" หัวใจคือการผลิตรายการที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอหรือไม่? "
ประสาน อิงคนันท์ : ทีวีบูรพา
ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างมากกับคำพูดนี้
ขออนุญาตนำคำให้สัมภาษณ์ที่กล่าวถึง TPBS มาลงนะครับ
หลายคนออกปากอย่างดูหมิ่นดูแคลนกับทีวีที่ไม่มีรายได้จากสปอนเซอร์ที่ไม่คุ้นเคย
หลายคนที่อ่านดูแล้วเหมือนคนวงใน ก็เข้ามาเหยียบย่ำทั้งๆที่ยังไม่เกิด
บางคนถึงกับแช่งชักหักกระดูกว่าจะต้องล้มอย่างไม่เป็นท่าเพราะทำทีวีให้แมวดู
อยากจะถามคนวงในว่าอาจารย์คุณสอนหรือไม่...กับคำว่าทีวีสาธารณะ
ไม่มีใครบัญญัติขึ้นเองหรอก แต่นักวิชาการต่อสู้เพื่อการนี้มานับสิบๆปี
เพื่อให้ได้เป็นปากเสียงแทนตนเอง สู้กับสื่อของรัฐที่เข้ามาทีไรก็เข้าไปจุ้นทุกที
กรณีจุ้นเราไม่เอามาว่ากัน ลองสนใจกรณีคุณภาพของงานที่ดูเหมือนว่าไม่มีการแข่งขัน
สมมุตินะครับ เราลองมองโลกในแง่ดีก่อน
หากเขาเลือกรายการหนึ่งของทีวีบูรพา...คุณคิดว่าเขากล้าที่จะทำชุ่ยมั้ย?
คนทำงานอิสระผมว่าเหมือนนศเรียนรามคำแหง ที่ไม่มีกรอบมาคลุม
ไม่มีใครมาสั่งให้เรียนให้เล่น คนไทยติดการให้มีคนสั่งก่อนจะทำอย่างจริงจัง
แต่การคุมตัวเอง...เป็นเรื่องที่ยาก หากไม่เริ่มเราจะสร้างคนที่มีคุณภาพ
ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริงด้วยจิตวิญญานของนักข่าวที่กล้ารับผิดชอบต่อสังคม
หากบังเอิญเรื่องที่ทำดันไปเสนอด้านที่สปอนเซอร์ไม่ชอบ งานที่ทำมาถูกยกเลิก
คุณจะทำอย่างไร...ร้องไห้...ด่าลูกค้า...แล้วกันไป....
มองโลกอีกด้าน หากเปิดไปทีไรก็หน้าคุ้นๆว่ามาจากเวทีพันธมิตร
ก็รอนิดหนึ่ง รอสมัครลงตัวกับการนั่งเก้าอี้ตั้งท่าให้เหมาะๆลงตัว
ก็ไปตั้งแถวหน้าทำเนียบเลยครับ...เรียกร้องสิทธิการตรวจสอบตามระบบระบอบ
สุรยุทธกับสมัคร...คนละคนกันครับ มีที่มาต่างกัน บางอย่างอาจคิดไม่เหมือนกัน
เขาใช้อำนาจเป็น เราก็ใช้อำนาจให้ถูก....อย่าเอาแต่ด่าเขา สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย
ผมเสียดายหากใครจะพูดว่า รายการเก่าๆดีอยู่แล้ว ...ของใหม่ไม่มีทางดีกว่า
เพราะผมสงสารคนที่พยายามพร่ำสอนลูกศิษย์ที่ให้มาทำงานอย่างสร้างสรรค์
สร้างสรรค์ต่อตนเอง... สร้างสรรค์ต่อสังคม เพราะหากทำไม่ได้เท่ากับมือคุณตก
หากงานที่คุณได้รับมอบหมายแล้วไม่พยายามทำให้ได้ดีกว่าเก่าได้
สปอนเซอร์มีผลกับคุณภาพงานขนาดนั้นเลยหรือ?
ผลตอบแทนเป็นยาสร้างความกระชุ่มกระชวยให้นกน้อยส่งเสียงได้ไพเราะจริงหรือ?
แปลว่าคุณไม่เข้าข่ายในการทำงานในทีวีสาธารณะ แต่เหมาะกับเชิงพานิชย์
หรือประเภทกำกึ่งกันที่ยังพึ่งสปอนเซอร์อยู่
เรทติ้งวัดความนิยมของรายการที่แข่งขันกันในแต่ละ Categories
วัดความนิยมได้ว่าช่องใหน ....รายการใหนคนชอบดู...
ผมอยากถามว่าเขาวัดกันที่คุณภาพงานใช่มั้ย...ไม่ใช่เหมือนฉาบนิโคตินให้คนติด
ทุกวันนี้เราวัดเรทติ้งจากรายการเท่าที่มีอยู่ ที่ยังเกี่ยวแขนกับธุรกิจ
เพราะยอดขายของสินค้าทำให้ตลาดโต เมื่อตลาดโตก็ทำให้มีเงินอัดเข้ามากขึ้น
ธุรกิจแบบพึ่งพาก็พากันก้าวหน้าไปทั้งคู่
ถามว่า...รายการไม่มีธุรกิจเข้ามายุ่ง จะไปยุ่งอะไรกับการแข่งขันนั้นๆ
หลายคนบอกว่าคนดูต่างจังหวัด...เคยมีคนไปวัดเท่ากับคนในเมืองมั้ย
คนในเมืองรู้มั้ยว่าคนต่างจังหวัดคิดอย่างไรกับเขา...แท้จริงอย่างไร?
ผลการเลือกตั้งแบ่งคนเป็นสองกลุ่มใหญ่... สื่อก็มีส่วนไม่ใช่น้อย
คุณเอาเรทติ้งมาวัดอะไรเป็นเกณฑ์...." คุณภาพหรือจำนวนคนติดทีวี...."
ทีวีซีเรียส...ยังไงก็ไม่มีคนดู
ยูบีซีไง....ช่องซีเรียสเยอะแยะทำไม คนเสียเงินตั้งเยอะเข้าไปดูพวกรายการซีเรียสๆนั้น
สรุปได้ว่าจะดีหรือไม่อยู่ที่คนสองกลุ่มครับ
กลุ่มบริหาร...ที่เป็นกลาง ไม่เข้าใครออกใคร ตั้งประโยชน์เพื่อชาวบ้านเป็นหลัก
มุ่งหารายการที่สร้างสรรค์ใหม่ต่อสังคม เช่น ดีพอที่จะทำให้เกิด Interactive คือสื่อสารสองด้านได้
ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในนาทีนั้นๆ กับบางสิ่งของสังคมที่ยังไม่ลงตัวหรือยังต้องการการจัดการ
ไม่ใช่แค่ความเดือดร้อนส่วนตัว แต่ยังรวมถึงการเสริมสร้างความรับผิดชอบของคนต่อสังคม
และกลุ่มผู้ผลิตรายการ ที่ก็ได้ค่าตอบแทนจากรัฐนะครับ ไม่ได้ทำให้ฟรี
การที่อยากทำเพื่อสังคมผมเชื่อว่ามีอยู่ทุกรูขุมขน...
แต่งานสร้างสรรค์...ที่จะทะลุการดูถูกดูแคลนของคน
" ไม่มีเหยื่อมาล่อ...ไม่มีวันได้ดี "
...คุณจะยอมรับมันหรือแก้ไขด้วยตัวคุณเอง....?
.
แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 51 16:50:44
จากคุณ :
คนตรงรุ่น2000
- [
19 ม.ค. 51 16:44:59
A:124.121.244.63 X:
]