http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=7925
คอลัมน์
เลือกคบไม่เลือกข้าง
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 9 ฉบับที่ 2299 ประจำวัน จันทร์ ที่ 2 มิถุนายน 2008
โดย กาหลิบ
รู้จักกันน้อยไป
ออกจะประหลาดอยู่ไม่น้อยเมื่อนายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณว่าอาจจะต้องเข้าควบคุมสถานการณ์การประท้วงก่อนจะลุกลามบานปลาย แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกลับพูดไปเสียอีกทางหนึ่ง
ในแง่ประชาธิปไตยก็ดูดีอยู่ล่ะครับ แต่ในการบริหารแล้วย่อมสร้างความสับสนได้
จุดยืนของคุณสมัครนั้นชัดเจน ในเมื่อเหตุที่ฝ่ายผู้ประท้วงนำมาอ้างได้หมดลงไปแล้ว ด้วยการลาออกของรัฐมนตรีและการถอนเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน แต่ยังขืนจะประท้วงกันอีก ถึงขั้นจะไล่รื้อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกันเสียด้วยอย่างนี้ ท่านก็บอกว่ามากเกินไป
ผมยังไม่ได้อ่านเหตุผลของคุณเฉลิม อยู่บำรุง ว่าอะไรเป็นเหตุให้ท่านมีความเห็นว่าการประท้วงนี้ควรดำเนินต่อไปได้ ปากคำในเรื่องนี้ของท่านน่าสนใจ เพราะต้องเป็นเหตุผลที่ทำให้คนไทยทั่วประเทศเชื่อให้ได้ว่าการประท้วงกันต่อไปนั้นมีประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมมองไม่เห็นเลย รังแต่จะทำให้ประเทศชาติดูวุ่นวายไม่รู้จบรู้สิ้น แต่คงจะมีอะไรที่นึกไม่ถึง มท.๑ ท่านถึงไปออกรับแทนเขาอย่างนั้น
เอาเถิดครับ มุมมองที่ต่างกันยังไม่สำคัญเท่ากับว่าคนที่คร่ำหวอดมาในการเมืองแบบไทยเขานึกทันทีว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างแรงกดดันอย่างแรงให้กับคนชื่อสมัคร สุนทรเวช
เพื่อกระตุ้นเตือนหนักๆว่าใครเป็นตัวจริงและใครเป็นนอมินี เรื่องนี้ต้องมองถอยหลังไปให้ไกลหน่อย จะพบว่าคุณสมัครจะเป็นนอมินีหรือไม่กลายเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ เพราะตัวคุณสมัครในฐานะจอมยุทธ์ทางการเมืองได้ใช้ความชำนาญพลิ้วหลบศัตรูตัวจริง และทำให้รัฐบาลอยู่รอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ การแก้เกมโดยตลอดมาทุกๆครั้งแสดงให้เห็นว่าเรามีผู้นำรัฐบาลที่รู้สถานการณ์อย่างลึกซึ้งและรับมือไหว พูดอย่างไม่เกรงใจคือ คุณสมัครในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีประโยชน์อย่างลึกซึ้งต่อการรักษาประชาธิปไตยในระยะนี้ จะขัดใจใครหรือทำให้ใครรู้สึกขวางอย่างไรก็เป็นบาปกรรมของคนที่คิดอย่างนั้นเอง เพราะแสดงว่าคนคนนั้นอาจจะไม่ได้ยึดประโยชน์ใหญ่ของบ้านเมืองเป็นหลัก ต่างจากคุณสมัครมาก เรื่องแบบนี้ถึงจะสวนทางกับความยึดมั่นถือมั่นบางอย่าง แต่ผู้คนในบ้านเมืองทั้งสองฝั่งเริ่มจะเห็นว่าอะไรเป็นอะไรแล้วล่ะครับ ใครเป็นแร่ ใครเป็นทอง เริ่มจะเห็นจากงานนี้เป็นต้นไป คุณสมัครเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆคนก็ออกจะมองว่าเป็นเสมือนโฆษกระดับสูงของรัฐบาลมากกว่าหัวหน้าคณะผู้บริหารประเทศ เอาไว้คอยคำถามสื่อมวลชนวันละ ๒-๓ เวลา คอยควบคุมการประชุมคณะรัฐมนตรีและดูแลพรรคพลังประชาชนแบบห่างๆเท่านั้น อย่างอื่นเขาจะช่วยคิดและช่วยทำให้เสร็จสรรพ แต่แล้วการณ์ก็มิได้เป็นเช่นนั้น
ฝ่ายที่เชื่อกันว่ามีสติปัญญามากและจะเป็นคนคิดอะไรดีๆออกมาป้อนรัฐบาลโดยตลอด กลับมีทีท่าติดๆขัดๆ แถมส่งสัญญาณอันสับสน ไม่รู้จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปหรือจะยอมจำนนต่ออำมาตยาธิปไตยกันแน่ ในที่สุดคนที่เขากำหนดให้นั่งเฉยๆ รอเล่นไปตามบท กลับกลายเป็นผู้นำแหวกวงล้อมแห่งความสับสนอลหม่านและภาวะตั้งรับทางการเมือง ไปสู่จุดที่เรียกได้ว่าไม่ได้เพลี่ยงพล้ำจนหมดรูปนัก หากฝ่ายสนับสนุนรู้จักเล่นบทบาทของตนในการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังและถูกจังหวะ รัฐบาลก็อาจจะพลิกมาสู่บทบาทนำได้ไม่ยาก แต่คนเล่นก็เล่นจนลิ้นห้อยเหนื่อยแรง ในขณะที่ความสนับสนุนใดๆไม่เคยมาถึง สภาพการณ์ถึงได้เป็นอย่างนี้ไงล่ะครับ มีเสียงข้างมากและเป็นรัฐบาล แต่กลับกุมสภาพต่างๆไม่อยู่ ในเกมการรบทุกสนาม ถึงฝ่ายเขาจะไม่ได้พร้อมไปกว่าฝ่ายเรา แต่เรากลับทำตัวว่าไม่พร้อม ง่อยเปลี้ยเสียขาเสียเองแล้ว โอกาสที่จะชนะในสงครามย่อมมีน้อยถึงน้อยที่สุด เห็นอย่างนี้แล้วอดนึกอะไรต่อไปไม่ได้ หากคนที่ถูกมองว่าเป็นนอมินีแกเกิดเจ็บใจขึ้นมา ประกาศเอกราช ออกแรงฮึดสถาปนาแนวทางที่สามขึ้นมาเป็นทางเลือกของประชาชนที่พร้อมต่อการต่อสู้สมรภูมิครั้งนี้ น่าจะสนุกเร้าใจขึ้นอีกมาก เผลอๆอาจจะได้ประชาธิปไตยอันแท้จริงที่ตรงนั้น.
จากคุณ :
นักกวนเมือง
- [
4 มิ.ย. 51 18:00:33
A:58.8.182.69 X:
]