ความคิดเห็นที่ 44
Copy มาจากเวบ อภิสิทธิ์ครับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนักการเมืองมากว่า 15 ปี ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญนอกเหนือจากสมาชิกสภาผู้แทนแล้ว ยังรับหน้าที่โฆษกรัฐบาลและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. ๒๕๔๐ - ๒๕๔๔) ที่กำกับดูแลหน่วยงานและโครงการสำคัญๆ หลายด้าน เช่น การปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบราชการ การปราบปรามทุจริต ฉ้อราษฎร์ บังหลวง ฯลฯ นับได้ว่านายอภิสิทธิ์เป็นผู้ผลักดันให้เกิดกลไกป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างครบวงจร
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (B.O.I.) และได้มีบทบาทสำคัญในการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างประเทศ กลับสู่ประเทศไทยหลังวิกฤตเศรษฐกิจพ.ศ. ๒๕๔๐ ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเร็วขึ้นและกลับสู่การเจริญเติบโตในช่วงถัดมา
ทั้งยังเป็นผู้ผลักดันให้เกิดการจัดตั้ง กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ส.ส.ส.) ซึ่งมีบทบาทในสังคมไทยอย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้
ผลงานหลายๆอย่างที่ปรากฏยังคงเป็นรากฐานสำคัญของการบริหารในปัจจุบัน อาทิเช่น
กฎหมายข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิที่จะได้ข้อมูลจากราชการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อให้การพิจารณาปัญหาใด ๆของสังคมอยู่บนหลักการของเหตุและผล ไม่ใช้อคติ เกิดความโปร่งใส แต่ยังมีปัญหาว่าการขอข้อมูลราชการเรื่องการตรวจสอบกรณีทุจริตยังมีการบ่ายเบี่ยงไม่ให้ความสะดวก
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ เพื่อคุ้มครองบุคคลหรือสถาบันที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องการทุจริตหรือการกระทำที่ละเมิดกฎหมายที่เกิดขึ้น
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจ เพื่อให้การบริหารลงไปถึงระดับชุมชนท้องถิ่น เป็นคนของท้องถิ่น ที่สามารถบริหารงานตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนนั้นๆได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้รูปแบบของระบบประชาธิปไตยเกิดขึ้นจากรากหญ้าอย่างแท้จริง เพื่อให้รัฐบาลสามารถกำหนดนโยบายและจัดสรรงบประมาณได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
ศึกษาเพื่อเตรียมผลักดันให้เกิดกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในวิชาชีพสื่อ เพื่อให้สื่อมวลชนสามารถเสนอข่าวสารและข้อมูลต่อสาธารณะอย่างอิสระ และป้องกันไม่ให้อำนาจรัฐมากดดันกลั่นแกล้ง เพื่อให้เสรีภาพของสื่อมวลชนได้รับความคุ้มครอง
มีส่วนผลักดันให้เกิดกติกากลางให้มี กทช., กสช. เพื่อให้องค์กรด้านการสื่อสารมวลชน มีเสรีภาพปราศจากการครอบงำจากอำนาจรัฐและธุรกิจผูกขาดด้านการสื่อสารมวลชน สามารถให้บริการแก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพ
ผลักดันแนวคิดเรื่องวิทยุชุมชน ทำให้ท้องถิ่นต่าง ๆ สามารถนำเสนอข้อมูลรับใช้ท้องถิ่นของตนได้อย่างสะดวก แต่ก็พบว่าหลายสถานีถูกกลั่นแกล้งโดยใช้อำนาจไม่ถูกต้องสั่งปิดเพราะพบว่าสถานีเหล่านี้นำเสนอข้อมูลที่ทำให้ประชาชนรู้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น หรือเสนอรายการให้ข้อมูลด้านสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนพึงมีให้ประชาชนรับฟัง
เสนอแนวคิดเรื่ององค์กรอิสระเพื่อการตรวจสอบ เช่น ปปช. , ศาลปกครอง, กกต. ทำให้เกิดองค์กรอิสระเพื่อตรวจสอบความไม่ถูกต้องของการใช้อำนาจของรัฐบาลและข้าราชการ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย เพื่อให้การตรวจสอบมีความโปร่งใส หลีกเลี่ยงการโหวตในสภาที่เอียงอยู่บนฐานของพวกพ้อง ทำให้ไม่สามารถเอาผิดจากผู้ทุจริตได้ แต่รัฐบาลนี้เข้าไปแทรกแซงการสรรหาและการทำงานขององค์กรอิสระเพื่อการตรวจสอบเหล่านี้ส่งผลให้สังคมเคลือบแคลงและไม่เชื่อถือ เสนอมาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้การคุ้มครองแก่บุคคลและสถาบันที่ให้ข้อมูลตรวจสอบการทุจริตและกระทำผิดต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐหรือนักการเมือง ให้เกิดความปลอดภัย และเกิดความกล้าหาญและภาคภูมิที่จะกระทำดีโดยไม่ต้องเกรงกลัวอำนาจมืด
เสนอกฎหมายให้การฮั้วประมูลเป็นความผิดทางอาญา เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตจากบริษัทเอกชนผู้เสนอราคาและหน่วยงานรัฐผู้จัดซื้อจัดจ้าง เป็นการเพิ่มบทลงโทษซึ่งแต่เดิมไม่เคยมี มีแค่ประกาศชื่อบริษัทที่ไม่สามารถเสนอราคาได้อีกเท่านั้น ทำให้การฮั้วยังคงมีและสร้างความเสียหายต่องบประมาณของรัฐ ผลประโยชน์ของประเทศชาติและไม่ยุติธรรมกับบริษัทเอกชนอื่น ๆ
เสนอกฎหมายองค์การมหาชน เพื่อให้การให้บริการด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนมีความคล่องตัว มีคุณภาพ ลดขั้นตอนที่เยิ่นเย้อไม่จำเป็น สร้างทัศนคติใหม่ในการให้บริการแก่ประชาชน
ผลักดันแนวคิดเรื่องการสรรหาผู้บริหารระดับสูงในองค์กรและการเข้าสู่ระบบสัญญาจ้าง เพื่อให้สามารถสรรหาผู้บริหารระดับสูงที่มีคุณภาพ ทำงานอย่างมีอิสระ ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ไม่มีการผูกขาดอำนาจ สัญญาจ้างจะมีข้อกำหนดการปฏิบัติงานและบทลงโทษและการเลิกจ้างหากไม่สามารถบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ต่อไป
ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์มีบทบาทสำคัญในงานนิติบัญญัติ และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐด้วยการตั้งกระทู้และการอภิปรายต่างๆ
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง จะใช้ข้อมูลและแง่มุมที่ถูกต้องชัดเจน ด้วยการหาข้อมูลอย่างละเอียดเป็นระบบ นำเสนอให้สภาทราบถึงข้อเท็จจริง และร่วมกันพิจารณาโดยการยึดเหตุและผลเป็นหลัก ไม่ใช่อคติ เพื่อสร้างบรรยากาศการอภิปรายที่มีคุณภาพ ไม่เกิดการส่อเสียด ด้วยวาจาไม่เหมาะสม ทำให้การอภิปรายดำเนินไปอย่างกระชับ
ผลงานที่เด่นที่สุดในสายตาประชาชนคือการอภิปรายเรื่อง CTX (เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่สนามบินสุวรรณภูมิ)
จากคุณ :
DragonRadar
- [
28 ธ.ค. 50 18:51:42
A:61.91.224.202 X:
]
|
|
|