รัฐบาลที่"คนกรุง"เมิน
2 มกราคม พ.ศ. 2551 10:34:00
"สิ่งที่เห็น...หาใช่ สิ่งที่เป็นจริงทางการเมือง"
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ถึงขณะนี้การวิ่งเต้น "จับขั้ว" ทางการเมืองยังคงดำรงอยู่ ...และจะฝุ่นตลบไปอีกระยะ และอาจจะลุ้นกันถึงวันเปิดประชุมสภา ช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีก็เป็นได้...เหตุเพราะเป็นการเลือกตั้งที่ "ผิดปกติ"!!!
ดังนั้นความเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มหรือขั้วอำนาจ ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ไม่สามารถยึดมาเป็นความจริงได้ เพราะในหลายความเคลื่อนไหว อาจจะเป็นเพียงเกม ที่หลอกล่อ หรือหวังต่อรองอีกฝ่ายหนึ่ง ...หาใช่สิ่งที่เป็นจริงทางการเมือง ที่สำคัญหลายครั้งเกิดขึ้นจริงแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามโอกาสของพลังประชาชน จัดตั้งรัฐบาล "สูง" กว่าประชาธิปัตย์หลายเท่า เหตุผลเพราะตัวเลข ส.ส.ที่ยึดมาได้ถึง 233 ที่นั่ง เมื่อเทียบกับประชาธิปัตย์ ที่มีเพียง 165 ที่นั่ง แม้จะจะมีใบแดงแต่เท่าที่ดูพฤติกรรมการทำงานของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง คาดว่า "คงไม่มากพอที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงตัวเลขครั้งใหญ่"!!!
เพียงแต่มีคำถามตามมาว่า รัฐบาลที่คนเมืองและคนกรุง (ส่วนใหญ่) ไม่เห็นด้วยนั้นจะผ่านไปได้สะดวกหรือ? สิ่งนี้กระมัง ที่พรรคประชาธิปัตย์เอง ยังหวังลึกๆ ถึงนาทีสุดท้าย
ย้อนไปในอดีตหากพรรคการเมืองใดที่ คนกรุงไม่นิยม เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล..มีแนวโน้มอยู่ไม่ยืด เข้าตำรา "คนชนบทตั้งรัฐบาล แต่คนกรุงล้ม ..."
การเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 2550 มีตัวเลขที่น่าสนใจ 2-3 จุด แม้ที่นั่ง ส.ส.โดยรวมพลังประชาชน ดูจะเหนือประชาธิปัตย์ ถึง 68 ที่นั่ง แต่เมื่อกันมาดูตัวเลขคะแนน "สัดส่วน" ที่บ่งชี้ความนิยมในพรรคการเมือง กลับออกมาสูสีอย่างมาก
ตัวเลขยังไม่ชัดเจน เนื่องจาก กกต.ยังไม่ประกาศอย่างทางการ แต่เท่าที่รวบรวมจากตัวเลข กกต.ในเบื้องต้นพบว่า อยู่ระดับ 12 ล้านเสียงทั้งสองพรรค
เทียบกับอดีตพรรคไทยรักไทย เมื่อการเลือกตั้งปี 6 ก.พ. 2548 คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ อยู่ที่ประมาณ 18.9 ล้านเสียง ถือว่าลดลงมาก แต่ด้านหนึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าคะแนนเสียงส่วนหนึ่งกระจายไปตามพรรคใหม่ๆ ที่แยกตัวจากอดีตพรรคไทยรักไทย
แต่หากพิจารณาเฉพาะของประชาธิปัตย์เอง ตัวเลขสะท้อนความจริง อย่างหนึ่งว่า คะแนนนิยมในพรรคเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากการเลือกตั้ง ปี 2548 ที่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ อยู่ที่ 7.2 ล้านเสียง เพิ่มมาเป็น 12 ล้านเสียง
ที่สำคัญในกรุงเทพฯ จากเดิมที่พรรคประชาธิปัตย์มีเสียงเพียง 9.7 แสนคะแนน เลือกตั้งล่าสุด อยู่ที่ 1.06 ล้านคะแนน ส่วนพลังประชาชน 8.2 แสนเสียง
นอกจากนั้น ส.ส.เขตในกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กวาดมาได้ถึง 27 ที่นั่ง
ชัดเจนว่าคนกรุงส่วนใหญ่นิยมประชาธิปัตย์ !!!
