ความคิดเห็นที่ 2
ความจริงไม่ใช่ ไปปรึกษาการตัดสินใจครั้งสุดท้ายวันที่ 29 มิถุนายน เป็นวันอาทิตย์ 9.30 น. ก่อนหน้านี้มีคนนั่งกันอยู่ในห้องหลายคนมีผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ มีสภาพัฒน์ฯ พอ 3 คนนี้เข้าไปก็ให้คนอื่นออก แต่เหลือนายโภคินเอาไว้ แล้วตัดสินใจเสร็จ จากวันที่ 29 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ รุ่งขึ้นวันที่ 30 เป็นวันจันทร์ วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันอังคาร
พลเอกชวลิตมาพูดที่นี่ว่า วันที่ 1 เป็นวันหยุดกลางปีของธนาคาร ใครรู้อะไรก็ทำอะไรไม่ได้ ธนาคารแห่งประเทสไทยหยุด ท่านประธานครับ ธนาคารฮ่องกง ธนาคารสิงคโปร์ไม่หยุด รู้ล่วงหน้า 2 วัน ทำเงินได้หลายพันล้านบาทครับ ถ้าคนนั้นมีเงินในระดับที่จะไปลงทุนได้
ความ 2 ประการนี้เป็นพิรุธ พิรุธเรื่องที่บอกว่ารู้กัน 3 คน ทั้งๆ ที่รู้กัน 4 คน พิรุธเรื่องที่บอกว่า ตัดสินวันที่ 1 ทั้งๆ ที่ตัดสินเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พิรุธนี้ทำให้ผมสงสัยว่าอย่างไร สงสัยว่า เอาเวลาช่วงที่ขาดไปนั้นไปให้พรรคพวกของตัวเองได้ไปซื้อเงินดอลลาร์ไว้ล่วงหน้า ไปซื้ออัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้าแล้วทำกำไร
ท่านประธานที่เคารพครับวันนี้ผมยอมบาป คนที่ผมสงสัยมากที่สุดนั่งอยู่ตรงนั้นครับ ด็อกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร ครับผู้ต้องสงสัยของผม ท่านด็อกเตอร์ทักษิณไม่ได้ทำบาปอะไรหรอกครับ
ที่ผมสงสัยคือสงสัยว่ารัฐมนตรีโภคินจะเป็นคนบอกความลับเรื่องนี้กับด็อกเตอร์ทักษิณ แล้วด็อกเตอร์ทักษิณไปซื้อขายเงินไว้ล่วงหน้าทำกำไร
ท่านประธานที่เคารพครับ ท่านได้กำไรไปเยอะในขณะที่คนในชาติน้ำตาไหลกันทุกคน ผมไม่แปลกใจว่า หลังจากนั้นไม่นาน ได้มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ
ก็เก่งขนาดทำเงินได้ 2 วัน 4,000,000,000 บาท ถึง 5,000,000,000 บาท ก็น่าจะให้เป็นหรอกครับ
ท่านประธาน นี่เป็นข้อสงสัยของผม ผมคาดคะเนสงสัยด้วยเหตุผลแวดล้อมอย่างนี้และผมมีประจักษ์พยานหลักฐานว่า หลังจากนายโภคินได้รับความลับเรื่องนี้ ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับด็อกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร
เสียอย่างเดียวว่า ผมไม่มีหูทิพย์ว่าพูดกันอย่างไรเท่านั้นเองครับ แต่ผมสงสัย และผมรู้ว่านายโภคินได้พูดความลับเรื่องนี้กับคนอื่นอีก ถ้าท่านรัฐมนตรีโภคินสงสัยฟ้องศาล จะได้รู้ว่า คนที่ท่านบอกนั้นจะเป็นพยานให้ท่านหรือจะเป็นพยานให้ผม
จากคุณ :
Memory (น้อยใจยา)
- [
วันมหาสงกรานต์ (13) 20:03:25
A:222.123.131.93 X:
]
|
|
|