Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [ถอดเทปสำหรับผู้ไม่ได้ฟัง] สนทนาประสาสมัคร{แตกประเด็นจาก P6319068}

    สืบเนื่องมาจากกระทู้ที่แตกประเด็น

    สนทนาประสาสมัคร 10 กพ 2551มาแว่วฟังย้อนหลังได้ครับ
    ในทีสุดเราก็หาเจอแล้ว ถ้าเป็นทีวีก็นี่เลย

    http://www.prd.go.th/prdTv/
    ถ้าเป็นวิทยุ ก็นี่เลย

    http://www.prd.go.th/radioonline/index.php
    ในที่สุดก็หาเจอ แล้ว

    จากคุณ : ขุนหลวงใจดี

    ---

    โหลดไฟล์เสียง
    mms://mms.prd.go.th/archiveradio/nayoksamak.wma

    ----

    เนื้อหา

    นายกรัฐมนตรีดำเนินรายการสนทนาประสาสมัคร (10/2/2008)
    นายกรัฐมนตรีดำเนินรายการ "สนทนาประสาสมัคร" เป็นครั้งแรก ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ทุกวันอาทิตย์ เวลา 08.30-09.30 น.  


    นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์  เป็นครั้งแรก  และออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยในเวลาเดียวพร้อมกันทั่วประเทศด้วย  ในทุกวันอาทิตย์  ระหว่างเวลา 08.30-09.30 น.  โดยมีรายละเอียดดังนี้  

    สวัสดีครับท่านผู้ชม  ผม สมัคร  สุนทรเวช ครับ  ตอนนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรี  เริ่มต้นรายการเมื่อสักครู่นี้  ไม่ทราบใครเป็นคนจัดเข้าเพลง  ความหมุนเวียนที่เปลี่ยนที่ในโลกเรา  ดีครับ  เข้ากับบรรยากาศดี  ตอนก่อนเป็นอย่างนี้  ตอนนี้เป็นอย่างนี้  วันหน้าเป็นอย่างไรยังไม่ทราบครับ  แต่ที่อยากเรียนคือว่าเป็นนายกรัฐมนตรี  ถ้าอยู่ซีกของผมข้างเดียว  แล้วไม่ได้มีทางจะเจรจาบอกข่าวให้ท่านโดยตรง  ท่านนั่งชมที่บ้าน  ใครฟังวิทยุก็จะได้ยินเสียงผม  วิธีการอย่างนี้ละครับเป็นวิธีการแก้ปัญหาของความเข้าใจผิด  หรือเรื่องที่ยังไม่รู้  ท่านผู้ชมท่านผู้ฟังควรจะได้รู้  ท่านเป็นเจ้าของประเทศ  รายการอย่างนี้  นายกฯ แต่ก่อนทำเอาไว้  ความจริงนายกฯ คนก่อนเขาไม่ทำเฉย ๆ หรอกครับ  ที่สหรัฐอเมริกาเขาก็ทำ  ทุกวันนี้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็ยังสนทนากับประชาชนของเขาทุกอาทิตย์  เขาพูดวิทยุ  ทางผมเห็นว่าช่อง 11 ก็บริการใครต่อใครมากมาย  นายกรัฐมนตรีมาขอใช้บริการคงไม่เป็นปัญหา

    วันนี้เริ่มต้นอยากจะเรียนอย่างนี้ครับ  ที่ผมมาคุยกับท่านทั้งหลายตรงนี้  ทำง่าย ๆ ธรรมดา  เหมือนกับคนที่เคยรู้จักคุ้นเคยกันมานั่งเล่าอะไรต่ออะไรให้ฟัง  เพราะมารับหน้าที่ดูแลบริหารบ้านเมืองนี้  รายการจะประกอบด้วยอย่างนี้ครับว่า  เบื้องต้นจะเล่าให้ฟังว่าไปทำอะไรมา  2 – 3 วันที่แล้วทำอะไรอย่างไรมา  ถัดมาก็จะบอกให้ฟังว่า  ทางรัฐมนตรีหลายคนจะฝากมาว่ามีงานอะไรที่อยากจะให้ประชาชนได้สนใจกระทรวงนั้นกระทรวงนี้  ส่งมาคนละใบสองใบเท่านั้น  ผมจะบอกให้ว่ากระทรวงนี้เขามีเรื่องนั้น  ๆ ถัดไปจะเป็นเรื่องชี้แจงข้อที่ทำให้คนเข้าใจผิด  เพราะบางทีคนฟังข่าวแล้วดูแคลนคนเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย  เดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้ฟัง  และถัดไปจะคุยเรื่อง 1 – 2 – 3 ที่ตั้งใจจะมาคุย  สุดท้ายจะเป็นเรื่องที่จะเป็นไฮไลท์  คือว่าเรื่องที่ตั้งใจจริง ๆ จะคุยกับประชาชน  รายการเป็นอย่างนี้ครับ

