นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ต่อสื่อมวลชน โดยชี้แจงกระแสข่าวการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ ที่ยืนยันว่า เป็นความตั้งใจที่ต้องการให้มีสถานีโทรทัศน์ ที่เสนอข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่อิงกับรัฐบาล ซึ่งตามกฎหมายยังไม่สามารถตั้งสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ได้ จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ที่เจตนารมณ์เดิมตั้งมาเพื่อเป็นทีวีสาธารณะ แต่ได้ถูกเบี่ยงเบนไป โดยจะปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากขึ้น ภายใต้งบประมาณเดิม นำเสนอรายการประเภทข่าวและสารคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยใช้บุคลากรมืออาชีพมาบริหารงาน ยืนยัน ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และรัฐบาลจะไม่มีการแทรกแซง ซึ่งทุกฝ่ายสามารถพิสูจน์ได้
นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธข่าวการปรับเปลี่ยนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และการปรับผังรายการในสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เนื่องจากยังไม่มีการกระทำใด
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังระบุว่า ข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีเตรียมพิจารณาให้อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน เข้าร่วมเป็นกรรมการในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจนั้น ไม่ได้มาจากการตั้งใจให้สัมภาษณ์ของนายแพทย์สุรพงษ์ แต่เป็นการถูกยัดเยียดคำถามให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งอาจเป็นคำพูดของคนอื่นที่อยากดัง พร้อมย้อนถามให้สื่อมวลชนไปหาต้นตอของข่าวที่แท้จริง ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนไม่มีความคิดที่จะดึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเข้ามาทำงานเช่นนั้น
นายกฯ ยังยอมรับด้วยว่า การออกมาพูดจานอกพรรคเพื่อให้สังคม ช่วยเป็นพยาน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามที่บอกกล่าวไว้เนื่องจาก มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนตัวคนเดียว แต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามเรื่องการกำกับดูแล สำนักงบประมาณด้วยตัวเองว่า มีความรู้ความสามารถดีพอ และการแบ่งงานให้รองนายกฯ ได้พิจารณา ตามความรู้ความสามารถอย่างดีแล้ว
ทั้งนี้ระบุตนโลว์คอส ต้นทุนต่ำ ไม่มีปัญหา ก็แค่ขายขี้หน้า ถ้าไม่สามารถดูแล พรรคพลังประชาชน ให้สามารถทำงานได้ดี ส่วนเรื่องนอมินีนายกรัฐมนตรีได้ย้อนถามนักข่าวว่า นอมินีมันเลวร้ายตรงไหน ซึ่งตนไม่ได้พูดว่าเป็นนอมินีของใคร
ด้านกรณี อนุกรรมการการเลือกตั้ง วินิจฉัยว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน สมควรได้รับใบแดงว่าขอให้เป็นไปตามเวรกรรม หากจะต้องถูกยุบพรรคก็ทำอะไรไม่ได้ และคงถึงกาลอวสาน เพราะระเบียบกำหนดไว้อย่างนั้น ทั้งนี้ให้ นายยงยุทธ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่เป็นการปกป้อง นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศเมื่อใด เพราะไม่เคยสอบถาม แต่เท่าที่ทราบจะยังไม่กลับในตอนนี้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ไม่มีแนวคิดเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปี หรือ การผลักดันนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 เข้ากระทรวงกลาโหม
ที่มา
ภาพ thaigov
ข่าว INN News
แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 51 14:34:01