ในช่วงเวลาหลายเดือนมานี้เราคงได้เห็นผลงานและคุณภาพของสื่อ TPBS ที่มีกำเนิดมาจากไส้ติ่งของรัฐบาลของ คมช.
โดยวัตถุประสงค์ที่แสดงออกต่อสังคมคือ การเป็นทีวีที่เป็นปากเสียงของคนในสังคมโดยไม่มุ่งหวังประโยชน์และผลกำไร..... แต่วัตถุประสงค์ที่ซ่อนเร้นของผู้ก่อตั้งก็คือ....การตั้งขึ้นเพื่อเป็นเสี้ยนหนาม...และคอยสกัดตัดตอนขั้วอำนาจที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายทำรัฐประหาร 19 กย. โดยดูได้จากการเร่งรีบทิ้งทวนจัดตั้งทีวีช่องนี้อย่างฉุกละหุกจากการบัญชาการของ พลเอกสุรยุทธ์ นายกฯในขณะนั้น
ในที่นี้เราจะละไว้ไม่พูดถึงเรื่องคุณภาพของทีวี ที่รายการส่วนใหญ่เป็นวีดีโอสารคดี และหนังชุดเก่า ๆ ที่สามารถหาได้ตามคลองถม และร้านเช่าวีซีดีทั่วไป ... เราจะยังไม่พูดถึงเงิน 2000 ล้าน , อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และบุคลากรมากมาย ที่น่าจะผลิตรายการที่หลากหลายเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้มากกว่ารายการอนาถาน่าเบื่อที่ออกอากาศอยู่ในปัจจุบัน
แต่เราจะมาว่าถึงพฤติกรรมของ TPBS ว่ามีศักดิ์ศรีคู่ควรกับคำว่าสื่อสาธารณะหรือไม่
อันที่จริงแม้ TPBS จะมีกำเนิดมาจากเผด็จการทหาร แต่ถ้าคนทำงานมีจิตวิญญานของความเป็นสื่อสารมวลที่แท้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทอสูรสืบทอดเจตนารมณ์แบ่งเขาแบ่งเราจากผู้ให้กำเนิด
พฤติกรรมที่ผ่านมาของ TPBS นั้นแสดงออกอย่างแทบจะเด่นชัดว่าเป็น อีกรูปแบบหนึ่งของ "สื่อเลือกข้าง" ไม่คู่ควรเลยกับคำว่า "สื่อสาธารณะ"
มิหนำซ้ำพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างขัดแย้งเหมือนคนสับสนทางความคิด หรือไม่ ก็คนตีสองหน้า ยก ตย.
รายงานข่าวเมื่อเช้าวันที่ 3 มิย. มีการทำสกู๊ปข่าวพิเศษ เพื่อสัมภาษณ์พ่อค้าแม่ขาย โดยวัตถุประสงค์ของข่าวเป็นทำนองเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติความขัดแย้งทางการเมือง และหันหน้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างจริงจังเสียที
แต่ทั้งนี้พฤติกรรมของ TPBS ที่ผ่านมาขัดแย้งกับความต้องการสมานฉันท์อย่างสิ้นเชิง อาทิเช่น การเสนอข่าวความขัดแย้งอย่างละเอียดถี่ยิบมากกว่าฟรีทีวีทุกช่อง และทุกสื่อ
มิหนำซ้ำลักษณะท่าทีของการนำเสนอข่าวรวมถึงท่าทีของผู้ประกาศและพิธีกรดำเนินการ (แทบทุกรายการ) นำเสนอแบบที่ตั้งใจดิสเครดิตฝ่ายหนึ่งและสนับสนุนอีกฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน ในแบบที่ตั้งธงไว้ในใจ ห่างไกลจากคำว่าความเป็นกลาง ถ้าจะยก ตย.พฤติกรรมของพิธีกรเหล่านั้นมาเขียน หน้านี้ทั้งหน้าคงมีเนื้อที่ไม่พอ.... แต่คนที่มีสติดี ดูแล้วย่อมรู้ทันทีว่า คนเหล่านั้นมีความเป็นกลางหรือไม่ ต้องการความสมานฉันท์จริงหรือไม่
พฤติกรรมของ TPBS ในช่วงที่ผ่านมา พัฒนาไปอีกไม่กี่ขั้นก็แทบจะเทียบเท่า เศษขยะของวงการสื่อ อย่างนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง หรือสื่อถุงเท้าของสนธิ ลิ้ม (สื่อเลือกข้าง) เช่น ASTV
จึงเป็นคำถามต่อสังคมว่า ... หากเรามีทีวีที่เผาผลาญงบประมาณ โดยที่ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร ทั้งยังก่อให้เกิดโทษ .... เราควรยังจะมีสื่อแบบนี้อยู่หรือไม่
เพราะพฤติกรรมที่เป็นชนวนสร้างความแตกแยกในสังคมและเป็นอุปสรรคต่อความสงบสุขของประเทศเหล่านี้ ไม่สมควรจะมาจากสื่อที่อ้างตนว่าเป็นสาธารณะ
ดังนั้นจึงขอประณาม และเรียกร้องให้ TPBS พิจารณาตนเอง และปรับเปลี่ยนท่าทีการทำงาน เพื่อให้มีศักศรี และคุณค่า คู่ควรกับคำว่าสื่อสาธารณะมา ณ. ที่นี้ด้วย
***(ขอเชิญท่านที่เห็นด้วยร่วมลงชื่อประณามพฤติกรรมและท่าทีของ TPBS มาในโอกาสนี้ด้วยครับ)***
จากคุณ :
Uncle-Dave
- [
4 มิ.ย. 51 17:01:24
A:58.9.66.201 X:
]