ข้ออ้างที่ว่า ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร สามารถแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้จึงตกไป
ซึ่งข้อกล่าวหานี้น่าจะเป็นข้อกล่าวหาที่มีน้ำหนักที่สุดสำหรับการออกมาเคลื่อนไหวของพาลธมิตรทั้ง 5
ส่วนผลการดำเนินการทางด้านกฎหมายในกรณีใบแดงของท่านประธานสภาฯและรัฐสภายังไม่สิ้นสุด ตามที่คุณ minimalist ว่าไว้ คือ
"ต้องส่งสำนวนและมติ กกต. ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง...เพื่อพิจารณาตัดสินอีกที..
เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจ ผมคาดอยู่แล้วว่า กกต. ไม่กล้าตัดสินใจอะไรหรอกครับ...ใช้อำนาจให้ใบขาวเอง ก็กลัวพวกจ้องล้มล้างผลาญ...ก็โยนเผือกไปที่ศาลชัวร์กว่า..
แต่มติไม่เอกฉันท์ ไม่น่ากลัว...
3ต่อ 2 นี่...ไปถึงศาล...ก็อาจจะพลิกกลับได้...55555
รอดูต่อไป...
ส่วนเรื่องชงยุบพรรค คงต้อรอศาลฎีกาตัดสินก่อน...ว่าผิดจริงหรือไม่..."
หลังจากนี้ กกต.ต้องสรุปสำนวน เพื่อเสนอความเห็นไปยัง ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ภายใน 15 วัน เพื่อให้ศาลฎีกาฯ พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งถ้าศาลฯยืนตามความเห็นของ กกต. นายยงยุทธต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี พร้อมถูกดำเนินคดีอาญา
---
เกมการเมืองชิงไหวชิงพริบกันทุกวินาที
จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือ การร่วมมือประกาศจัดตั้งรัฐบาลกับ 3 พรรคเล็กในคืนวันที่ 31 ธันวา
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2007/12/P6188221/P6188221.html
จนนำไปสู่การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ที่ต้องเน้นสุดๆ
สำหรับตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อนำชื่อ นรม.คนที่ 25 ทูลเกล้าฯ
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/01/P6251637/P6251637.html
แค่นี้ก็ถือว่าได้กำไรเกินคุ้มแล้ว และถ้ายังได้เป็นประธานสภาฯต่อจนครบวาระ
งานนี้บอกได้คำเดียวว่า "สวรรค์มีตา ฟ้ามีใจ"
.
.
.
แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 51 17:09:42
จากคุณ :
นักกวนเมือง
- [
26 ก.พ. 51 13:18:04
A:58.8.189.182 X:
]