ด้วยหลายเหตุผล...ชอบพรรค...ชอบหัวหน้าพรรคกับภาพพจน์คนหนุ่ม..ซื่อสัตย์..มีความรู้ เป็นต้น..ขณะเดียวกันมีความวิตกหากพรรคคู่แข่งมาเป็นรัฐบาล
ในอดีตปีที่พรรคความหวังใหม่ กับพรรคชาติไทย จัดตั้งรัฐบาลโดยคนกรุงและคนเมือง ไม่นิยมเช่นกัน บรรหาร ศิลปอาชา ดำรงตำแหน่งนายกคนที่ 21 เมื่อ ก.ค. 2538 ดำรงอยู่ได้ ประมาณ 1 ปีครึ่ง หรือ พ.ย. 2539 ต้องยุบสภา
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ชนะการเลือกตั้ง 17 พ.ย. 2539 เฉือนประชาธิปัตย์หวุดหวิด จัดตั้งรัฐบาลได้ประมาณ 1 ปีก็ต้องจำยอม "ลาออก" เพราะไม่อาจทนแรงกดดันของคนสีลมได้
จะเห็นว่าอายุเฉลี่ยของรัฐบาลที่ "คนกรุงเมิน" นั้นอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปีแต่กรณีของ บรรหาร ศิลปอาชา นานเป็นพิเศษ เพราะถึงแม้จะไม่ได้เสียงจากคนกรุงหรือคนในเมือง แต่หลังเข้ามาบริหารประเทศแล้ว นโยบายหลายอย่างเอาใจคนกรุง และคนชั้นกลาง โดยเฉพาะ "การปฏิรูปการเมือง" ที่นำมาสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540
บทเรียนในอดีตอาจจะทำให้พลังประชาชน..ตระหนักบ้างว่าเมื่อคนกรุงไม่นิยม อายุรัฐบาลจะเป็นอย่างไร แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสูตรสำเร็จทั้งหมด...หากจัดตั้งรัฐบาลแล้วคณะรัฐมนตรีเป็นที่พอใจของคนกรุง...นโยบายไม่ฝืนกระแส..ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม...ไม่ยุบ คตส.ก่อนกำหนด ...ไม่ฟอกความผิดให้บางคน !!!
หากทำได้แค่นี้อายุรัฐบาลอาจจะยาวได้ถึง 1 ปีครึ่งก็เป็นได้..แต่หากไม่ทำตามนี้ 6 เดือนก็นานเกินไปแล้ว ?
---------------
http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/02/WW01_0104_news.php?newsid=216751
น่าประหลาดที่ผู้เขียนไม่เห็นความผิดปกติ ของสิ่งต่อไปนี้
ื 1. คะแนนสส.แบบสัดส่วน และ แบบเขตที่ไม่คล้อยตามกัน
สิ่งนี้ปชป.กลับนำไปเป็นหาประโยชน์ว่าคนต้องการอภิสิทธิ์มากกว่าสมัคร
2. คะแนน exit poll ต่างกับคะแนนความเป็นจริงค่อนข้างมากอย่าง
ผิดสังเกตุ
มีผู้พยายามให้เหตุผลว่า เพราะปชช.ไม่อยากบอกความจริง...น่าแปลกที่
เพิ่งจะเกิดกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เลือกตั้งครั้งก่อน ๆ ก็ดูจะเต็มใจบอกความจริง
3. เวทีหาเสียงคนไปฟังพปช.กับปชป.จำนวนต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งน่าจะแสดงถึงแนวโน้มว่าจำนวนผู้สนับสนุนระหว่าง 2 พรรคต่างกันเพียงใด
ปชป.บอกว่าพลังเงียบเลือกปชป. นี่คือเหตุผลที่ปชป.ชนะ
ดูเหมือนผู้เขียนคอลัมน์จะเชื่อสนิททุกอย่างที่ฟากปชป.แถลง แม้ว่าอีก หลาย ๆ ประเด็นที่ยังมีผู้สงสัย เช่นข่าวเรื่องคะแนนเสียงบางหน่วย บางเขต
มากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ ผู้เขียนก็ไม่ไปแตะประด็นเหล่านั้นเลย
หากจะเป็นสื่อที่มีคุณภาพก็ควรจะมองให้รอบด้าน มิใช่หยิบยกแต่สิ่งที่เป็น
คุณแก่ฝ่ายที่ตนสนับสนุนมาเสนอเท่านั้น
จากคุณ :
sao..เหลือ..noi
- [
3 ม.ค. 51 08:48:41
A:58.8.167.157 X:
]