Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    และแล้วในที่สุด ฝี แห่งประเทศชาติก็แตกออกมา และได้เห็นกันอย่างหมดเปลือก

    ถ้าเป็นฝี ก็คงจะบอกได้ว่า ฝี ได้แตกแล้วเรียบร้อยครับ  อาการอึมครึมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้ข้อยุติลงแล้วเรียบร้อย.....เรื่องที่ก่อให้เกิดความสับสนในประเทศไทยในระยะ 2 – 3  ปีที่ผ่านมา  จากข้อกล่าวหา 4 ข้อที่  คปค. นำเอาออกมาเป็นข้ออ้างเพื่อทำการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยและใช้อำนาจที่ได้รับจากการรัฐประหารนั้นเข้าควบคุมประเทศมาเป็นระยะเวลาปีเศษ....โดยได้รับการสนับสนุนและโห่ร้องอย่างท่วมท้นจากประชาชนไทยบางส่วน,  เหล่านักการเมืองบางส่วน,  สื่อมวลชน,  และนักวิชาการ  รวมทั้งผู้ที่อ้างตัวว่าสูงศักดิ์ทั้งหลายว่า  การรัฐประหารในครั้งนี้ชอบแล้ว  สมควรแล้ว

    แน่นอนว่าในเวลานั้นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต่างสับสน,  ต่างงุนงง,  ต่างสงสัยว่า,   เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย   รัฐบาลที่บริหารประเทศมาอย่างดีเศรษฐกิจกำลังรุดหน้า  จากที่ต้องเป็นประเทศลูกหนี้ของ IMF  กลายเป็นประเทศที่ปล่อยกู้ให้กับประเทศอื่น  ประชาชนต่างก็ได้รับการบริการจากภาครัฐตามสมควรและกำลังจะดีขึ้นเรื่อย ๆ   เป็นที่เชิดหน้าชูตาในวงการระหว่างประเทศ  กลับถูกทหารนำกำลังออกมายึดอำนาจด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า  “โกงกิน,  หมิ่นพระบรมเดชานภาพ, แทรกแซงสื่อ,  และครอบงำประเทศชาติ”   และหนำซ้ำยังมีคนที่เป็นที่เคารพนับถือของคนในประเทศมากมายออกมาให้การสนับสนุน   ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกลับไม่ได้รู้สึกถึงในสิ่งเหล่านั้น  

    อย่างไรก็ตามหลังการรัฐประหารผ่านพ้นไปปีเศษ  ภาพที่ฉายส่องออกมาจากที่คลุมเครีอ  กลายเป็นความชัดเจนที่ไม่สามารถปิดบังกันได้อีกแล้ว  ใครที่เป็น “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”   ใครเป็นผู้แอบซ่อนเบื้องหลังผู้มีอำนาจ เพื่อฉกฉวยผลประโยชน์ของชาติ......  และใครเป็นผู้ที่ยึดครองอำนาจของตนเองไว้โดยไม่สนใจประชาชนส่วน.....ภาพเหล่านี้ถูกฉายออกมาจนล่อนจ้อน    ไม่มีปิดบังกันอีกแล้ว  ความสับสน,  ความงุนงง,  ความสงสัย  ต่างถูกเปิดเผยออกมาจนหมดสิ้นว่า   “ใคร,  อะไร,  ที่ไหน,  และอย่างไร”  ที่เป็นผู้ผลักดันให้เกิดการรัฐประหารในครั้งนี้  และเพื่ออะไร
    มันไม่ใช่ความความน่าเกลียดเท่านั้น   แต่กลับเป็นความ   “น่าขยะแขยง”    อย่างไม่อาจจะหาที่เปรียบได้   ทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และผู้ให้การสนับสนุนการรัฐประหาร.......

    และแล้วด้วยแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ  และกระแสโลกที่ไม่อาจจะฝืนได้  ทำให้คณะผู้ยึดอำนาจไม่อาจฝืนกระแสได้อีกต่อไป   ทั้งภาคการเมือง,  สังคม,  และเศรษฐกิจ  ต่างรุมเร้าเข้ามาจนต้องบอกว่า   ขอยอมแพ้  ได้ฟัง พล. อ. อนุพงษ์  พูดในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนแล้ว ต้องเรียกว่าถึงขั้น   โยนผ้ายอมแพ้  และขอเอาตัวออกจากการเมืองอย่างสิ้นเชิง....แม้จะถูกปลดก็ยอมอยู่อย่างมีเกียรติ ......  นี่ซิครับ....เป็นทหารของพระราชา และทหารอาชีพอย่างแท้จริง  

    แต่ถ้ามองด้วยแว่นขยายแห่งประชาธิปไตยที่ถูกรัฐประหารในครั้งนี้   การรัฐประหารครั้งนี้เป็นการแตกของ  ฝี  ที่กลัดหนองและบ่มเพาะเอาไว้ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน  ทำให้คนไทยทั้งชาติว่า ที่จริงแล้ว ประชาชนไทยผู้รักประชาธิปไตยกำลังสู้อยู่กับอะไร  การพูดของท่าน  พล.อ. อนุพงษ์  เป็นเพียงถอยก้าวหนึ่ง ของสิ่งที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น   เพราะรู้แล้วว่าฝืนไม่ไหว.......  แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนี้จะยุติลงอย่างสิ้นเชิงในอนาคต  

    ดังนั้นวันที่ 23 ธ.ค. ที่จะถึงนี้จึงเป็นวันที่ประชาชนไทยทั้งชาติ  (ขอย้ำว่าทั้งชาติ)  จะต้องใช้อาวุธที่ระบอบประชาธิปไตยได้มอบเอาไว้ให้กับประชาชนทุกคน  นั่นก็คือ   “คะแนนเสียง”  เพื่อไปร่วมลงคะแนนเสียงเลือกว่าท่าน     จะให้ประชาธิปไตยปกครองประเทศและแก้ไขปัญหาของชาติ หรือ ให้เผด็จการอมาตยาธิปไตยปกครองประเทศและเข้ามายึดอำนาจเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ

    ปูนนก

    จากคุณ : ปูนนก - [ 29 พ.ย. 50 10:59:36 A:58.8.69.101 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom