PANTIP.COM : P6485130 ขอให้น้องเก่งพิจารณาตัวเองเหมือนพี่ประทิน ถ้าพบหลักฐานวิดีโอมัดจนดิ้นไม่หลุด []

ขอให้น้องเก่งพิจารณาตัวเองเหมือนพี่ประทิน ถ้าพบหลักฐานวิดีโอมัดจนดิ้นไม่หลุด

7 พ.ย. 2548 พล.ต.อ. ประทิน สันติประภพ สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ยื่นหนังสือลาออกจากสถานภาพสมาชิกวุฒิสภาตามที่เคยประกาศเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2547 เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีชกต่อยกับนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2547

พล.ต.อ.ประทินให้ประกาศในครั้งนั้นว่า จะลาอกจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่จะไม่ทำให้ราชการต้องเสียเงินกว่า 100 ล้านบาทในการจัดการเลือกตั้งเพื่อหา ส.ว. มาแทน

วานนี้ (7 พ.ย. 2548) พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภาว่าตนได้ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ว. ถึงประธานวุฒิสภาผ่านสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ชกต่อยนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ว. จังหวัดแม่ฮ่องสอนในวุฒิสภาเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2547

สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2547 นั้นเริ่มขึ้นในขณะที่วุฒิสภาอภิปรายกันถึงกรณีที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว. กรุงเทพฯ เผยแพร่หนังสือปกเหลือง เรื่อง ‘ความจริงที่ตากใบ’ โดยนายอดุลย์ เป็นหนึ่งใน ส.ว. ที่ลุกขึ้นวิพากษ์วิจารณ์นายเจิมศักดิ์ ในขณะที่ พล.ต.อ. ประทิน ก็ลุกขึ้นมาปกป้องและกล่าวพาดพิงถึง ส.ว. บางคนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวพันกับยาเสพติด เป็นเหตุให้นายอดุลย์ตะโกนว่า “ทุเรศ” แล้วเดินปรี่เข้าหา พล.ต.อ.ประทิน แต่ก็ถูก พล.ต.อ.ประทินชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง

ภายหลังเหตุการณ์ พล.ต.อ.ประทิน อธิบายว่าทำไปโดยสัญชาติญาณของการป้องกันตัว ในขณะที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ พล.ต.อ. ประทินอย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมในฐานะเป็นวุฒิสมาชิก ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อีกฟากหนึ่งก็แสดงความสะใจเนื่องจาก นายอดุลย์ ก็มีพฤติกรรมคุกคาม ส.ว. ด้วยกันและพูดจาไม่เหมาะสมในการประชุมสภาหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. ประทิน ประกาศว่าจะลาออกจากการเป็นวุฒิสมาชิกเพื่อรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว

สำหรับสาเหตุที่ยื่นใบลาออกจากวุฒิสภาในวันนี้ พล.ต.อ. ประทินระบุว่า เนื่องจากอายุสภาเหลือไม่ถึง 180 วัน จึงไม่ต้องทำการเลือกตั้งใหม่ และการพิจารณาสอบสวนกรณีการจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับตรวจจับวัตถุระเบิด CTX 9000 เสร็จสิ้นลงแล้ว

---
^
^
^
ขอนำบทเรียนในอดีตมาประยุกต์ใช้เทียบเคียงดังนี้

จากเหตุการณ์ดังกล่าว น่าจะอธิบายได้ว่าว่านายการุณ ทำไปโดยสัญชาติญาณของการป้องกันตัว ในขณะที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ นายการุณ อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมในฐานะเป็นสส. ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อีกฟากหนึ่งก็แสดงความสะใจเนื่องจากนายสมเกียรติ ก็มีพฤติกรรมคุกคาม ส.ส. ด้วยกันและพูดจาไม่เหมาะสมทั้งในและนอกการประชุมสภาหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม นายการุณ ได้ประกาศว่าจะลาออกจากการเป็นสส.เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว หากนำภาพที่ตนก่อเหตุมายืนยันและสามารถพิสูจน์ได้จริงว่าตนทำร้ายนายสมเกียรติได้จริง และจะขอรับผิดชอบลาออกแน่นอนแต่ต้องหลังอยู่ครบเทอม 4 ปี เพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ต้องการทำให้ราชการต้องเสียเงินกว่า 100 ล้านบาทในการจัดการเลือกตั้งเพื่อหา ส.ส. มาแทน

สุดท้ายหวังว่า นายการุณจะเป็นผู้นำในการสนับสนุนม๊อบสนามหลวงบุกเข้าไปในมธ.เพื่อประท้วงรายการยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ ปากกัด(มา)ตีนถีบ(ไป) จัดให้ เจอกันนอกสภา

jump-kick ไม่มีหลักฐาน แต่มีคลิปประทินสาวหมัดให้ชมแทน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=svoice&month=03-04-2008&group=13&gblog=34

จากคุณ : นักกวนเมือง - [ 3 เม.ย. 51 19:35:35 A:58.8.186.237 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10

เตะต่อยถ่อยถีบ ประทิน-การุณ กลายเป็นเคสเด็กๆ เมื่อเทียบกับกรณี...และของ...ของพรรคเทพ

พลิกปูม"หมัด"ทรงเกียรติ ปลิวว่อนรัฐสภาไทย

เหตุการณ์ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ส.ว.กทม.ถือเป็นรายแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ก่อเหตุชกปากนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ว.แม่ฮ่องสอน จนเลือดกบปาก ในห้องประชุมวุฒิสภา

แต่เหตุสมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติชกต่อยทะเลาะวิวาทกันในบริเวณรัฐสภาเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2537 นายธานี ยี่สาร ส.ส.เพชรบุรี ชกหน้านายเกษม มาลัยศรี ส.ส.ร้อยเอ็ด ในระหว่างประชุมพิจารณาแปรญัตติงบประมาณก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี นายเกษมสงสัยว่าอาจมีส่วนได้เสียกับโครงการนี้ ทำให้นายธานีไม่พอใจลุกขึ้นชกนายเกษม

เดือนมกราคม 2541 นายทวิช กลิ่นประทุม อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคชาติไทย มีอาการมึนมาจากไหนไม่รู้ เดินเข้ามาในรัฐสภา ปะหน้าโจทก์เก่าคือนายวินัย เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินออกมาจากห้องประชุมสภาผู้แทนฯ และเคยอภิปรายงบฯการท่าเรือแห่งประเทศไทยพาดพิงถึง นายทวิชเห็นจังหวะปลอดคน กอปรกับอารมณ์ชั่ววูบ จึงปรี่เข้าไปชกหน้าคู่กรณีแก้แค้น

นายวินัยไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย ในชั้นศาล แม้โจทก์จะไม่ติดใจเอาความ แต่ศาลก็มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 แต่เนื่องจากทำคุณประโยชน์ให้ประเทศมาบ้าง และไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงลงโทษปรับกึ่งหนึ่งจำนวน 500 บาท

จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้นายทวิชหายไปจากวงการเมืองโดยปริยาย

ไม่เพียง ส.ส.ชกกันเองเท่านั้น เดือนมิถุนายน 2541 ส.ส. "ว" จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ก่อเหตุชกหน้าสาวข้าราชการรัฐสภาจนเลือดกบปาก หลังจากทะเลาะกันอย่างรุนแรงบนรถตู้หน้าอาคารรัฐสภา กรณี ส.ส.ปฏิเสธความรับผิดชอบหลังจากมีสัมพันธ์สวาทด้วยกัน

นอกจากเหตุทะเลาะวิวาทแล้ว ยังเกิดเหตุประสงค์ร้ายต่อร่างกายกันด้วยวิธีแปลกๆ อีก เมื่อเดือนกันยายน 2540 นายรำรี มามะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์เอามือไปล้วงก้นจับ "ไข่" นายทนง พิทยะ รมว.คลัง ในห้องน้ำชาย ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เจ้าตัวอ้างว่าทำไปเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพื่อน ส.ส.ที่เคยแกล้งตนเองในห้องน้ำ จึงแค่หยอกล้อเล่น

บุญโขแล้วที่นายทนงไม่แจ้งความฐาน "ทำอนาจาร"

ย้อนกลับมาที่กรณี พล.ต.อ.ประทินอีกครั้ง วิชัย ราชานนท์ อดีตนักชกเหรียญทองแดงโอลิมปิค พูดถึงข้ออ้างของ พล.ต.อ.ประทินเรื่องการป้องกันตัวว่า "ในภาษามวย การป้องกันตัวหมายถึงการยกมือปัดป้องฝ่ายตรงข้ามที่ชกเข้ามา แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่ง้างหมัด หรือขยับไหล่คล้ายกับจะชก แล้วคุณออกหมัดชกสวนไปก่อน อย่างนี้ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว แต่ในภาษากฎหมาย ผมไม่รู้"

คดีนี้จะจบลงที่ศาลพร้อมคำตัดสินเหมือนสมัย "ทวิช หมัดเมา" หรือเปล่า โปรดติดตามต่อไป

(จากหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 4 พ.ย.)

จากคุณ : นักกวนเมือง - [ 3 เม.ย. 51 23:38:15 A:58.8.186.237 X: ]