บทความนี้ ผมได้จาก hi5 มีคนส่งมาให้ อ่านแล้วน่าสนใจจริงเชียว
1.
+++เรื่องจริงที่สนธิ อยากปกปิด อ่านตรงนี้
เหตุที่ สนธิ หยุดการชุมนุมไม่ได้
เพราะเป็นแหล่งรายได้มหาศาลของเขาแต่เพียงผู้เดียว
นับแต่สร้างกระแสปิดกั้นสื่อ และมีผู้คนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 ถึง มีนาคม 2549 สนธิ ขายจานรับดาวเทียม
ASTV ไปแล้วประมาณ 200,000 จาน ราคาจานละ 10,900 บาท คิดเป็นเงิน 2,180,000,000 บาท (สองพันหนึ่งร้อยแปดสิบล้านบาทถ้วน) หักต้นทุนค่าจานดาวเทียมและค่าติดตั้ง
รวมค่าการตลาด ค่าการขาย เฉลี่ยจานละ 5,000 บาท ได้กำไรจานละ 5,900 บาท
คิดเป็นเงินกำไรที่สนธิ ได้จากการการขายจานดาวเทียม ASTV จำนวน 1,180,000,000
บาท (หนึ่งพันหนึ่งร้อยแปดสิบล้านบาทถ้วน) หากหยุดการชุมนุมด่าทักษิณ ชินวัตร และ รัฐบาลไทยรักไทย หากการเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ รายการเด็ดที่สุดของ ASTV ก็จะหายไปจากผังรายการทันที ความสนใจของประชาชนที่จะซื้อจานดาวเทียมก็จะหมดไป หรือลดน้อยลงไป เงินรายได้
ก็จะไม่เพิ่มความมั่งคั่งก็จะไม่มากมายอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะฉะนั้น สนธิ จึงไม่ยอมหยุดการชุมนุม เพราะต้องการคงรายการที่เด็ดที่สุดของ ASTVไว้ เงินทุกบากทุกสตางค์ที่ได้จากการขายจานดาวเทียม สนธิ เอาเก็บไว้ที่ฮ่องกงไม่เคยฝากในเมืองไทย เงินที่ได้จากการขายเสื้ออีกเกือบ 300 ล้านบาท ก็ฝากในฮ่องกง เหมือนกัน ประมาณการคร่าวๆ สนธิได้เงินจากการก่อวิกฤตให้กับประเทศไทยรอบนี้ไปแล้ว ไม่น้อยกว่า 1,500,000,000 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท)นี่ยังไม่ได้รวมรายได้จากการผลิต CD ต่างๆ ขายได้อีกเป็นร้อยล้าน ในขณะที่แกนนำสมาพันธ์ฯ
และ
2.
คนอื่นๆ ต้องการลุยให้รู้แล้วรู้รอด ต้องการกดดันให้เรื่องจบไปทางใดทางหนึ่ง
แต่สนธิ ต้องการดึงไว้ให้นานที่สุด เพราะสนธิ ได้ประโยชน์อยู่คนเดียว
ยิ่งนานวัน ยิ่งชุมนุมยืดเยื้อ สนธิ ยิ่งแข็งแรง แต่แกนนำคนอื่นๆ
ยิ่งชุมนุมนานวัน ก็ยิ่งอ่อนแรง ทั้ง จำลอง ศรีเมือง สุริยะใส กตะศิลา สมศักดิ์ โกศัยสุข
พิภพ ธงไชย และสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ โดยเฉพาะนายทุน อย่างประชัย เลี่ยวไพรัตน์
ตอนนี้หน้าซีดหน้าเซียวกว่าทุกคน เพราะไล่ไม่เสร็จเสียที ยิ่งไล่ เงื่อนไขการชุมนุม
ยิ่งเพิ่ม ไล่ไม่จบเสียที สมาพันธ์ฯประกาศชัยชนะไปแล้วหลายครั้ง
แต่ก็หยุดการชุมนุมไม่ได้ เพราะ.... ยิ่งชุมนุมนานเท่าไร สนธิ ยิ่งชอบมากเท่านั้น
ตอนนี้มีแต่สนธิ คนเดียว ที่สนุกสนานกับการชุมนุม เพราะได้นับเงินเพลิน
แต่คนอื่น ได้แต่นับหนี้ที่เพิ่มขึ้น สนธิ ขออีกนัด และ อีกนัด และอีกนัด
อยู่เรื่อยไป การชุมนุมแล้วหยุดพัก แล้วนัดชุมนุมต่อสลับกันไปเป็นการสร้างกระแสความกระหายข่าวต้องการบริโภคสื่อซึ่งเป็นการทำการตลาดให้เกิดความต้องการจานจานดาวเทียมASTV
และCD การปราศรัย เป็นการตลาดที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาของ
สมาพันธ์ฯ และการชุมนุมไล่ทักษิณ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าใครได้ประโยชน์สูงสุด
ท่านนักวิชาการทั้งหลายที่ท่านคิดว่าตนเองฉลาดกว่าคนที่เชียร์นายกคิดวิเคราะห์
ต่าง ๆ มากมาย แต่ใครตกเป็นเครื่องมือของใครลองวิเคราะห์ดู แน่นอน....
คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด
และ
3.
แล้วเป้าหมายที่แท้จริงของพันธมิตรที่แท้จริงคืออะไรกันแน่
หรือเพียงแค่ปกป้อง หวยใต้ดิน บ่อน ยาเสพย์ติด และธุรกิจเถื่อนอื่น ๆ
ป.ล. ไหนบอกว่า เป็นพันธมิตรฯเพื่อประชาธิปไตยไง แต่ทำไมต่อต้านรัญบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และ หนับหนุนรัฐบาลที่มาจากเผด็จการ งงงวย
....
จากคุณ : กวีสวรรค์ - [ 2 มิ.ย. 51 23:11:37 A:58.9.42.244 X: ]
จากคุณ :
นึกแนะ
- [
3 มิ.ย. 51 11:56:09
A:124.120.19.237 X:
]