ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนตัว  เห็นด้วยครับที่เขมรจะทำให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ส่วนประเทศไทย ก็สร้างด่านตรวจคนเข้าเมือง สร้างถนน สร้างสนามบิน สร้างโรงแรม  และปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง เพราะใครจะไปเขาพระวิหารก็ต้องผ่านไปจากไทย และต้องกลับมานอนฝั่งไทย เมื่อนักท่องเที่ยวไปเขาพระวิหารแล้ว เขาก็กลับมานอนฝั่งไทย ทางที่ดี ผมเห็นว่า ควรสร้างร้านสะดวกซื้อ แบบ 7-11 อยู่ใกล้ ๆ เขาพระวิหารในฝั่งไทยหลาย ๆ ร้าน ใครจะท่องเที่ยวก็ท่องเที่ยวไป ประเทศไทยขายของกินของใช้ เอาเงินตราต่างประเทศเยอะ ๆ .... เราขายของได้พอแล้ว เพราะเขาพระวิหารศาลโลกก็ตัดสินไปแล้ว   จะไปเรียกร้องให้กลับมาเป็นของไทยคงไม่ได้แล้ว เราก็ค้าขายดีกว่า  คิดมากปวดหัว ลาวก็พบทอง เขมรก็พบน้ำมัน พม่าก็พบแก๊ส มาเลเซียก็มีบ่อน้ำมัน   แต่ประเทศไทยมี  คมช.  ....อิอิ..... แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 51 20:43:54 จากคุณ : Sky - [ 11 ก.พ. 51 20:38:51 A:124.121.176.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาทดสอบอมยิ้มอันใหม่ครับ สำหรับประเด็นนี้ ในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ จะเห็นว่าพรมแดนโลกไม่ควรจะมีให้ปวดขมอง หรือเอามาเป็นประเด็นทะเลาะกัน เป็นโลกไร้พรมแดน สำหรับมุมมองของนักการตลาด การท่องเที่ยว ไทย กัมพูชา จะช่วยส่งเสริมรายได้ของคนทั้งสองประเทศ เวลาคนทำแพ็คเกจ มาเขมร เสร็จแล้วก็ข้ามมาไทยเลยครับ สำหรับด้านกฏหมาย พื้นที่ดังกล่าวผ่านการตัดสินจากศาลโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยตัดสินว่าที่นั่นเป็นพื้นที่ของประเทศกัมพูชา ด้านเผ่าพันธุ์ มันเป็นของคนเชื้อสายขอม เป็นกลุ่มคนกลุ่มเดียวกันที่สร้างอาณาเขตไปถึงลพบุรี ฯลฯ รวมถึงสร้างปราสาทนครวัด ส่วนตัวผมแล้ว อยากให้ก้อนหินกลุ่มก้อนดังกล่าว เป็นของชาวโลก ให้คนทั่วโลกไปเที่ยวชมกัน อย่าคิดเรื่องผลประโยชน์ของชาติใดๆ ให้มากเกินไป ให้คิดถึงประโยชน์ของชาวโลกเป็นที่ตั้งครับ อีกประการ สำหรับกลุ่มคนที่มองเรื่องดังกล่าวในแง่ชาตินิยม แง่การเสียเหลี่ยมของชาติ แง่พื้นที่ของชาติ หากมองแง่นั้น เราก็เสีย แต่หากเรามองในแง่อื่นๆ ตามที่กล่าวข้างต้น ก็จะวินวินกันทุกฝ่ายครับ มีแต่สันติภาพ จากคุณ : truebot - [ 11 ก.พ. 51 20:43:22 A:58.8.25.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เกรงว่าเมืองไทยจะต้องเสียดินแดนเพิ่ม =========== อ้าว...ไปตู่มาเป็นของไทยตั้งแต่เมื่อไหร่...ก็ตรงนั้นมันของกัมพูชาเค้า... จะไปยุ่งเขาทำไม.. ถ้าเราเป็นห่วง ก็ไปขอสัมปทานแบบเกาะฮ่องกง ที่อังกฤษทำกับจีน แล้วเอามาหาประโยชน์ในเชิงท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ ก็ไม่มีใครว่า....ทำได้...เอาเลย... จากคุณ : minimalist - [ 11 ก.พ. 51 20:43:33 A:58.8.119.180 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 จะขึ้นเขาพระวิหาร  จะต้องผ่านดินไทย อย่าลืมคิดค่าเหยียบแผ่นดินไทยด้วยนะ จากคุณ : พลังจิต - [ 11 ก.พ. 51 20:45:20 A:58.8.96.53 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เกรงว่าเมืองไทยจะต้องเสียดินแดนเพิ่ม =========== ที่เขียนตรงนี้ไม่ใช่ตัวปราสาทและยอดเขาที่ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชาไปแล้วนะครับ ตรงนี้ผมเข้าใจและไม่ได้ตู่ด้วย แต่หมายถึงพื้นที่รอบๆที่ยังไม่ได้ปักปันพรมแดนต่างหากครับ รวมถึงบันไดทางขึ้น ฯลฯ ที่ในคำตัดสินศาลโลกไม่ได้ระบุไว้ เพราะระบุไว้แค่ยอดเขาและเรือนปราสาทเท่านั้น และถ้าหากดูในแผนที่แล้วเป็นจะงอยยื่นเข้ามาด้วย เราเคลมว่าเป็นของเรา กัมพูชาก็เคลมว่าเป็นของเขาเหมือนกัน เรื่องนี้ เป็นประเด็นหาเสียงเลือกตั้งของกัมพูชาแน่ๆ ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง ยังไงๆก็ขอบคุณที่แสดงความเห็นนะครับ จากคุณ : ผมเอง (buddhi) - [ 11 ก.พ. 51 20:51:31 A:124.157.236.209 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณหน่ะเข้าใจผิดแล้ว.จริงอยู่แนวชายแดนอาจจะมีบางส่วนที่ปักปันเขตแดนไม่เสร็จ...แต่ตรงนี้เคลียร์ตั้งแต่ต้นตอนนั้นแล้ว... ที่เขาว่าจะมีปัญหาหากไปยืนขอมรดกโลก...มันคือเรื่องเขตกันชนของชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งมันจะมีข้อตกลงในทางทหารที่ห้ามทั้งสองฝ่ายลุกล้ำเกินเข้ามา...หรือพูดง่ายๆคือตั้งป้อมค่ายคูสนามเพลาะของทหาร ทั้งสองฝ่ายต้องตั้งร่นเข้ามาในดินแดนของตนตามระยะที่กำหนดตกลงกัน นี่คือเขตกันชน...ห้ามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปทำอะไรโดยไม่ตกลงกันก่อนตามเงื่อนไขนี้...มิเช่นนั้นอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่ายๆ....นี่คือปัญหา.. ข้อเท็จรริงมันเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องดินแดน หรือเสียสิทธิ์อะไร...แล้วบันไดทางขึ้นอะไรนั่นก็เป็นของไทยแน่นอน...ไม่ได้มีปัญหาเรื่องพวกนี้เลย จากคุณ : minimalist - [ 11 ก.พ. 51 20:57:36 A:58.8.119.180 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยอดเขาเป็นของเขมร  บังเอิญทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย  เราครอบครองทางขึ้นก็เก็บค่าผ่านทางแบบทางด่วน ( เก็บซ้ำแล้วเก็บข้างบนอีก ) ของเขมรก็ให้เก็บค่าเข้าชม ... ส่วนเจ้าหน้าที่ของเขมรที่ขึ้นไปเก็บค่าเข้าชม ก็ต้องเสียค่าผ่านทางเหมือนกับนักท่องเที่ยว ( เพราะขึ้นที่ประเทศไทย ) อย่างนี้แฟร์ม่ะ.......... จากคุณ : โบแดง (โบราณแมน) - [ 11 ก.พ. 51 21:04:17 A:125.26.69.169 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 เกรงว่าเมืองไทยจะต้องเสียดินแดนเพิ่ม ^ ^ ^ เอาคนเอาทรัพยากร  ไปดูที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีกว่าไหมครับ ที่นั้นอดีตเป็นของไทย  อนาคต ไม่แน่ครับ และนั้นไม่ใช้พื้นที่น้อย ๆ แต่เป็น จังหวัด ๆ เลยครับ ที่เขาพระวิหาร  นั้นเรื่องเล็กครับ  พอหมดช่วงเลือกตั้งของกัมพูชา  เรื่องก็ยุติครับ จากคุณ : Sky - [ 11 ก.พ. 51 21:07:36 A:124.121.176.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 เหมือนกรณีน้ำตกไนแองการ่าคับ ดุฝั่งยูเอสก็ได้ แต่ไม่สวย มีที่ดูให้เหมือนกัน แต่ถ้าใครอยากดุเต็มๆ ต้องข้ามแคนาดา ค้างซักคืนยิ่งดี ไม่ต้องทะเลาะกันคับ ถ้าเขมรอยากจะดกโรคคนเดียวก็ตามใจ เพราะคนที่มาเที่ยวรู้แล้วว่า มีอยุ่ระหว่างไทยเขมร ทางขึ้นของเรา ตรงยอดเป็นของเขา ตัดสินปีไหน ประมาณนี้คับ จากคุณ : ตริวิกรมเสน - [ 11 ก.พ. 51 21:38:23 A:58.8.244.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท   เค้าหมายถึงอย่างนี้ครับ เขมรเค้าใช้แผนที่ของเค้ายื่นเสนอขอขึ้นทะเบียนซึ่งไม่ตรงกับแผนที่ที่เราใช้ วันก่อนดูรายการของสัญญา เค้าเอาแผนที่มาเทียบ ซึ่งก็ไม่ตรงกับแผนที่ที่เราถืออยู่เลย  หากการขอขึ้นทะเบียนเป็นจริง ปัญหาเรื่องเขตแดนตามมาแน่ๆ จากคุณ : อยากขับพรีเซียไปเหยียบคนบล็อค - [ 11 ก.พ. 51 22:11:32 A:202.149.25.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 อืม....ยังไงกันแน่ครับยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ รู้แต่ฝั่งขึ้นเป้นของเรา ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา เขตแดนตัดผ่านยอดเขาเลยหรอครับ คิดแบบ ท่านคห1ก็เข้าท่า แต่รัฐบาลจะเล่นด้วยมั้ยหล่ะ เขตแดน เกียรติภูมิของชาติ เศรษฐกิจ ทุกอย่างล้วนสำคัญ ไม่มีใครอยาก แพ้ สุดท้ายหาอะไรลงตัวได้อยากอย่างเขมร ดั่งประวัติศาสตร์ที่ได้อ่านผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ต้องลองมาดูน้ำยารัฐบาลละครับว่าจะตั้งทีมเจรจายังไง มันถึงจะ win win จากคุณ : เซ่อซ่าจอมยุ่ง (tinglung) - [ 3 มี.ค. 51 20:41:59 A:192.168.182.227 X:58.136.51.181 ]