เอาแค่หัวข้อ ที่พอสรุปใจความได้ มีดังนี้
ฝ่ายค้าน กล่าวว่า
1.เขาพระวิหารยังสามารถ เป็นของไทยได้อีก ถ้ายังสงวนสิทธิ์เอาไว้
2.ศาลโลกได้ตัดสินให้ เฉพาะตัวปราสาทเป็นของเขมรเท่านั้น ส่วนพื้นที่ยังเป็นของไทยอยู่
3.สรุปว่า ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ คือขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมด้วย
รัฐบาลชี้แจงว่า
1.รัฐบาลตอบว่าก็ยังคงสงวนสิทธิ์อันนี้ไว้ เช่นเดิมมิได้เปลี่ยนแปลง อาจจะ100ปี 200ปีข้างหน้าก็ได้
2.ก็อยากให้คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะเราก็เป็นคนไทย แต่ข้อเท็จจริง หลายหน่วยงานของรัฐ เช่น ทหาร กรมสนธิสัญญากระทรวงต่างประเทศ และคำสั่งของรัฐบาลในช่วงนั้น ได้ แบ่งที่ดินให้เขมรไปแล้ว พร้อมทำรั้วลวดหนามล้อมอาณาบริเวณเป็นเขตุไว้แล้วอย่างชัดเจน มีภาพถ่ายที่ฝ่ายค้านเองนำมาแสดงว่าฝ่ายไทยได้ยกธงชาติของตนเอง ออกจากมาบนเขาพระวิหาร
3.เสนอจดทะเบียนมรดกร่วมแล้วแต่เขมรไม่ยอม
เนื้อหาจริงๆสรุปได้แค่นี้
บางเรื่องที่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่น่ารับฟัง ได้แก่
**ทำไมรัฐบาลต้องรีบร้อนทำในช่วงนี้
// เพราะวันที่สองกรกฎาคม เขมรจะทำการยื่นให้กรรมการมรดกโลกอีกครั้ง ซึ่งได้แนบแผนที่ผิดไปด้วย เรากลัวว่า ถ้าอนุมัติมาจริง เราจะเสียดินแดนส่วนอื่นไปด้วย จึงต้องรีบทำเขตุแดนให้ชัดเจน
**มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันกับ พื้นที่ทางทะเลที่เป็นเขตุทับซ้อนเหมือนกันให้กับอดีตนายกฯ ที่มีมูลค่า กว่าล้านล้านบาท
/ /มีการเจราจาเรื่องเขตทับซ้อนในทะเลจริงเรื่องนี้ทำมาสิบปีแล้ว แต่ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลย และยืนยันได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาไปเชื่อมโยงกัน ส่วนใครจะไปลงทุนกันที่ไหนในเขมรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไทยตรงไหน
**คำวินิจฉัยของศาลโลกไม่เป็นธรรม
// ไม่มีใครเถียงแต่ 46ปีมาแล้วทำไมไม่ดำเนินการอะไรให้เสร็จสิ้น ฝ่ายค้านเองก็เป็นรัฐบาลมาหลายครั้งแล้ว
**คนไทยได้ประโยชน์อะไร
//ได้แน่นอน ทั้งท่องเที่ยว ทั้งผู้ประกอบการในประเทศเขมร ละยังมีพื้นที่ในเขมรอีกหลายส่วน ที่คนไทยไปถือครอง ปลูกข้าว ข้าวโพด ส่งขายสู่ตลาดโลกทุกวันนี้
**พื้นทีทับซ้อน ที่เขมรเข้ามาทำมาหากินในเขตุไทย ปล่อยได้อย่างไร
//เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี่43แล้ว และปัจจุบันได้มีการทำข้อตกลงร่วมแบ่งผลประโยชน์จากประชาชนทั้งสองฝั่ง
เรื่องตลกน่าคิด
**ถ้าเป็นอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าว ตัวปราสาทเป็นของเขมร แต่พื้นดินเป็นของไทย จะทำอย่างไร
// เราก็เอาพื้นดินของเราคืนมาแล้วให้ปราสาทรอยอยู่อย่างนั้น
อยากจะให้คะแนนกลัวผู้ที่เข้ามาอ่าน จะหาว่าผมลำเอียงเลยไม่ให้ดีกว่า ครับ
แต่ถ้าพูดอย่างนี้พอได้ครับ
คุณอภิสิทธิ์เกือบพอใช้ครับ
คุณชวน สอบตกและไม่น่าเชื่อว่าต่ำกว่ามาตรฐานได้ขนาดนี้
คุณบัญญัติยิ่งกว่าเด็กหัดใหม่แต่ได้ลูกยอจากท่านสมัครแทน เอาไปกิน
มรว.สุขุมพันธุ์ เหมือนคนไม่สมประกอบ พูดจาจับสาระไม่ถูก แถมยังด่านายกเอาดื้อๆแบบไม่มีที่มาที่ไป
บางท่านอย่างคุณเทพไทย ให้ข้อมูลที่ไร้ค่าเกินกว่าจะนั่งในสภาฯ ผมอ่านหนังสือพิมพ์ดูทีวียังดีกว่าดูสส.ท่านนี้ออกมาอภิปราย
และงานนี้ บอกได้ว่าคุณนภดล เป็นพระเอกครับ
ส่วนตัวผมมองเห็นว่าเป็นอย่างไร
ถ้าผมเป็นรัฐบาล จะส่งคนไปยุม็อบให้ไปประท้วงเขมรไปเลย รู้แล้วรู้รอด
อะไรจะเกิดก็ให้เกิด ดีเหมือนกัน ว่างๆไม่มีงานทำนั่งอยู่หน้าทำเนียบ ไปประท้วงเขมรที่ชายแดน แล้วให้ฝ่ายค้านที่รักชาติมากกว่าใครๆในแผ่นดินไปร่วมสังฆกรรมที่นั่นด้วย
คนที่ทำมาหากินจะได้สะดวกสบายไม่เดือดร้อนเพราะรถติด สถานศึกษาหลายแห่งจะได้ไม่ต้องหยุดเรียน
และสุดท้าย
บอกกันตรงๆ ข้อมูลที่พูดกันในสภาฯ เอามาจากม็อบที่บนถนนทั้งนั้น ไม่มีอะไรใหม่
ฟังแล้วเฉยๆไม่ตื่นเต้นตรงไหน
เลยมีความคิดเสนอแนะว่า
ถ้ามีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กำหนดไปเลยในรัฐธรรมนูญ
1. ให้ฝ่ายค้านร่วมกับพันธมิตรได้อย่างเปิดเผย
2. ให้พื้นที่ตั้งแต่ถนนราชดำเนินจนถึงหน้าทำเนียบ เป็นทีทำงานพรรคฝ่ายค้าน
3. ให้เอเอสทีวี เป็นสื่อเส รีถ่ายทอดพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะ
ทั้งหมดนี้ จะได้เป็นที่พอใจกับทุกฝ่าย และชัดเจน ครับ
จากคุณ :
อ่างขาง
- [
25 มิ.ย. 51 19:00:08
A:118.174.197.31 X:
]