http://matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOekkwTURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB5TkE9PQ==
กรณี เขาพระวิหาร กับ ฐานคิด ความเชื่อมั่น สังคม ประเทศไทย
คอลัมน์ หักทองขวาง
กรณีเขาพระวิหารก็อีหรอบเดียวกันกับกรณีการกล่าวหาในเรื่องตั้งสังฆราช 2 องค์ และอีหรอบเดียวกันกับกรณีการกล่าวหาเรื่องการทำบุญประเทศในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
นั่นก็คือ เป็นการกล่าวหา โดยไม่สนใจกับ "การพิสูจน์"
นั่นก็คือ แม้จะมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงออกมาอย่างเป็นที่ประจักษ์แล้ว สังคมส่วนหนึ่งก็ยังถือเอา "ข้อกล่าวหา" มาเป็นฐานรองรับความเชื่อ โดยไม่คำนึงถึงการพิสูจน์บนรากฐานแห่ง "ข้อเท็จจริง" ใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน ไม่ว่ากรณีเขาพระวิหาร หรือกรณีการตั้งสังฆราช 2 องค์ หรือกรณีการทำบุญประเทศ ล้วนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
กรณีการทำบุญประเทศละเอียดอ่อนเพราะเป็นวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม
กรณีการตั้งสังฆราช 2 องค์ ละเอียดอ่อนเพราะเป็นเรื่องทางศาสนา และเป็นเรื่องอันสัมพันธ์ทั้งสถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์
ขณะที่กรณีเขาพระวิหารละเอียดอ่อนเพราะเป็นเรื่องเอกราชและอธิปไตย
เป็นเอกราชและอธิปไตยซึ่งไม่เพียงแต่สัมพันธ์กับกัมพูชา หากแต่ยังเป็นเรื่องอันโยงยาวสู่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ถามว่ากรณีการกล่าวหาในเรื่องการตั้งสังฆราช 2 องค์ ซึ่งเป็นประเด็นร้อนตั้งแต่เมื่อปี 2548 ในที่สุดลงเอยอย่างไรมีใครสนใจบ้างหรือไม่
ก็เรื่องนี้มิใช่หรือที่มีการกล่าวหารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ก็เรื่องนี้มิใช่หรือที่ร้อนแรงถึงขั้นมีการกล่าวโทษ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีต่อป.ป.ช.
ผลที่สุด คำวินิจฉัยของป.ป.ช.คือ ไม่มีความผิด
ถามว่ากรณีการวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เหมาะไม่ควรของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันเกี่ยวกับการทำบุญประเทศที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นประเด็นร้อนตั้งแต่เมื่อปี 2548 ในที่สุดลงเอยอย่างไรมีใครสนใจบ้างหรือไม่
เพราะ ณ วันนี้ ก็ยังมีปัญญาชนและนักวิชาการผู้มากด้วยคุณธรรมล้ำเลิศบางท่านยังกล่าวหาอยู่เหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
ทั้งๆ ที่สำนักพระราชวังก็เคยแถลงว่าเคยมีเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นมาก่อน โดยมิได้เป็นงานพระราชพิธีอย่างเดียว หากสามัญชนอย่าง นายประมวล สภาวสุ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็เคยทำมาแล้ว
ทำท่าว่ากรณีเขาพระวิหารจะเดินรอยเดียวกับกรณีสังฆราช 2 องค์ และกรณีทำบุญวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ทั้งๆ ที่ไม่เพียงแต่ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ก็ออกมายืนยันความถูกต้องทางการปฏิบัติ
ทั้งๆ ที่ไม่เพียงแต่ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ก็ออกมายืนยันในกระบวนการเจรจาอย่างเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ
หาก เจ้ากรมแผนที่ทหาร ก็ยืนยันว่าไทยไม่ได้เสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว
หาก เสนาธิการทหาร ก็ยืนยันว่าการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ ผ่านความเห็นชอบมาแล้วของกองทัพไทย
หาก ผู้บัญชาการทหารบก ก็ยืนยันในเรื่องอธิปไตยของชาติ
หาก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อันเป็นหน่วยงานสุดท้ายของระบบราชการไทยก่อนเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ก็ออกมาค้ำประกันความถูกต้อง เหมาะสม
กระนั้น ก็ยังกลายเป็นปัญหา ยังมีคนกลุ่มหนึ่งไม่ยอมเชื่อ
ที่ไม่ยอมเชื่อเพราะมีสมมติฐานการพิจารณาเช่นเดียวกับกรณีตั้งสังฆราช 2 องค์ และกรณีการทำบุญประเทศไทย นั่นก็คือ เป็นการดำเนินการในความรับผิดชอบของ นายนพดล ปัทมะ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป็นเรื่องของนอมินี เป็นเรื่องการต่อรองประโยชน์ของสิ่งที่เรียกว่าระบอบทักษิณ
ทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของการล้มล้างระบอบทักษิณออกจากสังคมประเทศไทย
คำยืนยันจากเจ้าหน้าที่อย่าง เจ้ากรมแผนที่ทหาร เสนาธิการทหาร ผู้บัญชาการทหารบก เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
จึงขาดน้ำหนักและถูกปัดปฏิเสธไม่ยอมรับเสมือนท่านเหล่านี้เป็นตัวแทน "ระบอบทักษิณ"
จากคุณ :
ตระกองขวัญ
- [
24 มิ.ย. 51 10:16:30
A:222.123.217.133 X:
]