุณ :
ขอสักครั้งจะไม่ลืมพระคุณ
- [
19 พ.ย. 50 09:24:20
A:203.153.173.169 X:
]