มุกนี้เด็ด ลองดูว่าใครจะเจออาญาก่อนกัน?
แจ้งตร.ปทุมวันสอบ! ลักทรัพย์บัตรเลือกตั้ง กกต.ดัดหลังอัศวินดำ ตอบไม่ได้รับของโจร
Monday, 14 April 2008
กกต. ดัดหลัง เสวก ปิ่นสินชัย เจ้าของฉายา อัศวินดำ บุกแจ้งตร.ปทุมวัน ว่าเอกสารเรื่องบัตรเลือกตั้งหาย ชงเป็นคดีลักทรัพย์ หวังให้ตร.สอบ เหตุดันไปโผล่ที่ดีเอสไอ ชี้หา เสวก ตอบคำถามไม่ได้ ถือว่า รับของโจร หรือ ลักทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรางานว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ให้เจ้าหน้าที่กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ไปแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจปทุมวันว่า เอกสารที่ครอบครองอยู่ได้หายไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุให้เป็นคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์ ซึ่งเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจส.น.ปทุมวัน มาตรวจสอบและพิมพ์ลายนิ้วมือของเจ้าหน้าที่
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี เนื่องมาจากว่า ทางสำนักงานกกต.ได้พบหลักฐานที่พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย อดีตผู้บังคับการตำรวจป่าไม้ ที่นำบัตรเลือกตั้งที่หายไปจากกกต.ซึ่งเป็นบัตรเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดที่อยู่ในซองจำนวน 26 ซอง ที่ทางผอ.กต.จว.ชลบุรี ได้ส่งมารายงานต่อกกต. เนื่องจากบัตรดังกล่าวไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้ เพราะว่ามีการจ่าหน้าซองมาถึงจังหวัดชลบุรี แต่ไม่ระบุหน่วยหรือสถานที่ที่จะต้องนับคะแนน และตามกฎหมายก็ระบุไว้ว่า บัตรที่ไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้ให้ถือเป็นบัตรเสีย ดังนั้นทางผอ.กต.ชลบุรี จึงต้องส่งซองที่บรรจุบัตรเลือกตั้ง ทั้งแบบสัดส่วน และแบบแบ่งเขตมายังสำนักงานกกต.ให้รับทราบ และเรื่องนี้ทางผอ.กต.ชลบุรี ได้ส่งมาสำนักงานกกต.ให้หลังวันเลือกตั้ง ซึ่งประมาณเดือนม.ค.2551 และเมื่อเจ้าหน้าที่จำทำเรื่องส่งให้กับทางกกต.รับทราบ แต่ก็ยังไม่ทันได้ส่ง และได้หายไป ทำให้กกต.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบว่าเอกสารหายไปอย่างไร
แต่เมื่อปรากฏหลักฐานว่า ของที่หายดังกล่าวนั้นไปปรากฏอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยพล.ต.ต.เสวก ได้นำไปให้ เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบเรื่องบัตรเลือกตั้งนั้น จึงมีข้อสงสัยว่า ไปอยู่ในมือของพล.ต.ต.เสวกได้อย่างไร และเจ้าหน้าที่ตรวจก็ต้องไปสอบพล.ต.ต.เสวกว่าได้ข้อมูลดังกล่าวนี้มาได้อย่างไรหรือจากไหน หากพล.ต.ต.เสวกไม่สามารถตอบคำถามได้ก็เท่ากับว่าพล.ต.ต.เสวกรับของโจร หรือเป็นการลักทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.เสวก เดินทางไปที่ดีเอสไอ และยื่นเอกสารพร้อมหลักฐาน กล่าวโทษให้ดำเนินคดีการทุจริตฮั้วประมูลและทุจริตการเลือกตั้ง โดยนำ 1.สำเนาคำร้องเรียนการทุจริต และขอคัดค้านการเลือกตั้ง ลงวันที่ 1 ก.พ. 2551 จำนวน 1 ฉบับ 2.สำเนารายงานประจำวัน สน.โคกคราม ลำดับ 3 เวลา 13.15 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 จำนวน 1 ฉบับ แนบมาด้วย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใน 2 ประเด็น 1.กล่าวโทษ กกต.ว่ามีพฤติกรรมไม่สุจริต 2.มีการฮั้วประมูลเอกสารการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เสวก กล่าวว่า ขอร้องเรียนและกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีกับคณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูลกรณีการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรและการปฏิบัติหน้าที่และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พล.ต.ต.เสวก กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา ตนได้รับทราบข้อมูลจากพลเมืองดีว่า ในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งแบบสัดส่วนและแบ่งเขต มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาบางราย รวมทั้งมีการกำหนดและยกเว้นคุณสมบัติบางรายการ เพื่อให้ผู้เสนอราคารายหนึ่งได้รับงานไป จากนั้นได้นำบัตรเลือกตั้งบางส่วนไปกาเลือกเบอร์พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และสมาชิกสภาผู้แทนบางเบอร์ เพื่อให้ได้คะแนนเสียงที่สูงขึ้น แล้วนำไปสับเปลี่ยนกับบัตรเลือกตั้งจริงที่ประชาชนออกมาลง คะแนน โดยทำกับการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธ.ค. 2550 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นจริง
นอกจากนี้ พล.ต.ต.เสวก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.โคกคราม ว่าพบการทุจริตบัตรเลือกตั้ง จากนั้นจึงนำหลักฐานดังกล่าวมายื่นให้กกต. ซึ่งทางกกต.ได้รับเรื่องไว้ แต่ไม่ได้ดำเนินการอะไร เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ตนจึงทำหนังสือถามความคืบหน้าไปยังกกต.กลับไม่มีคำตอบกลับมา ต่อมาในวันที่ 27 ก.พ. กกต.ได้เรียกตนเข้ามาสอบถามเพิ่มเติม จนถึงวันนี้ (27 มี.ค.) เป็นเวลาครบ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
คนที่มีหน้าที่กำกับและควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ส่อเจตนาที่จะช่วยพวกเดียวกันหรือให้โทษผู้ใดผู้หนึ่ง จึงขอร้องเรียนและกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้เกี่ยวข้องในความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล กรณีการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยข้อหาดังกล่าวจัดอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 235 - 236 วงเล็บ 5 ประกอบด้วย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 24, 29 และ 45พล.ต.ต.เสวกกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าจะถูกมองเป็นประเด็นทางการเมือง พล.ต.ต.เสวก กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถตรวจสอบประวัติย้อนหลังทางการเมืองของตนได้ เพราะไม่เคยสมัครส.ส. หรือตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ที่มาร้องเพราะต้องการเห็นความเป็นธรรม ส่วนใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์นั้น ตนไม่เกี่ยว
จากคุณ :
compassion
- [
วันเนา (14) 16:07:12
A:118.172.62.104 X:
]