    เริ่มต้นผมจะบอกว่า  เป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่กี่วัน  กระทรวงการต่างประเทศเขาบอกว่านายกรัฐมนตรีบาห์เรนมา  เหมือนกับเป็น Working Visit ท่านมาภายในเงียบ ๆ ของท่าน  ท่านมา 2 อาทิตย์  ทำงานแล้วจวนจะกลับ  ท่านเป็นพระราชวงศ์ด้วย  ท่านเป็นพระปิตุลาของพระมหากษัตริย์บาห์เรน  ท่านเป็นผู้แทนพระองค์ของพระมหากษัตริย์บาห์เรน  ตอนที่มางานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 60 ปี มีความสำคัญตรงนี้ว่าประเทศนี้อยู่ที่อ่าว  มี Area ออกจากซาอุดิอาระเบีย  เป็นประเทศที่ให้ความร่วมมือกับประเทศไทยดีมาก  สำคัญที่สุดคือว่าเป็นเหมือนกับประตูเข้าทางตะวันออกกลาง ทางอ่าว  ก็อยากให้ได้รู้จักกันไว้ด้วย  ผมก็บอกไม่มีปัญหา  ท่านอยู่ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล เป็นการภายใน  ผมก็ไปภายใน  นักข่าวไม่รู้  โรงแรมโอเรียนเต็ลยังไม่รู้เลย  ผมนั่งรถคันเล็กไปกัน 3 คน  ขบวนผมไม่มี  ผมมาอย่างนี้เพราะว่าเป็นการภายใน  ภาษากระทรวงการต่างประเทศเรียกว่าให้เฝ้าฯ  ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีก็สถานะเท่ากัน  แต่ท่านเป็นเชื้อพระวงศ์  ต้องแสดงความเคารพ  พูดจาต้องมีราชาศัพท์  ราชาศัพท์ภาษาอังกฤษกระทรวงการต่างประเทศต้องบอกมาคำสองคำแล้วใช้กัน  ก็พยายามครับ  เสร็จเรียบร้อย  กระทรวงการต่างประเทศกระซิบมาบอกว่า  ถ้าหากว่ามีเวลา 2 – 3 วันก่อนจะเสด็จกลับ  ทูลเชิญเสวยพระกายาหารกลางวันได้ไหม  ผมบอกว่าผมจะประชุมคณะรัฐมนตรีพิเศษวันศุกร์  ก็ได้ถ้าเป็นบ่าย  ก็ทรงรับเชิญ  

    นายกรัฐมนตรีบาห์เรนก็มาเป็นแขกคนแรกของทำเนียบรัฐบาล  ได้ถวายพระกระยาหารกลางวันถ้าจะเรียกตามราชาศัพท์  นายกรัฐมนตรีไทยเลี้ยงข้าวนายกรัฐมนตรีบาห์เรน  ก็คุยกับทางโน้นมา 6 คน ทางผม 6 คน  คุยกันถึงเรื่องต่าง ๆ เต็มร้อยเลย  ต้องได้ประโยชน์แน่นอน  เพราะมีการฝากฝังกัน  ทางโน้นอยากจะมาลงทุนในไทย  อยากจะเอาความเก่งเรื่องการทำโรงพยาบาลของไทยที่มีชื่อเสียงมาก  ท่านอยากจะเอาไปทางโน้น  แล้วท่านก็ดูลู่ทางการลงทุนทางนี้  สำคัญที่สุดคือว่านายกรัฐมนตรีท่านนี้ท่านอยู่ในแวดวง OIC (Organisation of The Islamic Conference) คือ  อิสลามอินเตอร์ที่เขาประชุม  มีอะไรอย่างไรท่านก็ช่วยเจรจาความแทนประเทศไทยให้  ท่านช่วยพูดจาให้  เพราะฉะนั้นมีความหมายในการที่จะต้องดำเนินการอย่างกระทรวงการต่างประเทศแนะนำว่า  งานแรกเป็นอย่างนี้

