PANTIP.COM : P6215336 แปลกใจที่วันนี้ยังมีคนพูดว่า ทักษิณทำเศรษฐกิจไทยพัง รัฐบาลชวนเป็นผู้กอบกู้ [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 6

เขามีข้อมูลอ้างอิงทุกอย่างนะครับ มีเวบให้เข้าไปตรวจสอบ ถ้าไม่จริงควรเอาข้อมูลมายันดีกว่าครับ

.............เนื้อหาในกระทู้นี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน .........ส่วนแรก คือ เหตุการณ์ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ปี 40 ..และบุคคลที่เกี่ยวข้อง .................กับ ส่วนที่ 2 ..รู้สึกอย่างไร กับ วลี "เศรษฐกิจแย่ คิดถึงทักษิณ"

รายชื่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ก่อนเกิดวิกฤต ต้มยำกุ้ง

พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศพระบรมราชโองการ เมื่อวันที่

๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธยในประกาศ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และในวันที่

๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ข้อมูลอ้างอิงจาก : http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m6-4/no01-08-36/president/sec22p02.html )

๑. นายสุขวิช รังสิตพล เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

๒. นายอำนวย วีรวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

๓. นายกร ทัพพะรังสี เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

๔. นายมนตรี พงษ์พานิช เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๕. นายสมัคร สุนทรเวช เป็นรองนายกรัฐมนตรี

๖. นายโภคิน พลกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

๗. นายชิงชัย มงคลธรรม เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

๑๑. นายรักเกียรติ สุขธนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

๑๒. พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

๑๔. นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

๒๕. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

๒๖. นายพินิจ จารุสมบัติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

๓๐. นายเสนาะ เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

๓๕. ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

๔๔. นายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ต่อมามีการปรับคณะรัฐมนตรี ดังนี้

วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๐ มีรัฐมนตรีลาออก ดังนี้

๑. นายอำนวย วีรวรรณ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

๒. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ในวันเดียวกันนี้ได้มีพระบรมราชการโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้

๑. นายทนง พิทยะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

๒. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

................วันที่ 2 กรกฏาคม 2540 คือวันที่มีการ ลอยตัวค่าเงินบาท
(จนเป็นเหตุให้ ประเทศไทย ประสบวิกฤติเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์)

วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๐ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

และแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้

๗. นายเกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้เป็น

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

๘. นายชิงชัย มงคลธรรม พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้เป็น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

๙. นายมนตรี ด่านไพบูลย์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และแต่งตั้งให้เป็น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม

๑๐. นายฉัตรชัย เอียสกุล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย

*********๑๑. พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี**********

๑๒. นายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นรองนายกรัฐมนตรี

และในวันเดียวกันนี้ ก็ มีการตั้งทีมเศรษฐกิจ และมีการ ลงนามสัญญากู้เงินจาก IMF ในวันเดียวกันนี้
(ข้อมูลอ้างอิงจาก : http://www.naewna.com/news.asp?ID=65483 )

จากข้อมูลในเว็บไซด์ดังกล่าว ทำให้พอบอกได้ว่า "ทักษิณ" และพรรคพวก คือ ผู้ที่ นำประเทศเข้าสู่การเป็นหนี้ IMF

..........คนที่เอาข้อมูลนี้มาพูดถึง จนทำให้ ผมต้องเปิดประเด็นกระทู้นี้ขึ้นมา พูดไว้ดีมาก

"ผมได้ตอคำถามคุณ สองโจแล้วนะครับว่าทำไม ดัชนีตลาดหุ้นในยุคนั้น จาก1700 เหลือ 200 ผมไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยต่อไป(ถ้าหากบุคคลบางคน ในรายชื่อเหล่านี้ กลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง) แต่รู้ว่า ฝันร้ายของวิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นอย่างไร "

(ส่วน ข้อมูลที่บอกว่า รัฐบาลชวน ที่เข้ามา ช่วง ปี 2541 - 2544 คือผู้ทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากทาส IMF "ตัวจริง" ) ผมไม่อยากลงรายละเอียด เพราะเคยพูดถึงไว้เยอะแล้ว
(อ้างอิงจาก :บทสัมภาษณ์ ของ รศ. ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ : http://webboard.mthai.com/5/2007-01-19/296804.html )
และ กระทู้ : http://webboard.mthai.com/58/2007-07-01/332125.html
***************************************************************

