ความคิดเห็นที่ 2
สนับสนุนปลูกยูคาลิปตัสบนคันนาเพิ่มผลผลิตข้าว
ถัดไปมีเรื่องอะไรที่จะคุยให้ฟังสำหรับคราวนี้ ก็มีปัญหาว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง) ท่านเรียนกฎหมาย บอกว่าคุณพ่อบังคับให้เรียน แต่ตัวท่านๆ ชอบวิทยาศาสตร์ แล้วก็สนใจ เมื่อเลือกกันแล้วเขาจะทำงานนี้ และท่านยังชอบต้นไม้และศึกษาเรื่องต้นไม้ พอรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ฯ บอกว่า จะปลูกต้นยูคาลิปตัสบนคันนาเพื่อช่วยพัฒนาประเทศ เพื่อช่วยเศรษฐกิจ ท่านก็คิดอย่างนี้ คนที่พูดอย่างนี้ต้องรู้ในสิ่งที่เขาพูด ออกข่าวกันใหญ่ เป็นทำนองเหมือนว่าเอาอีกแล้วรัฐมนตรีไม่รู้หรือว่ายูคาลิปตัสกินดินดูดดิน ทำดินเสียหาย ผมนึกว่าช่างพูดกันจริง มันสำปะหลังก็เป็นอย่างเดียวกัน แต่มันสำปะหลังใส่ปุ๋ย แต่ต้นไม้อย่างนี้ไม่มีใครใส่ปุ๋ย เขาดูแลกันก็สุดแท้แต่ เมื่อเวลาฟังความ รัฐมนตรีที่โดนอย่างนี้ ผมก็ต้องใช้สำนวนผม ต้องแส่เข้าไปดูหน่อย บังเอิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องยูคาลิปตัสขอพบผม ขอสนทนา คุยทางโทรศัพท์ได้ไหมครับ ไม่ได้ ต้องพูดเอง มาเลย ผมก็ลงมานัดสามโมงเย็นคุยเกือบสี่โมงเย็น เชี่ยวชาญจริง ๆ เราก็ได้รู้เหมือนกับที่รัฐมนตรีบอกว่า ยูคาลิปตัสเมื่อ 20 ปีก่อน เปลี่ยนพันธุ์ เปลี่ยนแปลงใหม่ และการค้นพบของอาจารย์ท่านนี้มีเหตุผล และท้าได้พิสูจน์ได้ ทางราชการก็รับรอง แปลว่าเขาปลูกพันธุ์ใหม่ เขาปลูกต้นยูคาลิปตัสบนคันนา พอปลูกไปปลูกมา ทีแรกคันนาก็แคบ เขาเห็นแล้วว่าปลูกแล้วข้าวในนาได้มากขึ้น ใบก็เป็นปุ๋ย ก็ค้นพบว่าเมื่อปลูกต้นไม้บนคันนานั้น รากออกไปอยู่ในผืนนา และเมื่อรากถูกไถ ปรากฏว่ารากต้นยูคาลิปตัสเป็นปุ๋ยที่ดีสำหรับต้นข้าว ไม่น่าเชื่อนะครับ ขณะเดียวกันเมื่อไปไถโดนรากมันซึ่งลงไปอยู่ในนา ท่านลองนึกถึงคันนา ต้นไม้อยู่บนคัน และรากออกไปอยู่ในนา เมื่อไถมันก็ตัดราก ตัดรากต้นก็สะดุ้ง ต้นสะดุ้งแล้วเป็นอย่างไร ต้นสะดุ้งไม่ตายหรอกครับ ยิ่งโตใหญ่ โตมากขึ้น และข้างในนาที่ถูกตัดลงไปบนคันนา ก็เป็นปุ๋ย ใบร่วงมาก็เป็นปุ๋ย ข้าวได้มากขึ้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ คนเป็นรัฐมนตรีเขาเข้าใจ เขารู้พอเขาเห็นอย่างนี้ เขาจึงแนะนำ
ผมจะให้ดูตัวเลขครับ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อไหมครับยูคาลิปตัสที่ปลูกกันเอามาทำกระดาษกัน เดี๋ยวจะบอกว่าเอาไปทำอะไรได้อีก ปลูกยูคาลิปตัสบนเนื้อที่ 1 ไร่ ที่ดอน ๆ ธรรมดา แห้ง ๆ ได้ 300 ต้น 5 ปีตัดยูคาลิปตัสได้ไม้ 2 ตัน ฟังให้ดีนะครับ 1 ไร่ปลูกได้ 300 ต้น ตัดมาแล้ว 5 ปีได้ไม้ยูคาลิปตัส 2 ตัน ทีนี้ที่ปลูกบนคันนา ข้าวก็ปลูกได้ ต้นยูคาลิปตัสอยู่บนคันนา นา 1 ไร่ 40 เมตรคูณ 40 เมตร 1,600 ตารางเมตร ใน 40 เมตร เขาทำคันนาให้โตขึ้นนิดหนึ่ง คือคันนา 1.50 เมตร คันนาธรรมดา 50 เมตร ศอกเดียว เขาทำเป็น 3 เท่า แล้วปลูกต้นสับไปสับมาซ้ายขวา ข้างหนึ่งปลูกได้ 50 ต้น คือ 25 ต้นกับ 25 ต้นคู่กันสลับกัน 40 เมตรปลูกได้ 50 ต้น อีก 40 เมตรปลูกได้อีก 50 ต้น แปลว่าปลูกบนคันนา เป็นตัวแอล ด้านเท่ากันได้ 100 ต้น ปลูกยูคาลิปตัสบนคันนา 100 ต้น สองด้านเท่านั้น 5 ปี ได้ไม้ 5 ตัน ปลูก 300 ต้นเต็มที่เลยได้ 2 ตัน 5 ปีเหมือนกัน แต่ปลูกเป็นตัวแอล ทางนี้ 50 ต้น ทางโน้น 50 ต้น 100 ต้นได้ 5 ตัน มันเจริญเติบโตอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าแบบนี้คนเป็นรัฐมนตรีเขาไม่ตื่นเต้น เขาต้องตื่นเต้น ตอนที่เริ่มต้นใหม่เกือบ 20 ปีก่อน ตอนกล้ามาใหม่ กล้าต้นละ 3 บาทขึ้นไป 8 บาท เดี๋ยวนี้ลงมาเหลือ 4 บาทแล้ว เขาก็ปลูกกัน การที่คนเป็นรัฐมนตรีจะปรารภว่า ช่วยกันปลูกต้นยูคาลิปตัส เพื่อจะช่วยชาติพัฒนาเศรษฐกิจ ไม้เศรษฐกิจ อย่างนี้ไม่ได้เหรอครับ ต้องได้ครับ ผมคุยวันนั้นสัมภาษณ์แล้วเขาก็ไม่สนใจเท่าไร มาเลยวันนี้ผมจะคุยให้ฟัง
ปลูกไม้ตะกูทำเฟอร์นิเจอร์
ทีนี้คุยเรื่องต้นไม้ต้นนี้ต้นเดียว ก็ยังมีอีกต้นหนึ่งชื่อต้นตะกู แถวนครปฐมก็มี เขาเรียกเจ้าพ่อวังตะกู ต้นตะกูเป็นไม้ประหลาด เพาะขึ้นมาจากเมล็ดเหมือนกัน ต้นไม้ขึ้นมามีใบใหญ่เหมือนใบสัก ต้นไม้คล้ายต้นสัก แต่โตเร็วมาก 1 ปีสูง 7-8 เมตร และขึ้นตรงชะลูดเหมือนต้นสัก ถ้าเผื่อต้นไม้อายุ 10 ปี เอาเด็กไปโอบ 2-3 คนโอบรอบ ดูแล้วไม่น่าเชื่อ เขาถ่ายรูปมาด้วยครับ เขาบอกว่าเนื้อคล้ายไม้สัก และมอดไม่กินเหมือนไม้สัก มีความทนทานเอาไปทำเครื่องมือ เฟอร์นิเจอร์ ใช้แทนไม้สัก ปลูกไม้เอาเนื้อ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เรียนให้ทราบว่าเมื่อเราเข้ามามีต้นไม้ ต้นไม้นี้ออกข่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้ว 3 เดือนเท่านั้นเอง ผมก็เอามาช่วยคุยให้ เพราะอะไร ใครมีที่ ใครจะปลูก ปลูกได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ปลูกได้ทุกดิน ดีและทนทาน คล้ายไม้สักแต่ราคาไม่แพง แล้วโตเร็วมาก ไม้สักต้องใช้ 30 ปีถึงตัด 40 ปียิ่งดี นี่ 10 ปีตัดไม้ ตัดไม้เท่ากับต้นซุง เท่ากับไม้สัก ต้น 1 ปีสูง 7-8 เมตร
ขอให้ภาคภูมิใจกับธุรกิจอัญมณีของไทย
ถัดไปมีเรื่องเพชร พลอย ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) บอกมา พอท่านไปได้ตัวเลขมา สนทนาเจอผม ท่านก็จูงมือมานั่งคุยเลย เอากระดาษให้ดูน่าตื่นเต้น ปีหนึ่งค้าขายกันอย่างนี้ 180,000 กว่าล้านบาท ไม่น่าเชื่อ ปีนี้จะทำถึง 200,000 ล้าน ถามว่าบ้านเมืองเรามีวัตถุดิบจะเอามาทำอย่างนั้น ไม่มีหรอกครับ หมด แต่ว่าคนไทยเกิดมีความเก่ง เก่งในการที่ว่าเอาวัตถุดิบมาก้อนเล็กก้อนโตก้อนใหญ่จากต่างประเทศทั่วโลก ไปหาซื้อกันมา แล้วเอาเข้ามา เขาเอามาเผา อุณหภูมิการเผาเป็นความลับของประเทศไทย ของคนไทย แล้วไม่ให้ใครที่ไหน เพราะฉะนั้น ตัววัตถุดิบทั้งหลายที่เป็นก้อน จะมาถูกเผาในประเทศไทย กลายเป็นว่าเราเป็นศูนย์กลางอัญมณีของโลก มีโรงเรียนอยู่แถวสีลม และเขาก็ทำกรรมวิธีกัน ที่ต้องมาบอกวันนี้ ไม่ได้โฆษณาสินค้า โฆษณาให้ฟังว่างานแสดงอัญมณีและเครื่องประดับจะมีวันที่ 27 กุมภาพันธ์ -3 มีนาคม อยากจะเชิญชวนไปชม ไม่ต้องซื้อหรอกครับ ไปชมให้มีความตื่นเต้นว่า บ้านเมืองของเราธุรกิจอัญมณี ปีกลายปี 185,000 ล้านบาท เขามาออกร้านกัน 111 ประเทศ ออกบู้ธ 3,000 กว่าบู้ธ ต่างชาติจะมาร่วมงานนี้อย่างน้อย ๆ 30,000 คน คนไทยจะไปดูเท่าไรไม่ทราบได้ เขาว่าธุรกิจการค้าที่เขาจะค้าขายกันในงวดที่เปิดงานประมาณ 25,000 ล้าน เป็นเรื่องที่เรียกว่าน่าตื่นเต้น ฝีมือของเราการจะทำอะไร เขามีโรงเรียน เจียระไนมาแล้วจะทำแบบไหน ของเราเก่งครับ
อย่างกับพลอยแดง ทับทิม ของเรา ถ้าไปเมืองจันทบุรี ทุกวันนี้ยังมีคนรุมกันแน่นตามถนนต่าง ๆ เขาเอาอะไรให้ใครต่อใคร ตัวที่เขาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ กองเหมือนของไม่มีราคา แต่บัดนี้กลายเป็นของมีราคาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะว่าแต่ก่อนนี้เขาเรียกว่าผูกขาด ถ้าใครทำแบบนั้นไม่ได้ ต่อมาเรื่องจะทำแบบที่จะเอาพลอยมาตกแต่งเครื่องประดับ เขาบอกว่าหมดการผูกขาด ถ้าท่านไปตามโรงแรมมีร้านจิวเวอรี่ต่าง ๆ แหวนต่าง ๆ เขาเอาทับทิมมาเจียระไนเป็นเส้น ๆ ชิ้น ๆ แล้วเรียงปะ ๆ บางทีก็เอาสี่เหลี่ยมปะ ๆ คือเอาชิ้นเล็กมาต่อให้เป็นอันใหญ่ เป็นพืดสีแดง และเพชรสีขาว ศิลปะอันนี้แหละครับ ฝรั่งทำ ไทยก็เลียนแบบ วัสดุไทยก็ทำ ไทยก็มีฝีมือ และพวกเศษทั้งหลายที่กอบกันมาอยู่ในประเทศไทยครับ ฉะนั้น ที่เรียกว่า เพชรดีมณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลสายไพฑูรย์ 9 อันนี้มีครบถ้วนหมดครับ
คุณธวัชชัย อนามพงษ์ พรรคประชาธิปัตย์ เอามาวันนั้น ผมยังเห็นอยู่ คือไม่รู้ว่าจริงปลอมอย่างไร คุณธวัชชัยบอกว่ามูลค่า 25,000 ล้าน แต่ว่าทำไมพกไปสภาได้ ก็ไม่ทราบได้ นี่แหละครับ คนที่เอาใจใส่อย่างนี้จริง เขาจะเอาของจริงไปแสดง วันนั้นดูแล้วเลยไม่ทันถามรายละเอียด ธรรมดาก็คุ้นเคยกันมาก่อน อยากจะบอกแต่เพียงว่าของอย่างนี้ การทำฝีมือ การเผาอยู่ในเทคโนโลยีของคนไทย การจัดต่าง ๆ โรงเรียนต่าง ๆ เป็นความน่าภาคภูมิใจนะครับ แน่นอนกินไม่ได้หรอกครับ แต่ทำเงินให้บ้านเมืองนี้ได้ เอามาบอกแล้วจะให้ใครไปซื้อไหม ไม่ใช่ครับ บอกให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจว่า ธุรกิจอย่างนี้เป็นธุรกิจที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเมือง ทำเงินเข้าบ้านเมือง ทำงาน ได้ฝีมือ ที่ไปบอกว่าต้องไปถ่ายทอดเทคโนโลยี ไทยก็เหมือนกันครับ คนไทยก็ไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ใครเหมือนกัน รู้เลยว่าต้องเผาอุณหภูมิเท่าไร เขาตกลงกันอย่างนี้ เขายอมรับสิ่งที่จัดการทำกันมาอย่างนี้ อย่างซื้อขายเพชรรัสเซียเป็นอย่างไร พลอยของเราก็ดังครับ ต้องเอามาบอกไว้ ว่าง ๆ นะครับ วันที่ 27 กุมภาพันธ์เขาเปิดงานถึงวันที่ 3 มีนาคม ที่เมืองทองธานี นี่เป็น
เรื่องที่จะคุยให้ฟังวันนี้ วันนี้เขาจะถามว่าจะพูดเรื่องอะไร ผมก็กลายเป็นภาระต้องหา คืออะไรที่กระทบกระทั่งกับคณะรัฐมนตรี ก็จะเอาเรื่องมาช่วยอธิบายแทนเขา คุยกับเขามา หาผู้เชี่ยวชาญและคุยให้ฟัง เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าเวลาท่านรัฐมนตรีพูดอะไรออกไป สื่อสารมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ จะทำให้เข้าใจผิด ผมนี่แหละครับจะทำให้เข้าใจ ถูกหรือไม่ถูกไม่รู้นะครับ แต่ผมเข้าใจแล้วมาถ่ายทอดให้ท่านผู้ชมที่บ้านได้เข้าใจด้วย บ้านเมืองต้องการสิ่งนี้นะครับ ต้องการความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และจะทำอะไร และตรงไปตรงมาอย่างไร ต่อไปนี้ผมจะได้คุยในสิ่งที่ผมยกประเด็นไว้วันนี้ .......................
(มีต่อ)
จากคุณ :
นักกวนเมือง
- [
24 ก.พ. 51 12:59:57
A:58.8.197.27 X:
]
|
|
|