PANTIP.COM : P6075246 เขียนได้ไง ไต้ฝุ่น (บุคคลในข่าว) ว่าทุกคนต่างก็ชม และชอบกันทั้งนั้น เพราะสะดวกกว่า สนามบินสุวรรณภูมิ []

ความคิดเห็นที่ 5

นี่ไงผลพวงจากพวกเผด็จการบ้องตื้น...แทนที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิไปจุดหมายปลายทางได้สะดวก...

อีกเรื่องก็วีซ่าซึ่งคนไทยขอยากขึ้น...เพราะเขารังเกียจรัฐบาลปฎิวัติ.....ไปดูสิคนมาเลย์ไปอังกฤษไม่ต้องใช้วีซ่านะ อยู่ได้ 6 เดือน .. หันมาดูคนไทยแล้วเศร้า...ว่ะ

นักท่องเที่ยวตปท.หน่ายสุวรรณภูมิ เช่าเหมาลำลุยเชียงใหม่-ภูเก็ต-สมุย
นักท่องเที่ยวทั่วโลกเซ็งบินแวะต่อเครื่อง "สุวรรณภูมิ" ปัญหาเพียบ

เปลี่ยนฐานไปใช้ "ชางยี สิงคโปร์-เช็ก แลป ก๊ก ฮ่องกง" บินตรงเข้าจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตในไทย เฉพาะภูเก็ต เชียงใหม่ 3 ล้านคน ขณะที่โฮลเซลค้าขายทัวร์ 11 แบรนด์ดังลงทุนเปิดธุรกิจใหม่ดีลสายการบินขอเช่าเหมาลำบริการลูกค้าตลอด ทั้งฤดู และสถานทูตเครือสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออกมาตรการคุมเข้มการยื่นขอวีซ่างัดสารพัดวิธีป้องกันภัย ทำธุรกิจเอาต์บาวนด์สะเทือนเลิกขายโปรแกรมเที่ยวอังกฤษ อเมริกา กว่า 20%

นาง พรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทผู้แทนค้าส่งท่องเที่ยว (wholesales) รายใหญ่ทั่วโลกกว่า 11 แบรนด์ รายงานตรงกันว่า หลังจากไทยมีนโยบายย้ายเที่ยวบินในประเทศของการบินไทยและโลว์คอสต์แอร์ไลน์ส จากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่มีนาคม 2550 เป็นต้นมาสร้างความไม่สะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ต้องการต่อเที่ยว บินไปยังจังหวัดท่องเที่ยวปลายทางเฉพาะภูเก็ต และเชียงใหม่ มีกว่า 3 ล้านคน/ปี

ขณะนี้นักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ 2 ส่วน ส่วนแรก เดินทางโดยลำพัง (free individual travel : FIT) ได้ปรับรูปแบบการเดินทางหันไปบินตรงผ่านทางสนามบินชางยี สิงคโปร์ และเช็ก แลป ก๊ก ฮ่องกง จากนั้นก็ต่อเครื่องบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์สหรือสายการบินทั่วไปซึ่งมีเที่ยว บินตรงเข้าจังหวัดปลายทางในเมืองไทยโดยตรง เลิกใช้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการต่อเที่ยวบินอีกต่อไป

ส่วนที่สอง นักท่องเที่ยวซื้อแพ็กเกจผ่านบริษัทจัดนำเที่ยวทางโฮลเซลรายใหญ่ของโลกได้ ปรับกลยุทธ์การค้าโดยรวบรวมจำนวนคนจากบริษัทรายย่อยมารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ จากนั้นก็ลงทุนเช่าเครื่องบินจากสายการบินในสหภาพยุโรปทำเที่ยวบินเช่าเหมา (charter flight) ตลอดฤดูหนาว พฤศจิกายนนี้-เมษายน 2551 เมืองปลายทางท่องเที่ยวมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากต่างประเทศเข้ามา 691 เที่ยว จำนวน 7 แสนคน บินตรงเข้าจังหวัดต่างๆ 4 พื้นที่หลัก ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี พัทยา เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากในการจะต้องมาต่อเที่ยวบินในประเทศที่ดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ

รวมทั้งมีรายงานเกี่ยวกับสถานทูตประเทศแถบยุโรปใน ไทยได้เพิ่มมาตรการการออกวีซ่าจากเมืองไทยไปยังประเทศต่างๆ โดยกำหนดขั้นตอนและวิธีการเข้มงวดขึ้นมาก อาทิ อังกฤษ สเปน สหรัฐอเมริกา ถึงจะเป็นผู้บริหารระดับใดก็ตามจะต้องไปเข้าคิวและแสดงตัวขณะยื่นแบบฟอร์ม การขอวีซ่าด้วยตนเอง และบางสถานทูตขอให้นำใบแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.) มาเป็นหลักฐานการขอวีซ่า

นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ตลอด ปี 2550 บริษัทตัวแทนนำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ (outbound) พากันยกเลิกการขายโปรแกรมทัวร์ไปยังประเทศแถบสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกากว่า 20% หลังจากสหรัฐอเมริกาและบางประเทศในยุโรปในกลุ่มข้อตกลงเชงเก้น (Schengen Agreement) 15 ประเทศ รวมถึงบางประเทศที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสหภาพยุโรป เช่น อังกฤษ เริ่มบังคับใช้กฎเหล็กตรวจคนเข้าเมืองและระบบการออกวีซ่าอย่างเข้มงวด

ข้อ บังคับใหม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ ทำให้สูญเสียกลุ่มนักท่องเที่ยวตั้งแต่ระดับกลางลงไปจาก 3 ปัจจัย 1)ยุโรปมีข้อกำหนดในรายละเอียดมาก เช่น อังกฤษ กำหนดให้ผู้ขอวีซ่าต้องยื่นเรื่องด้วยตัวเอง 2)ค่าธรรมเนียมเพิ่มสูงขึ้น กรณียื่นขอวีซ่าประเภท multiple มีค่าใช้จ่ายสูงราว 10,000 บาท นักท่องเที่ยวที่มีงบฯจำกัดและไม่มีจุดประสงค์ชัดเจนที่จะเดินทางไปยังจุด หมายใด จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปเที่ยวที่อื่นที่ได้รับความนิยมคือ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้

แนวโน้มการเดินทางในยุโรปในรอบ 2-3 ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะปี 2549 ประเทศแถบยุโรปตะวันออกได้รับการประชาสัมพันธ์เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ตั้งแต่ต้น ปี 2550 ผู้นำด้านการท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เช่น ฮังการี สโลวะเกีย และสาธารณรัฐเช็ก สมัครเป็นสมาชิกเชงเก้นแล้วแต่ยังไม่ได้นำกฎข้อนี้มาบังคับใช้กับนักท่อง เที่ยว เพียงแต่เริ่มมีมาตรการตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้เกิดการรับรู้ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้ตามข้อตกลง "เชงเก้น วีซ่า" ที่จะสมบูรณ์แบบในปี 2551

ขณะนี้ส่งผลให้บริษัททัวร์พากัน ปรับตัวหันไปขายแพ็กเกจท่องเที่ยวตลาดใหม่ในยุโรปเหนือ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ก ส่วนผู้ที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์เป็นกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็นตลาดบน

นายเอ นกกล่าวว่า นโยบายของสถานทูตที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นอุปสรรคต่อการนำนักท่องเที่ยวเข้าประเทศนั้นๆ และต้องการให้ทางการยุโรปและสหรัฐหันมารับฟังปัญหาและอุปสรรคจากบริษัท ทัวร์ต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย เช่นเดียวกับที่สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวเคยหารือกับสถานทูตญี่ปุ่น เรื่องการลดเงื่อนไขให้นักท่องเที่ยวที่มีประวัติการเดินทางที่ได้รับการ รับรอง

นางเมธ์วดี หังสพฤกษ์ ผู้แทนประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กล่าวว่า เริ่มข้อบังคับใหม่ในการขอวีซ่าเข้าอังกฤษ โดยได้นำระบบจัดเก็บข้อมูลชีวภาพ (biometric data) มาใช้ เริ่มมาตั้งแต่ 21 มิถุนายน 2550 ทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป ต้องยื่นคำร้องทำวีซ่าด้วยตนเองเพื่อสแกนลายนิ้วมือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 10 นิ้ว และถ่ายรูปในระบบดิจิทัล ทั้งนี้ยกเว้นผู้ถือหนังสือเดินทางสำหรับทูต หรือผู้เดินทางโดยมีหนังสือรับรองราชการ

สำหรับระเบียบการขอวีซ่า ใหม่ของอังกฤษและอีกหลายประเทศในเครือสหภาพยุโรปเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากแต่ละประเทศระบุว่าต้องการควบคุมการเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น และเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล ที่อาจนำไปสู่ภัยคุกคามด้านการก่อการร้าย เช่น สเปน ขอให้นักท่องเที่ยวแสดงหลักฐานเพิ่มพิเศษการเสียภาษีเงินได้ให้กับรัฐบาล ไทยควบคู่กับหลักฐานอื่นๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏอยู่ในระเบียบการเดินทางเข้าสู่ประเทศเครือสหภาพยุโรป อาทิ หลักฐานรับรองด้านการเงิน หลักฐานรับรองอาชีพ

นอกจากประเทศใน ยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นก็เริ่มใช้ระบบบันทึกลายนิ้วมือและถ่าย รูปหน้าตรงชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าไปในญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน มีผลบังคับใช้ 20 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา

จากมติชน

จากคุณ : Barai 15 - [ 29 พ.ย. 50 09:18:12 A:117.47.12.24 X: ]