........................นี่เป็นประเด็นที่น่าคิดนะครับ .................... ยิ่ง ไปเห็น สติ๊กเกอร์ ที่ติดตาม รถแท็กซี่ ที่มีข้อความทำนองว่า "เศรษฐกิจ แย่ คิดถึงทักษิณ" .............คือ จะบอกว่า ถ้าจะให้เศรษฐกิจ ดี ต้องเลือกทักษิณ ว่างั้นเถอะ

..............งั้นผม ก็ มีข้อสังเกตอย่างนี้น่ะครับ ................... มีสิ่งที่น่าคิดอย่างนี้นะครับ

........1) ก่อนรัฐบาลทักษิณจะเข้ามาบริหารประเทศ ปี 44 ตอนนั้น เศรษฐกิจ ของประเทศไทยเรา อิงอยู่กับการส่งออก ประมาณ 40 - 50 % ของ GDP .............แต่พอทักษิณเข้ามาบริหารประเทศ ก็หันไปอิงการส่งออก สูงถึง 70 % ของ GDP ...ที่สำคัญ ช่วงปี 2545 - 2548 ที่ ทักษิณบริหารประเทศ ......นโยบายการส่งออกของไทยเรา เน้นหนักไปที่ สหรัฐสูงขึ้นมา ..(ข้อมูลจาก : http://www.ryt9.com/news/2005-06-02/iq118cf6de7d8053951af5ebc0a575bd65/)

...........แล้วถามว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ............ เศรษฐกิจสหรัฐ เกิดปัญหาซัพไพรม์ ขึ้น ...

................ภาวะการส่งออกของไทย เราตลอดปีที่ผ่านมา ......เป็นยังไง ...........ย่ำแย่อย่างไร ...นี่ เป็น ผลจากนโยบายที่ผิดพลาด นโยบายของ รัฐบาลทักษิณใช่หรือไม่ ...............

...........2) การแปรรูปรัฐวิสาหกิจน้ำมัน ขนาดใหญ่ ......... ทำให้ บริษัทน้ำมันมีกำไร ปีล่ะ ไม่ต่ำกว่า แสนล้าน ..........ถามว่าถ้าไม่มีแสนกว่าล้านตรงนี้ .......โครงสร้างราคาน้ำมันภายในประเทศมันน่าจะถูกกว่านี้ได้ ใช่หรือเปล่า...........ผมไม่เถียงว่า เงินส่วนหนึ่ง ปันผลให้กระทรวงการคลัง แต่ก็มีอีกไม่น้อย ที่ไปตกอยู่ในมือ ใครบ้างก็ไม่รู้ ที่เป็น บริษัท เป็นกองทุนนอมินีของไอ้พวกนักการเมืองจากเมืองไทย ............. ไปสร้างความร่ำรวยให้คนพวกนั้น ...........แล้วพอน้ำมันแพง .............ค่ารถเมล์ขึ้น ............ค่ารถ บขส.ขึ้น ...........เอาน้ำมันไปเติมรถแทร็กเตอร์ เกษตรกร ที่จนอยู่แล้ว ก็ยิ่งจนลงไปอีก ................เพราะฉะนั้น ไอ้คนรากหญ้า ที่มัน บูชา ระบอบทักษิณ .............หารู้ไม่ว่า ......ไอ้ค่ารถเมล์ ค่ารถบชส. ค่าครองชีพที่แพงขึ้นที่ทำให้มันเดือดร้อนจนจะตายห่ากันทั้งประเทศในเวลานี้น่ะ .............มันไปสร้างความร่ำรวยให้กับใครบ้าง .............................
................นี่ข้อมูลคร่าวๆ ..ยังไม่อยากลงรายละเอียดไปถึง นโยบายประชานิยม ที่จะสร้างความอ่อนแอ และเกิดผลเสียในระยะยาว ......เพราะ พูดกันเยอะแล้ว

..................นี่คือ ตัวอย่าง เล็กๆน้อยๆ .....แต่ ผมคิดว่ามีความสำคัญ ที่น่าจะเอามาเป็นประเด็นให้ได้ คิดกันได้

จากคุณ : juwis - [ 9 ม.ค. 51 17:05:40 A:203.153.128.192 X: ]