    ถัดไปคือว่า  อยากเรียนว่า  ระหว่างนี้วันนี้วันหยุดมีการประชุมซักซ้อมนโยบายกัน  กำลังรีบพิมพ์ครับ  วันจันทร์ให้คณะรัฐมนตรีอ่าน  วันอังคารเอาไปอนุมัติกันเป็นทางการ  วันพุธก็พิมพ์  เขาต้องการเวลา 6 ชั่วโมง  พิมพ์แล้วแจก  ต้องให้สภาฯ ก่อน 3 วัน  เราประมาณการไว้วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 ไปวันที่ 19 ก็ได้  เพราะเราไม่เอาวันพุธ  จะมีงานพระราชพิธีก็หลีกเลี่ยง  ทุกอย่างเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว  เรียนให้ทราบไว้  ทำไมต้องเลือกวันจันทร์จะได้ไม่ต้องไปถามใครเขา  ถ้าคาบเกี่ยวอีกวันก็สุดแท้แต่ทางฝ่ายค้านจะพูดจาอภิปรายกัน  ก็เอาหน้าที่ตรงนี้เล่าให้ฟัง

    ที่บอกเมื่อสักครู่นี้ว่าคนที่ทำข่าวแล้วทำให้คนในบ้านเมืองนี้เข้าใจผิด  เข้าใจผิดคนธรรมดาก็แล้วไป  เข้าใจนายกรัฐมนตรีผิด  นายกรัฐมนตรีก็มีช่องตรงนี้ละครับที่จะออกมาสนทนาความ  ผมเล่าให้ฟังนะครับ  เวลาที่สนทนากับนักข่าว  แล้วเผลอไม่ได้พูดกับนักข่าวไทย  พูดกับนักข่าวญี่ปุ่นวันก่อน  ก็เหลือเกิน  คนโบราณนี่ครับก็นึกว่าข่าวญี่ปุ่นก็ไปออกข่าวญี่ปุ่น  เขาบอกไม่ใช่เลย  พูดกับญี่ปุ่นเสร็จญี่ปุ่นแถลงในประเทศไทยเลย  นักข่าวก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย  บอกอะไรกันนี่พวกญี่ปุ่น  คุยกับเขาได้  นักข่าวไทยไม่ยอมคุย  บอกว่ายังไม่ได้นัดวันจะคุยไว้  เลยต้องจัดการเลี้ยงข้าวนักข่าวเขาหน่อย  บอกว่าต้องเข้าใจกันแล้ว  ต่อไปนี้จะจัด  พอเชิญคุยจริง ๆ เชิญนักข่าวคุยจริง ๆ เกิดบอกว่ามีคนเขียนจดหมายมาขอคุย 3 ฉบับ   ต้องเป็น honor ให้ทั้ง 3 คนนั้นเขาคุย  เขาก็คุยครับ  ถามเรื่องหมา เรื่องแมว  เรื่องกับข้าวกับปลา  ผมเลยต้องลงมาข้างล่างขอพบผู้สื่อข่าว  นายกรัฐมนตรีต่อว่านักข่าวว่า  ทีอยากให้เชิญขึ้นไปสัมภาษณ์  ไม่ไป  ก็เลยต้องให้สัมภาษณ์ข้างนอกอย่างนั้น  ก็พอสมควรแก่เหตุ  คนนั้นถามคนนี้ถาม  เลยขอตั้งธรรมเนียมใหม่  บอกว่าคุณบอกหน่อย ชื่ออะไร สำนักไหน  บอกชื่อกับสำนัก  จะได้รู้และจำหน้ากันได้คนไหนเป็นอย่างไร  เขาก็ดี  บอกปั๊บเขาก็ทำปุ๊บเลย  

    พอคุยกันเสร็จเรียบร้อย  ถึงวันคุยกันนักข่าวก็มา  วันนั้นเป็นวันชุลมุน  ตอนเช้าประชุมคณะรัฐมนตรี  ถวายพระกระยาหารนายกรัฐมนตรีบาห์เรน  พอไปถึงท่านผู้สื่อข่าวไปนั่ง  ก็คุยกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ  มา 12 สำนัก  20 คนนั่งล้อมวงเลย  ถามโน่นถามนี่ผมตอบได้ไม่มีปัญหา  จะยกตัวอย่างให้ฟังว่าเขาถามว่าตกลง 30 เปอร์เซ็นต์จะยกเลิกไหม  คำตอบของผมคือว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองประชาชนที่ไปหาเสียงว่าจะยกเลิก 30 เปอร์เซ็นต์  แต่ทว่าเมื่อมาเป็นพรรคการเมืองร่วมกันแล้ว  ฝ่ายค้านจะคิดอย่างไรไม่ทราบ  แต่ว่าที่รวมกัน 6 พรรคเขามีความเห็นตรงกัน  แต่ถึงกระนั้น  วันอังคารเราจะเจอกัน 6 พรรค จะให้รัฐมนตรีคลังสอบถามว่ายังเห็นตรงกันไหม  ถ้าตรงกันแล้วเป็นหน้าที่รัฐมนตรีคลังจะต้องไปเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยเขาเป็นองค์กรอิสระ กระทรวงการคลังเกี่ยวตะขอกันอยู่

    นักข่าวถามเป็นทำนองว่า  ตกลงจะปลดนั้น  รัฐมนตรีคลัง  ผมบอกว่าเป็นไปไม่ได้  ถามว่าเข้าใจไหมว่าเราจะมีความเห็นตรงกัน  แล้วฝากรัฐมนตรีคลัง  รัฐมนตรีคลังจะไปเจรจาความ  พูดชัดเจนเลย  คนเก่งช่อง 9  เขาพูดตอนเย็นหน้ากระทรวง  บอกว่าสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสักครู่นี้ นายกรัฐมนตรีสมัครตอบคำถามฝรั่ง  บอกว่าต้องยกเลิก 30 เปอร์เซ็นต์  วันอังคารนี้จะออกมติคณะรัฐมนตรีสั่งยกเลิก  อย่างนี้นายกฯ เชยไหมครับ  เรื่องนี้ยกเลิกในมติคณะรัฐมนตรีได้อย่างไรครับ  เรื่องนี้เป็นการละเอียดอ่อน  เป็นการส่งสัญญาณกัน  ผมรู้ผมเข้าใจทุกอย่าง  พูดกับฝรั่งเขาก็เข้าใจ  แต่ไทยปรากฏว่าฟังภาษาฝรั่งออก  เข้าใจว่าฟังออก  แต่วิธีเอามาเสนอในรายการไม่ค่อยญาติดีกับผม  พูดจากระทบกระแทกแดกดัน  ผมไม่ได้ว่าอะไร  กล่าวหาเลยว่านายกรัฐมนตรีพูดเมื่อสักครู่นี้ พูดภาษาฝรั่งแปลออกมาเลย  แปลว่าตกลงนายกสมัครบอกต้องเลิก 30 เปอร์เซ็นต์  วันอังคารจะประชุม  มีมติคณะรัฐมนตรียกเลิก  นี่ตกลงคนเป็นนายกฯ เชย  หรือผู้สื่อข่าวเชย  ความจริงไม่ใช่ผู้สื่อข่าว  เขาเป็นประเภทเหมือนกับพวก Commentator ครับ  เก่งเรื่องหุ้น  เรื่องอะไร  พูดจาคล่อง  แต่ปรากฏว่าคล่องแบบนี้เสียหายครับ  

    ผมต้องเก็บเอามา  มีอีกหลายอันครับ  ใครมาพลาดพลั้งอย่างนี้ผมต้องเอามา  ไม่ได้ว่าต่อว่าอะไรรุนแรง  เพียงแต่บอกว่าคุณต้องไปตรองดู  คุณสุ่มสี่สุ่มห้าเอามากล่าวหาอย่างนี้  เสียหาย  เหมือนนายกรัฐมนตรีไม่รู้จักธรรมเนียมเลย  เขาจะส่งสัญญาณกันอย่างไร  แล้วใครเป็นอย่างไร  เขาเกี่ยวตะขอกันอย่างไร  ผมจะบอกผู้สื่อข่าวคนนี้ไว้ว่า  ผมรู้เรื่องอย่างนี้  เดี๋ยวถ้ายังไม่ไปไหนผู้สื่อข่าวคนนี้  นั่งฟังตอนท้ายผมจะคุยเรื่องที่ว่าพวกคุณไม่รู้จักคุย  แต่ผมจะคุยให้ฟังว่าปัญหาที่ราษฎรเขาบ่น  แล้วผมจะเสนอแนวทางอย่างไร

     
     

    จากคุณ : นักกวนเมือง - [ 10 ก.พ. 51 14:18:19 A:58.8.196.103 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom