ผมเคยเขียนถึงระบบการทำงานของสภาบ้านเราไว้ครั้งนึงว่าควรจะเป็นแบบการแบ่งขนม วันนี้จะขอเล่าเรื่องเก่าอีกครั้ง...
ระบบนี้พื้นฐาน คือ การมองการเมืองบ้านเราว่ามันมีทั้งที่ดี และไม่ดีปะปนกัน แต่จะทำยังไงให้คนชั่วทำลายกันเอง และไม่ได้ประโยชน์
สิ่งที่ผมเคยคิดไว้ คือ ถ้าอำนาจคือ ขนมชิ้นหนึ่ง และวิธีการที่ดีที่สุดในการแบ่งอย่างเท่าเทียม ก็คือการให้สิทธ์ในการตัดและการเลือกก่อนครับ
วิธีนี้ถ้าเราลองเอามาใช้ในการเมืองบ้านเราดู มันน่าจะดีมากๆ และคงจะขจัดคนที่ไม่ดีออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มาลองดุสิ่งที่ผมคิดนะครับ อันดับแรกคือ ขนมแห่งอำนาจก้อนนี้เป็นของคนสองคน คือ ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน
วิธีการของระบบนี้ง่ายๆ ครับ คือ ถ้าฝ่ายรัฐบาลเป็นคนคิดนโยบายนั้นๆ ผมจะให้สิทธืในการวางระบบครับ... นั่นคือระบบในการทำงานทั้งหมดแค่นั้น แต่สิทธ์ในการได้ทำงานจริงก็จะตกไปที่ฝ่ายค้าน... หลังจากที่ระบบนี้ได้ถูกวางอย่างรัดกุมจากรัฐบาลแล้ว
ระบบนี้อาจดูแล้ว ทำให้คิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยนะครับ แต่ลองคิดดูสิ ที่มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเพราะอะไร นั่นคือ การที่มันเป็นไปไม่ได้ ก็เพราะ ทั้งสองฝ่ายต่างจะเล่นเกมการเมืองใส่กัน เล่นแง่ใส่กันนั่นแหละ ซึ่งมันก็จะทำให้งานไม่สำเร็จ ประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์.... ซึ่งถ้าคิดกันจริงๆ แล้ว ปัจจุบันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว... เล่นแง่ใส่กัน
โดยระบบนี้ผมว่ามันน่าคิดมากๆ คือ ขนมแห่งอำนาจก้อนนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ ดังนั้นจะไม่มีใครอ้างสิทธ์ใดๆ ได้ เพราะขนาดการทำงานยังต้องพึ่งอีกฝ่ายเลย
ขอยกตัวอย่างนึง ที่น่าจะเห็นภาพนะครับ สมมุติถ้ารัฐบาลอยากให้มีร่างกฏหมายฉบับหนึ่งออกมา จะทำยังไงให้กฏหมายนี้ไม่มีใครได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ นั่นคือ ก็ให้ฝ่ายค้านเป็นคนร่างน่ะสิครับ แล้วค่อยมาออกเสียงกันว่าจะเอาหรือไม่เอา... สิ่งที่ร่างนั้นสิ่งที่ดีและไม่มีจะถูกขัดเกลาจนได้ข้อสรุปที่ลงตัวทั้งสองฝ่ายอย่งรัดกุม...
ทำไมนะเหรอ นั่นคือ
น่าคิดนะครับ เพราะจะไม่มีสิทธ์ขาดในการทำงานอีกต่อไป ที่ผ่านๆ มารัฐอยากได้อะไรก็เสนอนโยบาย พอประชาชนเลือก ก็เอาไปทำเองทั้งหมด ซึ่งการเอาไปทำเองทั้งหมดเนี่ยแหละครับ "ช่องว่างของการโกงกิน" สำหรับผมแล้วผมว่ามันไม่ยุติธรรมที่สุด มันเหมือนกับว่ารัฐบาลมีอำนาจในการหั่นขนม แถมด้วยการเลือกก่อนด้วย.... ผมว่ามันไม่ยุติธรรม เพราะขนามส่วนที่เหลือของประชาชนส่วนน้อยนี้ก็มีค่า
มีคำถามหนึ่งที่ผมอยากจะถามว่า เราจะให้ขนมมันคงรูปเดิมโดยไม่แบ่งมันเป็นเสี่ยงเป็นเสี้ยวให้เกิดความแตกแยกได้ไหมครับ โดยการเปลี่ยนให้คนสองคนผลัดกันถือ
ผมจึงคิดระบบแบ่งขนมนี้ขึ้นมารองรับการทำงานที่หละหลวม.. ของระบบที่เราใช้กันอยู่ ซึ่งข้อเดียวของการจะอยู่รอดในระบบการเมืองนี้จริงๆ "การเป้นคนดีที่ใจกว้าง" ถ้าถามผมว่าใจกว้างขนาดไหนที่จะอยู่รอด... นั่นคือ ใจกว้างพอที่จะให้อำนาจแก่ผู้อื่นทำงานแทนเรา มันเหมือนการปิดทองหลังพระ ในทางอ้อม บวกด้วยการยอมรับความคิดการทำงานของฝ่ายตรงข้ามที่มีเสียงน้อยกว่าในสภา
วิธิคิดแบบนี้น่าแปลกนะครับที่ไม่มีคนเอามาใช้จริง ซึ่งถ้าคิดดีๆ มันอาจเป็นทางรอดทางเดียวของบ้านเมืองก็ได้
ผมบอกข้อดีของระบบนี้ไปแล้ว ที่นี้มาดูข้อเสียข้อเดียวเลยครับ คือ ถ้าต่างคนยังแก่งแย่งชิงดีกันแบบนี้ ระบบจะทำลายคนชั่วด้วยการให้ไม่อะไรออกมาสู่สายตาประชาชนเลย สรุปก็คือ เมื่อคนในระบบคิดจะชั่ว มันก็จะกินตัวมันเอง จึงทำให้มันต้องดีขึ้นในอีกมุม สรุปก็คือ มันเป็นข้อดีที่เข้มแข็งที่สุด
ระบบนี้น่าสนใจที่ว่าทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน จะได้ทำงานร่วมกันเพื่อประชาชนจริงๆ ซึ่งพอจบสมัยการทำงาจนจะไม่มีการออกมาบอกว่าใครทำอะไรดี-ไม่ดีไว้บ้างอีก เพราะมันต้องช่วยกันทำนั่นแหละ
ระบบนี้ผมว่าไม่ว่าเราจะได้คนไม่ดีเข้าสภาอย่างไร ระบบจะขจัดคนชั่วคนไม่ดีด้วยตัวมันเองทันที...เหตุผลอีกข้อที่ควรจะใช้ระบบนี้ที่สุด ก็คือ ระบบนี้จะล่มได้ก็คือ การที่คนทั้งสองฝ่ายจับมือร่วมกันโกงประเทศนั่นแหละครับ...
ขอฝากวิธีคิดแบบนี้ไว้ด้วยนะครับ... เผื่อประเทศเราจะได้เจริญขึ้น
จากคุณ :
Pathorn
- [
4 ธ.ค. 50 12:11:39
A:58.9.1.111 X:
]