หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณายาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
ทหารไทยมีบทบาทในทางการเมืองมาโดยตลอด
และภายหลังจากการปฏิวัติ รัฐประหาร หรือการกบฏ ในระยะแรกๆของประชาธิปไตย
บุคคลที่สามรถกล่าวได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของการฉ้อราษฎร์บังหลวงคนแรกก็คือ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัตน์
จอมพล สฤษดิ์ ใช้อำนาจของการเป็น "ผู้เผด็จการที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" กอบโกยทรัพย์สินเงินทอง
ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งจากการที่มีผู้มาเสนอให้และการเรียกเก็บจากหน่วยงานทุกชนิดที่ต้องการใช้ผลประโยชน์จากอำนาจของเขา
และจอมพล สฤษดิ์ ก็ไม่เคยต้องวิตกว่ามีใครบ้างที่จะรู้ เพราะว่าเขาก็ทำอย่างเปิดเผย
มีการประมาณกันอย่างคร่าวๆว่า เขามีรายได้วันละหลายล้านบาทต่อวัน
(ขอให้ทุกท่านลองคิดดูว่าสมัยนั้นก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวแกงจานละห้าสิบสตางค์หรือบาทเดียว)
จนเมื่อเฃาสิ้นชืวิตลง จึงพบว่ามีกองมรดกก้อนใหญ่มหึมากว่าสามพันล้านบาท
ที่ให้ลูกๆเมียๆที่มีอยู่มากมาย ได้แย่งชิงกันเหมือสุนัขแย่งอาหารกัน
รัฐบาลหลังจากนั้นก็สำนึกในความละอาย ทำการ "ยึด" ทรัพย์สินเหล่านั้นพอเป็นพิธี
รัฐบาลหลังจากนั้นซึ่งส่วนมากก็เป็นรัฐบาลที่มีทหารเป็นนายกรัฐมนตรี(ถนอม -ประภาส -เกรียงศักดิ์ ฯลฯ)
ก็ทำการสืบทอดเจตนารมย์ของรุ่นพี่ ที่จะต้องทำให้วงศ์ตระกูลร่ำรวยกันต่อๆมา
เพราะว่า การที่พวกท่านที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีอำนาจแล้ว การมีเงินทองควบคู่ไปด้วยนั้น เหมือนกับการอยู่บนสวรรค์นั่นเอง
ทหารรุ่นต่อๆมาอย่างพลเอก ป, พลเอกจ๊อด, พลเอกสุ ,พลเอกตุ๋ย ก็ต่างมีทรัพย์สินที่ใช้กันไม่หมด
และที่เหนือชั้นไปกว่านั้น ก็ไม่มีทางที่จะถูกตรวจสอบได้
(จะมีแต่พลเอกจ๊อดคนเดียวที่ถูกเปิดเผยเพราะเกิดการแย่งกัน ไม่แบ่งกันใช้อย่างประณีประนอม)
รุ่นหลังๆอย่างพลเอกเขายายเที่ยง หรือพลเอกบัง รวมทั้งพลเอกสงั่ง
ถ้าเทียบกันกับพวกรุ่นๆพี่แล้ว แทบจะไม่อยู่ในอันดับของ "อภิมหา"เท่าไรนัก
และนี่คือต้นเหตุที่ทำให้ประเทศไทยต้องเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไป
เพราะเมื่อผู้มีอำนาจในเครื่องแบบเป็นต้นแบบเสียงเองแล้ว
นักการเมืองที่เป็นพลเรือนมีหรือที่จะปล่อยให้โอกาสดีๆหลุดรอดไปง่ายๆ
เพียงแค่เสนอ "เศษๆ" ให้ทหารแล้วไซร้ ทุกอย่างก็เหมือนหมูในอวย
ยิ่งเมื่อใดที่ประเทศถูกปกครองด้วยนักการเมืองพวกมืออาชีพที่ไม่มีอาชีพอื่นใด นอกจากการเป็นนักการเมือง แต่กลับรวยเอาๆ ประเทศก็บอบช้ำอย่่งที่แล้วๆมา
ไม่ต้องไปคิดการก้าวหน้าหรือแข่งขันกับประเทศอื่นๆหรอก
ขอชาตินี้ฉันและพวกได้มีอำนาจและเงินทอง อาศัยอยู่ในบนสวรรค์ที่ชื่อ ประเทศไทยก็พอแล้ว
...
ป.ล.ด้วยความเคารพในบรรพบุรุษและวิญญาณของทหารไทยที่เป็นนักรบและผู้เสียสละให้กับประเทศชาติ
ยังมีทหารไทยที่ดีๆและเป็นต้นแบบของผู้ที่สวมใส่เครื่องแบบ ที่มีสำนึกในการรับใช้ชาติอย่างกล้าหาญ
ที่ไม่เคยยอมรับอามิสสินจ้าง ไม่เคยทรยศกับอาชีพและเครื่องแบบที่ท่านเหล่านั้นสวมใส่
แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในประเทศนี้เพียงเพราะว่าพวกท่านเป็นคนดีเกินไป
ฃอให้พวกท่านรักษาความดีเหมือนเกลือที่รักษาความเค็มและรับความคารวะจากข้าพเจ้าด้วยใจจริง
โปรดระลึกอยู่เสมอว่า "ทำดี ย่อมได้ดี"
...
จากคุณ :
turning_leaf
- [
21 เม.ย. 51 09:02:22
A:71.119.57.27 X:
]