Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ของดีจาก..แนวหน้า...ปราสาทพระวิหาร : ผลประโยชน์ร่วมไทย-กัมพูชา

    กรณีปราสาทพระวิหารหรือปราสาทหินเขาพระวิหาร คือประเด็นหนึ่งที่เปรียบเสมือนแผลเก่าระหว่างชนชาติไทยกับชนชาติเขมร แผลเก่ารอยนี้คงไม่มีวันจางหายไปจากความทรงจำของชนชาติทั้งสองไม่ว่าวันเวลาจะเนินนานสักเพียงใด และในมุมกลับกัน แผลเก่ารอยนี้ยังพร้อมจะอักเสบได้ตลอดเวลาและยังสามารถถูกนำไปใช้เป็นประเด็นทางการเมืองได้ทุกยุคทุกสมัย ประเด็นปราสาทเขาพระวิหาร มิใช่ประเด็นการเมืองภายในของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นปมประเด็นสำคัญที่สามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาที่สำคัญยิ่ง เพราะทั้งไทยและเขมรต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือเทวสถานอันศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยกัน

    หากจะกล่าวในด้านสถาปัตยกรรมอันวิจิตรแล้ว ปราสาทพระวิหารคือเทวาลัยที่สุดแสนจะโดดเด่นเหนือเทือกเขาพนมดงรัก ที่นักโบราณคดีพร้อมใจยกย่องให้เป็นศรีศิขเรศรหรือเพชรยอดมงกุฏแห่งองค์ศิวะเจ้า และยังยอมรับว่าเป็นผลงานชิ้นหนึ่งของชนเผ่าขะแมร์ภายใต้การปกครองของกษัตริย์แห่งตระกูลยโสวรมัน สุริยวรมัน และชัยวรมัน ซึ่งมีอายุก่อนสมัยสุโขทัยประมาณ 300 ปี

    แต่เมื่อมองในมุมรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์แล้วเรื่องนี้มีความสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์แห่งรัฐ เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีแห่งรัฐ ที่ยากจะยอมกันได้โดยง่าย

    ตามความเข้าใจของผู้เขียน กรณีปราสาทพระวิหารอาจจะไม่ใช่ระเบิดเวลาที่ทำร้ายและทำลายความรู้สึกและมิตรภาพของไทยกับเขมร ถ้าไม่มีลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตกภายใต้การนำของฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากท่านผู้อ่านต้องการจะเข้าใจเรื่องนี้ให้ถ่องแท้แล้ว ขอแนะนำให้กลับไปศึกษากรณี ร.ศ. 112 ที่ฝรั่งเศสยกกองทัพเข้ายึดดินแดนของสยามไปหลายจุด จนเป็นเหตุให้สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงต้องทรงลงพระนามในสัตยาบันกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อแลกเปลี่ยนดินแดนเสียมเรียบ พระตะบองและศรีโสภณให้ฝรั่งเศสเพื่อแลกกับดินแดนจันทบุรี ตราดและเขตอำเภอด่านซ้ายในจังหวัดเลย

    หากจะพูดแบบหาเรื่องก็คือฝรั่งเศสในยุคจักรวรรดินิยมนั่นแหละคือตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างไทยกับเขมร เพราะฝรั่งเศสคือตัวการที่สร้างเส้นเขตแดนระหว่างสยามกับดินแดนอินโดจีนของฝรั่งเศส ครั้นเมื่อฝรั่งเศสมอบคืนเอกราชให้กับเขมร เขมรจึงได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนปราสาทพระวิหาร

    แน่นอนว่ากระแสการเมืองสยามในรัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวง สยามประเทศมีอำนาจด้อยกว่ามหาอำนาจอย่างฝรั่งเศสโดยมิต้องปฏิเสธ นโยบายเรือปืนของมหาอำนาจตะวันตกในยุคนั้นทำให้สยามประเทศไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากจำใจยอมรับแรงบีบคั้นและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาธีรภาพส่วนใหญ่ของพระราชอาณาจักรไว้

    ส่วนกรณีที่ไทยแพ้คดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปีพ.ศ. 2505 นั้นก็เป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับคนไทยทั้งแผ่นดิน แต่เมื่อสถานการณ์ที่สุดแสนจะเลวร้ายฉากนี้ มันผ่านเลยไปแล้ว 46 ปี เราก็ควรจะฝังความทรงจำที่แล้วร้ายไว้ใต้ดินโดยไม่จำเป็นต้องขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก เพราะมันหาประโยชน์อันใดมิได้

    เราควรจะคิดถึงมันในฐานะบทเรียนประวัติศาสตร์ แต่ไม่ควรให้ประวัติศาสตร์หน้านี้กลับมาเป็นต้นเหตุให้คนไทยกับคนเขมรต้องเข่นฆ่ากัน แน่นอนเหลือเกินว่าคนไทยที่มีความคิดและมีจิตสำนึกคงไม่ต้องการดึงปราสาทพระวิหารกลับมาเป็นของเรา เพราะเราไม่ต้องการให้ชาวเขมรเจ็บช้ำน้ำใจ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ต้องการเสียดินแดนใดๆของเราให้กับใครอีก เพราะแผ่นดินใครใครก็รัก

    ทางออกที่ดีที่สุดคือ หาทางสร้างผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกันเพื่อความสมานฉันท์ของราชอาณาจักรทั้งสอง

    เฉลิมชัย ยอดมาลัย

    http://www.naewna.com/news.asp?ID=111240

    จากคุณ : sao..เหลือ..noi - [ 29 มิ.ย. 51 10:27:58 A:58.8.170.160 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom