ความบางตอนจากการให้สัมภาษณ์พิเศษ โดย (หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ)

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) หากจำเป็นต้องร่วมหอลงโรงกับคุณสมัครจริงจะเป็นอย่างไร

(วัฒนา) ผมไม่มีปัญหา อยู่ที่ตัวท่าน

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) เป็นห่วงท่าทีคุณสมัครที่แสดงต่อสาธารณะในลักษณะปะ ฉะ ดะ หรือไม่

(วัฒนา)ผมมองคุณสมัครในขณะนี้ว่าก็อายุมากแล้ว คุณสมัครเป็นคนดีนะ คุณสมัครเป็นคนเก่ง แต่ท่านมีข้อเสียในตัว ถ้าละบางอย่างได้ท่านก็จะดี มาถึงบัดนี้ผมคิดว่าท่านละได้แล้วมั้ง เวลานี้จะเห็นว่าท่านสงบเสงี่ยมเจียมตัว ท่านไม่พูดอะไรเลย (หัวเราะ)

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) ถ้าคุณสมัครได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 25 จริง คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความสมานฉันท์หรือไม่

(วัฒนา) ถ้าคนตั้งใจดี อยากเห็นบ้านเมืองเป็นปกติสุข มีเศรษฐกิจที่ดี มีความมั่นคงทางการเมือง ถ้าเป็นคนไทยใครก็แล้วแต่น่าจะเสียสละเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ผมว่าการเสียสละเป็นสิ่งที่ดี ถ้าไม่เสียสละก็จะถูกคนเขาตราหน้า

(ทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) หมายความว่าควรเสียสละไม่รับตำแหน่งนายกฯหรือ

(วัฒนา) ไม่ใช่ครับ เสียสละทุกอย่างทั้งการประพฤติปฏิบัติ ต้องทำในสิ่งที่ถูก (เงียบไปพักหนึ่ง) ผมว่าท่านดีขึ้นนะตอนนี้ ขนาดมีนักข่าวมาถามผมว่ารู้จักหัวหน้า พปช.ไหม แล้วผมตอบไปว่าผมไม่รู้จัก ท่านยังไม่ว่าอะไรสักคำ ถ้าเป็นคนอื่นคงถูกต่อว่าต่อขานไปแล้ว ถ้าท่านใช้ความไม่นึกคิดแล้วมานั่นผม ท่านจะเสียหายมากเลย ผมกล้าพูดเลยว่าคนชื่อวัฒนาพูดจริงทำจริง ไม่เคยโกหก ไม่เคยหักหลังเพื่อน ไอ้สิ่งที่บอกว่าผมเป็นงูเห่ามันก็ยุติแล้ว ผมได้บอกแล้วว่าผมเป็นงูเห่าเสาวภา ผมเอาเซรุ่มไปให้คนดี แค่ท่านบอกว่าท่านเป็นชาวนา ผมเป็นงูเห่า แค่นี้ก็เจ็บช้ำพอสมควรแล้ว ที่สำคัญข้อเท็จจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น และมีคนรู้ด้วยก็อยากให้เป็นประวัติศาสตร์ที่ต่างคนต่างรู้ และเชื่อว่าท่านคงไม่ตอแยกับผมแหล่ะ

วันนั้นถ้าท่านตอกผมกลับ ท่านจะเสียรังวัดเลย เสียผู้เสียคนไปเลย เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นนายกฯน้อยลงไปอีกเยอะ ผมย้อนให้ก็ได้ว่าคนจะบริหารราชการแผ่นดินต้องมีความอดทนอดกลั้น คนอย่างนายวัฒนามีหรือจะไม่รู้จักนายสมัคร ถ้าผมพูดแบบนี้คิดว่าเสียไหม แค่นี้ยังทนไม่ได้แล้วจะมาเป็นนายกฯ ผมเพียงแต่ลองใจท่าน และภาวนาขออย่าให้ท่านพูดเลย ท่านแคนดิเดตได้นะและจะเป็นนายกฯ ที่ดีได้ด้วย แต่อย่าปากเสียเท่านั้นเอง ปากดีๆ น่ะแจ๋วเลย คนนี้นะหัวคิดอย่างนี้เลย (ชูนิ้วโป้งขึ้นมา) นี่ท่านเฉยก็แสดงว่าท่านดีขึ้นแล้ว

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) ไม่แน่ใจว่าดีขึ้นในระดับที่ พปช.ไว้วางใจหรือไม่ เพราะมักมีข่าวลือเรื่องให้คุณบรรหาร หรือ นพ.สุรพงษ์เป็นนายกฯ สำรอง

(วัฒนา หัวเราะ) คนทำงานการเมืองเป็นอย่าไปยุ่งกับพรรคอื่น ผมรู้มากกว่าที่สื่อรู้อีก แต่ไม่อยากยุ่ง พูดอย่างนี้เข้าใจนะ พรรคการเมืองที่ดีอย่าไปวุ่นวายกับพรรคอื่น ดูแลพรรคเราให้ดี ผมจะยุ่งเฉพาะกับพรรคผม

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) เตรียมจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีของ พผ.อย่างไร เพราะคนอยากแคนดิเดตล้มหลามมากๆ

(วัฒนา) หลักการที่ผมยึดถือและทำให้การทำงานสำเร็จคือ มีความจริงใจ การเจรจาอะไรกับใครก็แล้วแต่ จะให้เขาเป็นผู้เสียอย่างเดียวไม่ได้ ต้องให้เขาเป็นผู้ได้ด้วยเสียด้วย ทำให้พอดีๆ แล้วเรื่องก็จะสำเร็จส่วนเรื่องการตั้งตำแหน่งในพรรคนี้ไม่ได้มีตำแหน่งมากมาย ส.ส.ไม่ได้มีเยอะแยะ คิดว่าพูดกันเข้าใจแหล่ะ ไม่มีเรื่องแน่ สำคัญคือ เราอย่าเอาแต่ได้อย่างเดียวหรือให้เขาเสียอย่างเดียว ถ้านายวัฒนาอย่าเป็นรัฐมนตรีมันก็จะจบ ถ้าผมไม่อยากแล้วใครอยากล่ะ (หัวเราะ) อย่างผมเนี่ยอย่างไรเสียเขาก็ต้องให้เป็น แต่ถ้าผมไม่อยาก คนอื่นก็ต้องไม่อยากเหมือนกัน มันต้องมีคนเสียบ้าง มีคนได้บ้าง นี่คือวิธีบริหาร ผมมั่นใจนะว่าเรียบร้อยไม่มีปัญหา

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) แต่ความเห็นของคุณวัฒนาเป็นสิ่งที่คนในพรรคต้องฟัง ประมาณว่าเสียงดังตังค์เยอะ

(วัฒนา) คงไม่ใช่..ผมไม่เคยใช้อะไรต่างๆ ที่เป็นเสียงดังตังค์เยอะ ไม่เคยพูดเลยสักคำ ไม่เคย

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) แต่ทั้งคนในและคนนอกต่างรับรู้ว่าคุณวัฒนาคือ นายทุนรายใหญ่ของ พผ.

(วัฒนา) ไม่ใช่ๆ อย่าไปเรียกนายทุนไม่ได้ ผมก็เป็นนักการเมือง แต่เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์เยอะและผมให้คำแนะนำ และช่วยวางรูปแบบอะไรต่างๆ ในช่วง 2 เดือนนี้ทำให้พรรคโตเร็วซึ่งก็น่าภาคภูมิใจ ทุกคนที่เข้ามาก็เสียสละแต่ผมอาจจะเป็นคนแก่มากที่สุดมั้ง เป็นผู้มีอาวุโสทางการเมืองก็ให้คำปรึกษาแก่ลูกพรรคบ้าง ผู้สมัครบ้าง เขาคงเกรงใจผมเรื่องนี้แหล่ะ ไม่ใช่เสียงดังสตางค์มาก ไม่ใช่

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) มีข่าวว่าคุณวัฒนายอมช่วยเหลือน้องๆ ถึงขั้นต้องนำโฉนดที่ดินไปจำนองกับเศรษฐีใหญ่

(วัฒนา)ใช่ครับ จริงครับ ไม่ปฏิเสธ ที่มีอยู่ก็หมดไปแล้ว และเขายังเอาโฉนดไปไว้ด้วย (หัวเราะ) ไม่มีปัญหา นี่ผมไม่ได้พูดนะ แต่นี่รู้มาก่อนแล้วมาถามผม จริงๆ ผมไม่อยากพูดเพราะคิดว่าทำอะไรไม่ต้องพูดหรอกคนเขารู้ดี

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) ตรงนี้ทำให้เกิดข่าวลือเรื่องคนจากแดนไกลต่อสายตรงถึงคุณวัฒนาเพื่อขอให้เข้าร่วมรัฐบาล โดยจะคืนเงินลงทุนหลักพันล้านบาทให้

(วัฒนา) พันล้านให้ใคร ให้ผมเหรอครับ แหม! ถ้าให้มาผมจะแบ่งให้เลย เวลานี้กำลังเดือดร้อนอยู่ (หัวเราะ) ไม่มี ผมเรียนว่าเรื่องการเมืองตอนนี้ต้องดูให้ดี อันไหนเป็นข่าวปล่อยอันไหนเป็นข่าวแท้ ผมไม่รู้และไม่เข้าใจว่าคนปล่อยข่าวนี้ต้องการอะไร แต่พูดถึงถ้าให้มาผมเอานะ อยากได้อยู่เหมือนกัน นี่เป็นหนี้เป็นสินเขาเยอะเลย (หัวเราะแห้งๆ) แต่จริงๆ ในระหว่างขั้นตอนผมไม่เคยไปดิวอะไรเลย มีคนอื่นไปทำ พอทำเสร็จเขาก็มาบอกผมให้ทราบ ซึ่งก็ต้องขอบคุณ ผมน่ะมันเหมือนคนแก่ ไอ้เฒ่าคนหนึ่งเท่านั้นเองไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) ทุ่มเททุ่มทุนขนาดนี้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ มีหวังอะไรในใจหรือไม่

(วัฒนา)ผมต้องการแน่ ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่ลงทุน ต้องการแน่นอน ผมอยากเห็นบ้านเมืองดีไม่มีความแตกแยก เราเสียสละไปก็เพื่อตรงนี้และสิ่งสำคัญที่สุดคือ 80 พรรษา พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ให้ทุกฝ่ายมีความรักและสามัคคี แสดงให้เห็นว่าความทุกข์ในพระทัยของท่านมี ในเมื่อพ่อของแผ่นดินมีความต้องการแล้ว ทำไมถึงไม่ปฏิบัติล่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ผมตั้งใจจริงๆ ผมมาร่วมกับ พผ. เพราะเขาชัดเจนเรื่องเทิดราชบัลลังก์ มาร่วมเพราะอย่างนี้ ไม่ได้มาร่วมเพราะต้องเป็นรัฐมนตรี ต้องเป็นนายกฯ

(หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ) หลายฝ่ายมองว่า พผ.เกิดขึ้นจากพลังพิเศษและบุคลากรบางส่วนที่เข้ามาอยู่พผ. คือผู้ที่มีปัญหาในเชิงกฎหมาย ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เรื่องใช้พลังพิเศษเป็นเกราะกำบัง

(วัฒนา) ข้อมูลพลังพิเศษก็มีผม ผมมีคดีเยอะ เรื่องคดีนี่ผมกลับดีใจด้วยซ้ำ เพราะเดิมทีเดียวรัฐบาลที่ผ่านมาผมไม่เคยถูกสืบสวนสอบสวน กล่าวหาฝ่ายเดียวเลย มาบัดนี้ทุกอย่างได้ดำเนินไปตามระบบของกระบวนการยุติธรรมและผมเองก็ต่อสู้ มีเอกสารหลักฐานต่างๆ ขอยืนยันว่าผมไม่ได้ประพฤติปฏิบัติอย่างที่ถูกกล่าวหา ไอ้ที่กล่าวหามาเนี่ยก็เป็นที่ทราบโดยทั่วไปแล้วว่าผมมันถูกเรื่องการเมือง จึงต้องเอาการเมืองมาแก้ ผมขอยืนยันว่าผมไม่เคยคิดเอาทรัพย์สมบัติของแผ่นดินมาเป็นของตัวเอง ไม่เคยคิดเลย และผมก็มีภูมิ มีปัญญา สามารถทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัวได้ ผมเองเป็นรัฐมนตรีมาไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและไม่เคยมีเรื่องฉ้อราษฎรบังหลวง แต่ตอนหลังไม่ตามใจเขา