ในตอน ๒. ได้ยกมาตรา ๔  มาตรา ๒๘ และมาตรา ๓๐ ในรัฐธรรมนูญมาเพื่ออธิบายให้เห็นว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนทุกคนต้องได้รับความคุ้มครองโดยเสมอภาค เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องไม่ปล่อยให้บุคคลใดนำสิทธิเสรีภาพมาอ้างในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น เพราะบุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน และในตอนท้ายได้นำเสนอว่าจะกล่าวถึงมาตราที่ใช้หักล้างข้อกล่าวหาเรื่องรัฐบาลหุ่นเชิด แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่าในประเด็นนี้น่าจะแยกไว้เป็นอีกกระทู้หนึ่งน่าจะมีความเหมาะสมกว่าจึงขอกล่าวถึงมาตราอื่นๆ ต่อไป ดังนี้  

“มาตรา ๔๕ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา  และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น   การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอีนดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันหรือระงับความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชน”

ที่ผ่านมาการปราศรัยบนเวทีโดยส่วนใหญ่ของแก็งค์พันธมิตรมิได้เป็นในลักษณะการแสดงความคิดเห็น แต่เข้าข่ายการปลุกระดมโดยได้มีการนำสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อยุยงให้เกิดความเกลียดชังแตกแยกต่อกันในหมู่คนไทย ซึ่งหนึ่งในแกนนำได้ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกโดยมิรอลงอาญาในคดีลักษณะเดียวกันนี้ไปแล้ว  นอกจากนี้ยังมีการนำข้อมูลเท็จมาใช้ในการปลุกระดม  เช่น กรณีเรื่องเขาพระวิหารซึ่งนำไปใช้โจมตีรัฐบาล เพื่อหวังปลุกกระแสชาตินิยมให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมา  การนำเสนอข่าวการตั้งสมเด็จพระสังฆราชเพื่อใช้โจมตีอดีตนายกรัฐมนตรีโดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่วงการพุทธศาสนา  การกระทำของแก็งค์พันธมิตรจึงเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาทั้งในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน

“มาตรา ๖๘ บุคคลจะใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้”

เมื่อเร็วๆ นี้แก็งค์พันธมิตรได้แสดงท่าทีกดดันผู้บัญชาการทหารบก พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ว่าขอให้เลือกข้าง   พล.ต.จำลอง ศรีเมืองประกาศชักชวนให้ทหารเข้ามาร่วมชุมนุม  ภาพเหล่านี้สะท้อนว่าแก็งค์พันธมิตรยังคงต้องการให้ทหารเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงการเมือง โดยหวังให้กองทัพกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของพวกพ้องของตน  โดยช่วงแรกของการชุมนุมในครั้งนี้แก็งค์พันธมิตรได้ประกาศบนเวทีว่าขอให้ทหารออกมาทำรัฐประหารซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาโทษฐานเป็นกบฏและมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

พรุ่งนี้จะนำเฉพาะกฎหมายอาญาล้วนๆ ที่แก็งค์พันธมิตรได้กระทำการที่เข่าข่ายเป็นความผิดในหลายมาตรามาให้ได้อ่านกัน เพื่อให้สังคมร่วมกันรับรู้ว่ากฎหมายอาญาในบ้านเมืองนี้จะคงมีความศักดิ์สิทธิหรือไม่ หรือมีการยกเว้นให้เฉพาะคนบางกลุ่มบางพวก ?  

ตอน ๒. เราจะอยู่กันอย่างไรถ้าชนชั้นปกครองปล่อยให้ประชาชนตั้งรัฐอิสระและดื้อแพ่งต่อกฎหมาย  http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6696405/P6696405.html